1. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ไทยชนะอีกฟ้อง EU อุดหนุนส่งออกน้ำตาล
คณะอนุญาโตตุลาการขององค์การการค้าโลก (WTO) ตัดสินขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ยืนยันตาม ผลการตัดสินเบื้องต้นว่า การส่งออกน้ำตาลของสหภาพยุโรป (อียู) บางส่วนเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อ กฎระเบียบ WTO ตามที่ประเทศไทย บราซิล และออสเตรเลียยื่นฟ้อง โดยอียูได้ส่งออกน้ำตาลซึ่งได้รับการอุดหนุนเป็นปริมาณสูงกว่าข้อกำหนดคำตัดสิน WTO ยังไม่มีการเผยแพร่เป็นทางการจนกว่าจะอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยส่งไปให้ชาติที่เกี่ยวข้องรับทราบก่อนแต่เรื่องนี้ก็รั่วไหวจนเป็นที่รู้กันไปทั่วแล้ว ซึ่งคาดว่าการลดการอุดหนุนของอียูจะส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกสูงขึ้น และจะส่งผลดีต่อผู้ผลิตน้ำตาลและเกษตรกร ชาวไร่อ้อยของไทย
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
WTO ตัดสินอียูจะเปิดข้อตกลงด้านการอุดหนุนน้ำตาล
ตามที่ WTO ได้ตัดสินไปเมื่อวันที่ 8 กันยายนว่า อียูส่งออกน้ำตาลที่อุดหนุนมากกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าผลการตัดสินดังนี้ จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่ บราซิล ออสเตรเลีย และไทย แต่จะส่งผลกระทบผู้ผลิตยากจนในอัฟริกา และคาริบเบียน แปซิฟิค โดยนโยบาย น้ำตาลของอียูในปัจจุบัน ได้ประกันการรับซื้อน้ำตาลจากกลุ่มประเทศเหล่านี้ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดถึง 3 เท่าและอียูจะยื่นอุทธรณ์ต่อ WTO โดยคาดว่า WTO จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับนโยบายน้ำตาล ได้แก่ การลดการอุดหนุน การลดการผลิตบีท และการจัดสรรโควตาการผลิต
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 126.76ปอนด์สเตอริง (กิโลกรัมละ 9.33 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 121.78 ปอนด์สเตอริง (กิโลกรัมละ 8.94 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.09
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 225.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 9.34 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 215.75 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 8.94 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.52
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 259.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 10.74 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 257.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 10.68 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 0.65
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 35 ประจำวันที่ 6-12 กันยายน 2547--
-พห-
ไทยชนะอีกฟ้อง EU อุดหนุนส่งออกน้ำตาล
คณะอนุญาโตตุลาการขององค์การการค้าโลก (WTO) ตัดสินขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ยืนยันตาม ผลการตัดสินเบื้องต้นว่า การส่งออกน้ำตาลของสหภาพยุโรป (อียู) บางส่วนเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อ กฎระเบียบ WTO ตามที่ประเทศไทย บราซิล และออสเตรเลียยื่นฟ้อง โดยอียูได้ส่งออกน้ำตาลซึ่งได้รับการอุดหนุนเป็นปริมาณสูงกว่าข้อกำหนดคำตัดสิน WTO ยังไม่มีการเผยแพร่เป็นทางการจนกว่าจะอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยส่งไปให้ชาติที่เกี่ยวข้องรับทราบก่อนแต่เรื่องนี้ก็รั่วไหวจนเป็นที่รู้กันไปทั่วแล้ว ซึ่งคาดว่าการลดการอุดหนุนของอียูจะส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกสูงขึ้น และจะส่งผลดีต่อผู้ผลิตน้ำตาลและเกษตรกร ชาวไร่อ้อยของไทย
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
WTO ตัดสินอียูจะเปิดข้อตกลงด้านการอุดหนุนน้ำตาล
ตามที่ WTO ได้ตัดสินไปเมื่อวันที่ 8 กันยายนว่า อียูส่งออกน้ำตาลที่อุดหนุนมากกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าผลการตัดสินดังนี้ จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่ บราซิล ออสเตรเลีย และไทย แต่จะส่งผลกระทบผู้ผลิตยากจนในอัฟริกา และคาริบเบียน แปซิฟิค โดยนโยบาย น้ำตาลของอียูในปัจจุบัน ได้ประกันการรับซื้อน้ำตาลจากกลุ่มประเทศเหล่านี้ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดถึง 3 เท่าและอียูจะยื่นอุทธรณ์ต่อ WTO โดยคาดว่า WTO จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับนโยบายน้ำตาล ได้แก่ การลดการอุดหนุน การลดการผลิตบีท และการจัดสรรโควตาการผลิต
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 126.76ปอนด์สเตอริง (กิโลกรัมละ 9.33 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 121.78 ปอนด์สเตอริง (กิโลกรัมละ 8.94 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.09
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 225.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 9.34 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 215.75 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 8.94 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.52
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 259.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 10.74 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 257.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 10.68 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 0.65
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 35 ประจำวันที่ 6-12 กันยายน 2547--
-พห-