สาร ส.ส. ฉบับที่ ๘๗ วันที่ ๖-๑๒ กันยายน ๒๕๔๗ (ต่อ)

ข่าวการเมือง Wednesday September 15, 2004 12:32 —รัฐสภา

                ๑.  ประหยัดงบประมาณลงได้ ๓ เท่า
๒. สามารถขยายถนนเครือข่ายใกล้เคียงไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้
จากนั้นได้ขอเพิ่มงบประมาณเพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมต่อเส้นทางสมุทรสงคราม - พระราม ๒ จะได้ หรือไม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรคับคั่ง
นายวิฑูรย์ นามบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายการไม่เห็นด้วยกับงบประมาณของ ๒ หน่วยงาน คือ
๑. กรมทางหลวงแผ่นดิน ในส่วนของค่าการก่อสร้างและคุรุภัณฑ์ การขุดลอกร่องน้ำ ๑๕ ร่องน้ำนั้น เป็นร่องน้ำแห่งใดบ้าง และเป็นการตั้งบประมาณซ้ำซ้อนกับงบกรมเจ้าท่าหรือไม่
๒. กรมทางหลวงชนบท ในโครงการสร้างเครือข่ายสะพานในจังหวัดต่าง ๆ นั้น ขอให้ตั้ง
งบประมาณต่อเนื่องให้กับจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเป็นการกระจายความเป็นธรรมให้กับทุกจังหวัด
๓. การบริหารจัดการการใช้เงินงบประมาณต่าง ๆ ของปีที่แล้วใช้ไปแล้วเท่าไร
นายวิทยา บุรณศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการ ตอบชี้แจงสมาชิกฯ ในประเด็นงบประมาณการขุดลอกร่องน้ำนั้นอยู่ในแผนงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน และ ๑๕ ร่องน้ำนั้นจะได้มอบเอกสารให้สมาชิกศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ กรรมาธิการ ได้ตอบชี้แจงในเรื่องงบประมาณ กรมการขนส่ง ทางน้ำและพาณิชยนาวี ที่ได้รับงบประมาณ ๒,๖๓๗,๕๕๒,๕๐๐ บาท ( สองพันหกร้อยสามสิบเจ็ดล้านห้าแสน ห้าหมื่นสองพันห้าร้อยบาท) และกรรมาธิการได้ปรับลดลง ๑๖๑ ล้านบาท โดยกล่าวว่า เนื่องจากการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่ได้กำหนดไว้ และตามที่ได้มีสมาชิกอภิปรายถึงการใช้งบประมาณในการขุดลอกคลองถึง ๑๓๘ ล้านบาท โดยหากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีดำเนินการขุดลอกเองจะใช้งบประมาณเพียง ๓๘ ล้านบาทเท่านั้น ขอชี้แจงว่า เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านเครื่องมือ เครื่องจักร ค่าเสื่อมราคา และความยากลำบาก ในพื้นที่ดำเนินการ จึงจำเป็นต้องจ้างเหมาตามงบประมาณดังกล่าว
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตอบชี้แจงประเด็น การตั้งงบประมาณในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษสายสมุทรสาคร-แหลมผักเบี้ย-อำเภอชะอำ (สะพานทะเล) ที่ตั้ง งบประมาณถึง ๖,๔๐๐ ล้านบาท ดังนี้
๑. โครงการนี้รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนเริ่มตั้งแต่รับข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผน
การขนส่งและจราจร (สนข.) ที่ได้ทำการพิจารณาศึกษาถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม และความเป็นไปได้ใน ทุกด้านตลอดจนข้อมูลด้านเทคนิคและความคุ้มทุนแล้วจึงส่งข้อมูลให้กับกรมทางหลวงไปตั้ง งบประมาณ เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเห็นชอบ
๒. กรณีการก่อสร้างสะพานลงในทะเล ที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้แสดงความคิดเห็นว่า ควร
จะสร้างบนบกดีกว่านั้น จากการพิจารณาศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความคุ้มทุนในทุกด้านของ สนข.
แล้วพบว่า การก่อสร้างในทะเลเหมาะสมที่สุด
๓. กรณีการตั้งงบประมาณล่วงหน้าร้อยละ ๑๕ ให้กับบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาทำงานนั้นอาจจะ
ก่อให้เกิดการทุจริตขึ้นได้ ขอชี้แจงว่า ได้มีหลักเกณฑ์ป้องกันไว้ด้วยการให้บริษัทเอกชนทำหนังสือค้ำประกันในการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าร้อยละ ๑๕ ไว้ด้วย เพื่อให้บริษัทเอกชนสามารถมีกำลังจะดำเนินงานได้ และถ้าจะมองว่าการทำงานโครงการใหญ่ ๆ จะต้องมีการทุจริตเสมอนั้น ก็อาจจะเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศได้ แต่ก็จะนำ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของกรรมาธิการเสียงข้างน้อยไปพิจารณา
๔. กรณีที่อาจจะไม่สามารถใช้เงินงบประมาณได้ทันกรมทางหลวงได้ชี้แจงมาแล้วว่า สามารถ
ดำเนินการได้ทันโดยในเดือนมีนาคม ๒๕๔๘ จะสามารถออกแบบได้แล้วเสร็จ เดือนเมษายนจะดำเนินการประกวดราคา เดือนมิถุนายนลงนามในสัญญา และเดือนกรกฎาคมเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ซึ่งบริษัทเอกชนที่เข้ามาดำเนินการจะได้รับเงินในการก่อสร้างงวดแรกในเดือนสิงหาคมด้วย
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้อภิปรายในกรณีมีบางประเด็นเรื่อง วิธีการประมูลงาน โดยไม่อยากให้มีการยื่นซองประมูลแบบ ๒ ซอง และควรเปิดซองพร้อมกันทั้งหมด และในโครงการใหญ่ ๆ หลายโครงการควรจะมีการปรับลดเงินล่วงหน้าให้เหลือเพียงร้อยละ ๕ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงเรื่อง การประมูลแบบ ๒ ซองนั้นเป็นไปตามระเบียบของทางราชการที่จะต้องนำไปปฏิบัติ
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายประเด็นการก่อสร้างทางหลวงพิเศษสายสมุทรสาคร-แหลมผักเบี้ย-อำเภอชะอำ (สะพานทะเล) ขณะนี้เกิดความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ๆ โดยรอบและใกล้เคียงว่าจะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็มีทางเลือกแล้ว คือ การขยายถนนเพชรเกษมและถนนพระราม ๒ ซึ่งก็ใช้งบประมาณน้อยกว่าด้วย จึงอยากทราบว่ามีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องสร้างสะพานทะเล
เมื่อสมาชิกฯ ได้อภิปรายและกรรมาธิการได้ตอบชี้แจงในมาตรา ๑๒ พอสมควรแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน ๒๖๑ เสียง
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาต่อในมาตรา ๑๓ ซึ่งเป็นงบประมาณของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีสมาชิกฯ ได้อภิปรายอย่างกว้างขว้างดังนี้
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้แปรญัตติตัดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐ เนื่องจากเห็นว่าเกิดความไม่โปร่งใสดังนี้
๑. โครงการที่จะสร้างโรงกลั่นน้ำมันคอนแดนเซทที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม จังหวัด
เพชรบุรี ชาวบ้านได้มีการคัดค้านโครงการดังกล่าว ซึ่งต่อมาจังหวัดเพชรบุรีได้ประกาศนโยบายกำหนดให้อำเภอบ้านแหลมเป็นเขตปลอดการก่อสร้างอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แต่ภายหลังเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีและคณะกรรมการบางคน การศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกลับเห็นชอบให้ก่อสร้างได้จึงอยากทราบว่า กรรมาธิการมีการสอบถามถึงประเด็นนี้หรือไม่ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
๒. โครงการดูแลป่าชายเลน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในหมู่ที่ ๑ ตำบลแหลมผักเบี้ย จังหวัด
เพชรบุรี ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริและเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แต่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติกลับ ไปปลูกต้นแสมดำ และป่าโกงกาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารจัดการงบประมาณที่ส่งผลลบให้แก่ชุมชน และราษฎรได้ร้องเรียนมาจึงขอปรับลดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐
นายนคร มาฉิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอปรับลดงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงร้อยละ ๑๐ ในหน่วยงานดังนี้
๑. กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งพบว่าไม่ได้ใส่ใจเข้าไปกำกับดูแลและการนำเข้าสารพิษจาก
ต่างประเทศ โดยพบว่ามีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง ในพืชผลการเกษตรเพิ่มมากขึ้นทุกปีและเกษตรกรต้องรับภาระในขณะเดียวกันสารพิษต่าง ๆ เหล่านี้ก็ซึมเข้าไปในพืชผล เมื่อนำไปบริโภคก็ได้รับสารพิษเข้าไปด้วย กรมควบคุมมลพิษไม่ได้เข้าไปตรวจสอบหรือรณรงค์ให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีแต่อย่างใด
๒. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อยากทราบเหตุผลที่กรรมาธิการปรับลดงบ
ประมาณของหน่วยงานนี้ลงร้อยละ ๑๐ เนื่องจากเป็นกรมที่ตั้งขึ้นใหม่ น่าจะได้รับงบประมาณมากกว่านี้ และ ในหน่วยงานนี้ก็มีประเด็นปัญหาประชาชนที่อาศัยทำมาหากินในพื้นที่เขตแนวป่าอุทยานถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่จนเกิดกรณีพิพาทกันขึ้นนั้น อยากให้รัฐบาลเพิกถอนเขตป่าสงวน เพื่อประชาชนได้อยู่อาศัยทำมาหากิน และให้เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ประชาชน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำหรับการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติค่อนข้างสูง อยากจะให้มีการปรับลดลง รวมทั้งการกันแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกายังไม่ชัดเจน ก่อให้เกิดปัญหาในช่วงฤดูฝนที่ประชาชนจะต้องนำสัตว์ไปเลี้ยง บริเวณเขตอุทยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุมและนำสัตว์เลี้ยงไปเก็บไว้เป็นของกลางแล้วสัตว์เกิดหายไป ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จึงอยากให้มีการผ่อนปรนแนวเขตอุทยานในช่วงฤดูฝน
นายวินัย เสนเนียม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายในประเด็นที่สงวนความเห็นไว้ ในส่วนของกรมป่าไม้และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
๑. กรมป่าไม้ ในด้านอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ ขณะนี้กำลังประสบปัญหาไม่มีงานทำ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงมีงานอยู่มากมาย เช่น การแปรรูป การนำไม้เคลื่อนที่ ซึ่งรัฐบาลไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
๒. สำนักงานนโยบายและแผนฯ ขอปรับลดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐ เนื่องจากความไม่พร้อมของหน่วยงานและการดำเนินงานที่ไม่มีวิสัยทัศน์ โดยขณะนี้มีหน่วยงานท้องถิ่นเกิดขึ้นมากมายที่ไม่มีประสบการณ์ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักนโยบานและแผนฯ ควรเข้าไปทำหน้าที่เป็นที่เลี้ยง ในการรักษาสิ่งแวดล้อม
สำหรับแผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ในเรื่องระบบการกำจัดขยะมูลฝอยและการกำจัดน้ำเสียที่มีการของบประมาณมากมาย ทำให้เกิดปัญหา เมื่อ ก่อสร้างแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ถึงร้อยละ ๕๐ โดยปีนี้ยังได้รับอนุมัติงบประมาณอีกถึง ๒๙ โครงการ ไม่ทราบว่า
กรรมาธิการได้สอบถามถึงเรื่องในอดีตที่ทำมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือไม่ จึงขอเสนอแนะว่า ควรจะมีการจัดเก็บรายได้ จากผู้ที่ก่อมลพิษ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้บริหารจัดการภายในชุมชน
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้สงวน คำแปรญัตติไว้ในส่วนของกรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยได้ขอปรับลด งบประมาณลงร้อยละ ๑๐ โดยเห็นว่าทั้งสองกรมไม่เอาใจใส่ ไม่มีการปรับแผนงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่มีการ ประชาสัมพันธ์เชิงรุก และการป้องกันในการเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น แหล่งแก๊ส ซึ่งเป็นแหล่งที่ใช้ร่วมกันระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย แต่เดิมที่แหล่งก๊าซนี้มีการตั้งคำถามว่า ใครจะเป็นเจ้าของแหล่งก๊าซธรรมชาตินั้น ซึ่งในที่สุดก็มีข้อยุติว่า จะนำก๊าซมาใช้ร่วมกันทั้ง ๒ ประเทศ ปัจจุบันน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูง รวมทั้งราคาก๊าซหุงต้ม ปัญหาเกิดจากบริษัทไทย ที่รับผิดชอบในการวางท่อก๊าซ โดยเป็นการวางท่อไปเชื่อมกันระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย ซึ่งกรณี ดังกล่าวส่งผลให้เกิดปัญหาในทะเลกับราษฎรไทย จำนวน ๔๐๐ ราย โดยที่ กรมควบคุมมลพิษไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมก็ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาเช่นกัน กรณีต่อไปคือ ปัญหาโรงแยกก๊าซที่มีการวางท่อก๊าซใต้ดินนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นในการวางท่อก๊าซยาว ๙๐๐ กิโลเมตร โดยใช้สารควบคุมเบนโทไนซ์ ซึ่งสารดังกล่าวมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช กรมควบคุมมลพิษไม่ได้เอาใจใส่และไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบถึงผลร้ายของสารพิษดังกล่าว
ปัญหาที่กล่าวมาข้างทั้งหมดนี้ นายนายวิรัตน์เห็นว่าควรจะมีการปรับลดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐
นายสุวโรช พะลัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายในมาตรา ๑๓ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายสุวโรชได้ขอปรับลดงบประมาณลงจำนวน ๒,๒๕๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองพันสองร้อยห้าสิบหกล้านบาท) จากงบที่ตั้งไว้ ๑๖,๗๑๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นหกพันเจ็ดร้อยสิบเอ็ดล้านบาท) โดยมีเหตุผลดังนี้
๑. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นกรมใหม่ที่รับผิดชอบธรรมชาติและชายฝั่ง จากการที่
นายกรัฐมนตรีได้ไปสัญจรในที่ต่าง ๆ เช่น ที่ภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติ แผนงานที่เกิดจากการไปสัญจรตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้รับรู้และรับทราบถึงปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งในบางครั้งนายกรัฐมนตรีได้ไปสัญญากับประชาชนในพื้นที่ว่า จะมีการสร้างโครงการต่าง ๆ มากมาย ซึ่งได้มีการอนุมัติงบประมาณแล้ว แต่โครงการต่าง ๆ ก็ยังคงไม่เริ่มดำเนินการ หรือในกรณีที่หน่วยงานระดับจังหวัดเสนอโครงการมาเป็นจำนวนมาก และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติ แต่โครงการต่าง ๆ ยังไม่ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรม เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้กรรมาธิการจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
๒. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ติดตามในเรื่องสิ่งแวดล้อม สัตว์ป่า ซึ่งการ
ดำเนินการศึกษาสภาพป่าที่มีอยู่จริงนั้น อยู่ในกำกับดูแลของกรมป่าไม้ ผลที่ได้รับจากการศึกษานั้นมีสภาพป่าจริงจำนวนเท่าไร แต่ในตัวเลขที่กรมป่าไม้มีกับความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน สภาพป่าในปัจจุบันเป็นภูเขาหัวโล้น เนื่องจากมีการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า เป็นจำนวนมาก และกรรมาธิการ ได้ทำการตรวจสอบบ้างหรือไม่ว่า มีป่าที่ยังคงเป็นป่าจริง ๆ มีจำนวนเท่าไร และควรดำเนินการจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ นอกจากนี้ได้มีการดำเนินการในการติดตามหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้หรือไม่ รวมทั้งผู้ประกอบการโรงเลื่อยจะต้องมีการ
ป้องกันในเรื่องของการลักลอบตัดไม้ และตีแผ่ข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น กรณีภาคกลางฝนตกน้อย แต่น้ำท่วม ซึ่งเป็นผลมาจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เรื่องดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ต้องมีการปรับลดงบประมาณลง
นายชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย ในฐานะ กรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ และประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้ตอบข้อซักถามดังนี้
ในปี ๒๕๔๗ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติมีหน่วยงานในสังกัด ๑๐ หน่วยงาน งบประมาณที่ได้รับจำนวน ๑๔,๘๘๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันแปดร้อยแปดสิบสามล้านบาท) และในปี ๒๕๔๘ ได้เพิ่ม งบประมาณอีก ๑,๒๖๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเป็นกระทรวงใหม่ ดังนั้นการดำเนินงานจึงต้องมีอุปสรรคบ้าง เพราะหน่วยงานต่าง ๆ แยกมาจากหลาย ๆ กระทรวง สิ่งเหล่านี้ทำให้กระทรวงยังไม่สามารถดำเนินการได้เต็มประสิทธิภาพ
สำหรับเรื่องการสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านเหลม จังหวัดเพชรบุรีนั้น แต่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้สัญญากับชาวบ้านไว้ว่าจะไม่มีการอนุญาตให้ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันดังกล่าว ส่วนเรื่องอื่น ๆ ขอตอบชี้แจงดังนี้
ในกรณีที่สมาชิกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมมลพิษ ซึ่งในปีนี้ถูกปรับลดงบประมาณลงใน ๒๓ ล้านบาท กรมควบคุมมลพิษมีหน้าที่ดูแลจริง แต่ทว่าอำนาจในการนำเข้าสารเคมีนั้นอยู่ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัญหานี้ไม่อยู่ในอำนาจกรรมาธิการ
สำหรับปัญหาท่อก๊าซนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของกรรมาธิการ แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร เพราะ กรรมาธิการมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับด้านงบประมาณ ส่วนการที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอาใจใส่นั้น ทางกรรมาธิการได้สอบถามแล้วพบว่า เนื่องจากมีอัตรากำลังน้อย ทำให้ไม่สามารถควบคุมดูแลได้อย่างทั่วถึง การดำเนินการในเรื่องของสารเบนโทไนซ์ ทางกรรมาธิการไม่ได้มีการซักถาม และไม่มีความรู้ในเรื่องดังกล่าว กรรมาธิการมีหน้าที่ปรับลดงบประมาณเท่านั้น
สำหรับเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า คณะกรรมาธิการไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้ เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร
ส่วนเรื่องการควบคุมงบประมาณในเรื่องของบ่อบำบัดน้ำเสียและที่ฝังกลบขยะ โดยได้ดำเนินการอนุมัติงบประมาณและทำการก่อสร้างไปแล้ว แต่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ และมีการตั้งงบประมาณใหม่ในปี ๒๕๔๘ นั้น ที่จะก่อสร้างใหม่อีก ๒๙ แห่ง จะเป็นอย่างที่ผ่านมาหรือไม่ และจะจัดการอย่างไรที่จะไม่ให้เป็นปัญหากับรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณ ขอชี้แจงว่า การของบประมาณก่อสร้างใหม่ ๒๑ แห่งนั้น มีการจัดทำแผนตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอขอมา ซึ่งสำนักงบประมาณได้ตรวจสอบแล้ว และในเรื่องของบ่อบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่ ๑๑๔ แห่งนั้น สามารถใช้ได้จริงเพียง ๑๖ แห่ง เท่านั้น ในขณะนี้รัฐมนตรีได้ศึกษาถึงปัญหาดังกล่าวด้วยตนเองแล้ว
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในงบประมาณปี ๒๕๔๘ ได้ตั้งไว้ ๑๖,๗๑๑ ล้านบาทเศษ ปี ๒๕๔๗ ได้ตั้งไว้ ๑๔,๘๘๓ ล้านบาทเศษ เพิ่มขึ้น ๒,๑๗๐ ล้านบาท
ซึ่งในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งบค่าจ้างชั่วคราว ควรลดลง เพราะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ๑๐๐ % รวมทั้งในส่วนของกรมควบคุมมลพิษ งบค่าจ้างชั่วคราวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๐ รวม ๒ ส่วนนี้เฉพาะในส่วนของค่าจ้างชั่วคราว โดยไม่รวมเงินเดือนเพิ่มขึ้นถึง ๒๐ ล้าน จึงขอถาม กรรมาธิการว่า คิดจะปรับลดหรือไม่ เพราะนโยบายของรัฐบาลต้องการให้ลด ในส่วนของสำนักปลัดกระทรวงมี ค่าใช้จ่ายที่ได้ตั้งไว้เป็นประจำคือ
๑. ค่าใช้จ่ายประชุมนานาชาติ กรรมาธิการได้ทำการตรวจสอบหรือไม่ว่าใช้จริงหรือไม่ เพราะมีการตั้งไว้ทุกปี
๒. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษโดยไม่ระบุสถานที่จะนำเงินงบประมาณไปใช้จ่ายอะไร
๓. ค่าใช้จ่ายในการบริหารการจัดใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาความยากจน
๑๐ ล้านบาท เป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงใด
๔. ค่าใช้จ่ายโครงการศูนย์บริการประชาชนกระทรวงทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็น
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอะไรบ้าง
ในส่วนของกรมควบคุมมลพิษงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี แต่มีแผนงานเดียวคือ แผนงาน ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหารถเมล์ควันดำ เป็นหน้าที่ของกรมนี้หรือไม่ ถ้าเป็นมีแผนที่จะประสานกับกรมการขนส่ง การจราจร ในการกวดขันรถโดยสารเหล่านี้หรือไม่ โครงการคืนฟ้าใส ให้ชุมชนต้องการทราบว่านำงบประมาณไปทำอะไร มีความจำเป็นมากเพียงใด ตัดลดได้หรือไม่ และมีรายละเอียดอย่างไร
- โครงการฟื้นน้ำเสียคืนน้ำใส ตั้งงบประมาณไว้ เพื่อดำเนินการอะไร
- โครงการพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำงบไป
ทำอะไร เป็นงบประชาสัมพันธ์หรือไม่อย่างไร
- โครงการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ครบวงจร เห็นด้วยกับโครงการนี้แต่ไม่ทราบว่าทำอะไร
บ้างจะพัฒนาอย่างไรและใช้ระบบอะไร
จากนั้น นายชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย ในฐานะกรรมาธิการได้ชี้แจงว่า คำถามทุกคำถามที่สมาชิกได้อภิปรายไปนั้นได้มีการถามทุกคำถามแล้ว และได้มีโครงการ ๖ แผนงาน ซึ่งไม่สามารถตัดลดงบประมาณลงได้เลย เช่น การจัดจ้างบุคลากรเพิ่มของสำนักงาน ปลัดกระทรวง ส่วนกรมควบคุมมลพิษนั้นเป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบทุกจังหวัดในประเทศไทย มีหน้าที่ในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ ดังนั้นจึงต้องใช้บุคลากรเป็นจำนวนมากและแผนงาน ๖ แผนงานที่นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเป็นแผนงานที่มีระบบทุกแผน
จากนั้น ได้มีการลงมติเห็นด้วยคะแนนเสียง ๒๙๒ เสียง
ต่อจากนั้น ได้มีการพิจารณาในมาตรา ๑๔ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายขอตัดลดงบประมาณลง ๒,๖๐๐ ล้านบาท สำหรับโครงการสมาร์ทการ์ดเป็นโครงการที่อาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับปรุงเรื่องบัตรประจำตัวประชาชน โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบของบัตรเดิมมาเป็นบัตรสมาร์ทการ์ด ในส่วนนี้กรรมาธิการได้มีการพิจารณาในกรอบของกฎหมายความเป็นจริง ความเหมาะสมและประสบการณ์หรือข้อถกเถียงหรือไม่อย่างไร และสามารถนำบัตรนี้ไปใช้อย่างไรบ้าง เห็นด้วยกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ต้องมีความพร้อมและชัดเจนในเรื่องกติกา เพราะบัตรประชาชนและข้อมูลที่ถูกนำไปบรรจุในสมาร์ทการ์ดถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายจะระบุว่าไม่ให้อำนาจในกฎหมายอื่นจะเข้ามา ดูข้อมูลเหล่านี้ได้ จึงเป็นหลักประกันได้ระดับหนึ่ง และถามว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจอะไรมาจัดทำโครงการและนำ ข้อมูลในส่วนอื่นมาบรรจุลงในบัตรประจำตัวประชาชนทั้งที่เป็นกฎหมายคนละฉบับและมีหน่วยงานใดมีสิทธิดู ข้อมูลได้บ้างและข้อมูลเหล่านี้การเข้าถึง ผู้ใช้จะมีรหัสอะไร หน่วยที่เก็บข้อมูลจะรวมอยู่ที่ศูนย์กลางหรือกระจัดกระจายเหมือนเดิม การผลักดันการใช้กฎหมายสำคัญ ๒ ฉบับ คือ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นข้อมูลอิเล็คทรอนิคส์ มีความจำเป็นต้องตราขึ้น เพราะเทคโนโลยีในการดึงข้อมูลไปใช้ทำได้สะดวกและรวดเร็ว และกฎหมายที่เกี่ยวกับอาชญากรรมอิเล็คทรอนิคส์ข้อมูลไม่เพียงเป็นการละเมิดในการนำข้อมูลไป แต่อาจไปสร้างความเสียหายได้มากขึ้น แต่รัฐบาลไม่เสนอกฎหมาย
ดังกล่าว
นายจุติ ไกรฤกษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายปรับลดงบประมาณของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปรับลดลงมูลค่า ๗๒๘ ล้านบาท สาเหตุเพราะเมื่อทำตามหลักเกณฑ์การวัดผลสำเร็จของผลงานแต่ละกระทรวงที่ประกาศไว้ ที่ทำไว้ ซึ่งวัดทั้งใน เชิงคุณภาพและในเชิงปริมาณ ผลปรากฏว่าการบริหารงานของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ขาดความโปร่งใส ขาดหลักธรรมาภิบาลเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้อภิปรายว่าเป้าหมายที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ตั้งไว้นั้นไม่ประสบผลสำเร็จ และทางคณะกรรมาธิการได้มีการซักถาม ถึงเรื่องนี้บ้างหรือไม่ จากผลงานที่ผ่านมาในการใช้งบประมาณที่ได้รับจำนวนกว่า ๕ พันล้านบาทนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ไม่สามารถใช้ให้เกิดความ คุ้มค่า เมื่อเทียบกับผลงานที่ปรากฏออกมาไม่ว่าจะเป็น
- โครงการ E-Procurement คือ การเปิดประมูลของราชการทางอิเล็คทรอนิคส์ หรือทาง
คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดความประหยัด ป้องกันการสมยอมราคาและป้องกันการทุจริต แต่ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ในทุกหน่วยงาน และไม่สามารถ บังคับให้ทุกหน่วยงานทำได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังได้มีการประเมินว่าโครงการ E - Procurement นั้นไม่สามารถทำให้เกิดความประหยัดได้ อีกทั้งการทุจริตก็ยังเกิดขึ้นอยู่
- โครงการ E-Government การให้หน่วยราชการต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยี ใช้ความรู้พื้นฐานทางด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร เพื่อความรวดเร็ว เพื่อความประหยัด เมื่อไปตรวจสอบแล้วโครงการ E - Government ก็ล้มเหลว ยังไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้
- โครงการคอมพิวเตอร์สินสมุทร สุดสาคร ที่ตั้งเป้าไว้ ๑ ล้านเครื่อง ปรากฏว่าจากยอดที่จองนั้นมีประชาชนขอสละสิทธิ์ยกเลิกไม่ประสงค์จะรับเครื่องมากถึง ๑๙,๘๒๘ เครื่อง
- โครงการคอมพิวเตอร์สำหรับข้าราชการที่รัฐบาลให้ ผ่อนซื้อได้ ๒ ปี ส่วนดอกเบี้ยเป็นเงิน
งบประมาณที่รัฐบาลออกให้ จึงขอเสนอให้ตัดลดงบประมาณส่วนนี้ลง เพราะเป็นโครงการที่ไม่ประสบผลสำเร็จ
- โครงการ Call Center ซึ่งเป็นการให้บริการ GCC ที่ประชาชนสามารถติดต่อหน่วยงานของรัฐบาล ทุกหน่วยงานโดยโทรไปที่เบอร์เดียวและสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ GCC ของไทยใช้แบบให้พนักงานตอบไม่เหมือนในต่างประเทศที่เป็นแบบระบบอัตโนมัติ ซึ่งโครงการนี้ใช้เงินงบประมาณปีหนึ่งถึง ๑๒๐ ล้านบาท
สุดท้ายได้อภิปรายว่าทั้ง ๕ โครงการหลักของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ที่ได้ดำเนินงานไปนั้นเกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าหรือไม่ จึงขอปรับลดงบประมาณของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ลง
จากนั้น นายปกิต พัฒนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการได้กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ทางคณะกรรมาธิการได้คำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ได้อภิปรายมาทุกประการ ได้มีการดำเนินการซักถามในหลายประเด็นจากการที่นายจุติ ได้แปรญัตติปรับลดงบประมาณของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ลง ๗๒๘ ล้านบาทนั้น ทางคณะกรรมาธิการได้คำนึงถึงสิ่งที่ได้อภิปรายทั้งหมดและเมื่อได้ทำการตรวจสอบแล้ว คณะกรรมาธิการเห็นควรที่จะปรับลดลง ๖๐๖,๘๐๐,๐๐๐ กว่าบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่นายจุติ ได้ขอปรับลด นอกจากนี้กรรมาธิการยังได้ทำการสอบถามถึงกระบวนการทำงานต่าง ๆ และในส่วนของคำถามของนายอภิสิทธิ์นั้นได้ตอบโดยใช้ข้อสังเกตของ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ บางส่วน ได้แก่ นโยบายสำคัญในข้อ ๒.๒ "โครงการจัดทำบัตรประชาชน อิเล็คทรอนิคส์แบบเอนกประสงค์สมาร์ทการ์ด เป็นการลงทุนที่สูงมากควร อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ จากบัตรใบเดียวในการรับบริการจากภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลและให้ความรู้ ในการใช้ประโยชน์ของบัตรอย่างทั่วถึง โดยไม่ควรกำหนดให้เด็กอายุตั้งแต่ ๗ ปี - ๑๕ ปี ต้องทำบัตรสมาร์ทการ์ดทุกคน รวมทั้งเก็บข้อมูลในสมาร์ทการ์ดและต้องมีกฎหมายรองรับการกำหนดหน้าที่และสิทธิประโยชน์ให้ชัดเจน โดยคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วย"
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายขอปรับลดงบประมาณของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารลงร้อยละ ๑๐ ของยอดรวม ด้วยเหตุผลที่ว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ มีการของบประมาณในส่วนของงบรายจ่ายอื่น ซึ่งมีวงเงินถึง ๓๐๒ ล้านบาท ซึ่งทั้ง ๑๙ รายการของงบรายจ่ายอื่นนั้นเป็นเรื่องของการจ้างที่ปรึกษาทั้งสิ้น อยากทราบว่า คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากได้มีการสอบถามถึงหลักเกณฑ์และการตรวจสอบเกี่ยวกับบริษัทที่ปรึกษาเหล่านั้นหรือไม่ อย่างไร และผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความไม่โปร่งใสของการ
ศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาเหล่านั้น อีกทั้งยังได้อภิปรายถึงโครงการจัดทำบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิคส์ แบบ เอนกประสงค์ที่เรียกว่า สมาร์ทการ์ด คณะกรรมาธิการได้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการนี้แบบครบวงจรหรือไม่ และไม่ควรตรวจสอบเฉพาะการจัดทำบัตรเท่านั้น แต่ต้องร่วมไปถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายด้วย โดยเฉพาะระบบ Clearing House ควรตรวจสอบว่า ระบบเป็นอย่างไรและมีการป้องกันการสมยอมด้านราคาอย่างไร และในส่วนของกรมอุตุนิยมวิทยา โครงการซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เงินงบประมาณถึง ๑,๐๐๐ ล้านบาท และเมื่อมีการ ใช้งานเพียง ๒ ปีกว่า เครื่องก็เสีย มีการของบประมาณในการซ่อมแซมอีก ๕ ล้านบาท จึงอยากทราบว่า ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
นายปกิต พัฒนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้อภิปรายว่า จะได้นำข้อเสนอแนะและข้อสังเกตต่าง ๆ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวถึง ซึ่งจะได้นำเสนอไปยังผู้เกี่ยวข้องต่อไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า หากทั้งสองฝ่ายมีข้อสังเกตที่ตรงกันก็ควรจะยับยั้งโครงการ Smart Card ไว้ก่อน
จากนั้นที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกับกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน ๒๙๑ เสียง
ต่อมาที่ประชุมได้พิจารณามาตรา ๑๕ งบประมาณของกระทรวงพลังงาน ซึ่งสมาชิกได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวางดังนี้
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรค ประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายสงวนคำแปรญัตติ โดยขอให้ปรับงบประมาณลงกว่า ๒๔๗ ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลบริหารงานด้านการพลังงานผิดพลาดและไม่สามารถจัดสรรพลังงานให้ประชาชนใช้ในราคาถูกได้
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายสงวนคำแปรญัตติมาตรา ๑๕ ขอลดงบประมาณลง ๑๗๕ กว่าล้านบาท โดยให้เหตุผลประกอบในเรื่องของการสร้างอาคารของรัฐบาลหลายแห่ง เพื่อใช้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ตามโครงการปรับปรุงและอนุรักษ์พลังงานของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน อาจมีการฮั้วกันเกิดขึ้น
ดังนั้น จึงขอตัดงบประมาณลง ๑๗๕ กว่าล้านบาท เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะเกิดการทุจริตในการดำเนินงานของกรมดังกล่าว
นายนคร มาฉิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายสงวนคำแปรญัตติมาตรา ๑๕ โดยขอปรับลดงบประมาณลงร้อยละ ๒๕ โดยให้เหตุผลว่า กระทรวงพลังงานขาดวิสัยทัศน์ แผนการแก้ไขปรับปรุง พัฒนาพลังงานทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
นอกจากนี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานมีการปรับลดงบประมาณลงในหลาย ๆ ด้าน คือ ค่าจ้างศึกษาศักยภาพการก่อสร้างเขื่อน ค่าจ้างพัฒนาหลักสูตร อบรมความรู้ด้านก๊าซชีวภาพ และค่าจ้างศึกษาผลผลิตไบโอดีเซล ซึ่งการปรับลดงบประมาณของกรมดังกล่าวนี้ยังไม่ได้แจ้งเหตุผลใด ๆ อย่างชัดเจน เรื่องราคาน้ำมันที่ต้องอิงราคาน้ำมันที่ประเทศสิงคโปร์นั้น ก็ไม่ได้รับการอธิบายว่า เหตุใดจึงไม่กำหนดราคาน้ำมันเอง สำหรับเรื่องกองทุนพยุงราคาน้ำมัน ซึ่งการดำเนินการขาดทุนในปัจจุบันยัง ไม่มีการแจ้งถึงสาเหตุของการขาดทุนของกองทุนนี้
นายปกิต พัฒนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ชี้แจงว่า กรรมาธิการฯ ได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงพลังงานอย่างละเอียดและรอบคอบ เนื่องจากตระหนักถึงภารกิจที่สำคัญของกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็น หัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศ
นายพินิจ จันทรสุรินทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ชี้แจงถึงราคาน้ำมันว่า การกำหนดราคาขายโดยคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ โดยได้อิงราคาน้ำมันดิบตามประเทศสิงคโปร์ และได้ดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงโดยตั้งราคาเองในประเทศไทย จะทำให้เกิดผลกระทบต่อปัจจัยอื่น ๆ อีกมาก
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มงบประมาณให้กับกระทรวงพลังงาน เนื่องจากผลงานของกระทรวงอยู่ในระดับ ที่ไม่น่าพอใจ และมีแนวโน้มจะมีการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ขอให้รัฐบาลเร่ง ดำเนินโครงการไบโอดีเซล-เอทานอลให้เกิดผลเป็นพลังงานของประเทศ ซึ่งหากเกิดผลสำเร็จจะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อประเทศชาติอย่างมาก ขณะเดียวกันควรเร่งศึกษาโครงการโซล่าเซลล์ (พลังงานแสงอาทิตย์) โครงการพลังงานทดแทนอื่น ๆ เพื่อลดปัญหาวิกฤตการณ์น้ำมันราคาแพงและควรให้ความสนใจต่อนโยบายการประมงของผู้ประกอบอาชีพประมงทะเลชายฝั่งเป็นการเร่งด่วน เช่นเดียวกับ ช่วยเหลือประมงน้ำลึก เพราะกำลังประสบปัญหาต้นทุนการประกอบอาชีพที่สูงขึ้น เพราะเป็นการทำประมงที่ต้องใช้น้ำมันเบนซิน
นายพินิจ จันทรสุรินทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการ ชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
โครงการไบโอดีเซล-เอทานอล ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดแผนการดำเนินการ โดยกำหนด เป้าหมายการผลิตในอัตรา ๒.๔ ล้านคนต่อวัน สำหรับการช่วยเหลือประมงน้ำตื้นนั้นจะส่งต่อไปยังรัฐบาลให้พิจารณาเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
เมื่อสมาชิกได้อภิปรายและกรรมาธิการได้ตอบชี้แจง พอสมควรแล้วที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา ๑๕ เห็นชอบด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน ๒๙๘ เสียง
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาในมาตรา ๑๖ ซึ่งเป็นงบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีสมาชิกอภิปรายในประเด็นต่าง ๆ ครั้งนี้
นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายปรับลดงบประมาณลงเนื่องจากการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรไม่ดีขึ้น จึงควรเพิ่ม ศักยภาพการส่งเสริมรายได้ดังนี้
๑. ทำให้ราคาข้าวหอมมะลิมีราคาสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน
๒. ช่วยให้ราคาปุ๋ยลดลงด้วย เพราะส่งผลต่อการเพาะปลูกพืช
๓. ขอให้เร่งดำเนินการนโยบายการค้าต่างตอบแทน (Counter trade) ให้สำเร็จโดยเร็ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตัดลดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐ ในนโยบายการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) เพราะนโยบายนี้จะทำให้ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบจึงขอให้ดำเนินการดังนี้
๑. ควรมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายนี้ว่าเป็นอย่างไร
๒. ควรศึกษาผลกระทบเชิงกฎหมายด้วย เพราะหากเกิดข้อพิพาทจะใช้กฎหมายใดมา
พิจารณาข้อพิพาทนั้น จะใช้กฎหมาย WTO ไม่ได้ เพราะ FTA เป็นการเจรจานอกกรอบ WTO
นายจุติ ไกรฤกษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตัดงบประมาณลง ๗๐ ล้านบาท และขอให้รัฐบาลดูแลนโยบายเขตการค้าเสรี (FTA) การแก้ไขปัญหาปุ๋ย มีราคาแพง การส่งเสริมการค้าปลีก และสินค้าราคาแพงเป็นการเร่งด่วนด้วย
นายวิทยา บุรณศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการชี้แจงสมาชิกในประเด็นต่าง ๆ ดังนั้น
๑. การส่งเสริมการค้าปลีก รัฐบาลได้มีมาตรการดูแลอยู่แล้ว
๒. การแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ยนั้น ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น
๓. การส่งเสริมราคาข้าวหอมมะลิจะเร่งดำเนินตามที่สมาชิกร้องขอ
จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับกรรมาธิการด้วยคะแนน ๒๙๔ เสียง
ปิดประชุมเวลา ๒๒.๓๐ นาฬิกา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ