‘กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ’ ระบุ การดำเนินการตรวจสอบ ปปง. มีหลายมาตรฐาน เลือกปฎิบัติ คดีสร้างความเสียหายกับประเทศชาติ กลับวางเฉย
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ถึงการทำหน้าที่ของปปง.ว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนมีความกังวล เพราะปปง.มีอำนาจในการวินิจฉัยและตรวจจับเรื่องไม่ชอบ โดยเฉพาะการกระทำทุจริต
ในอดีตมีข้อมูลรั่วของปปง. เรื่องการตรวจสอบ NGO และผู้บริหารหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับ ซึ่งมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับศาลปกครอง ปรากฎว่ามีคำพิพากษาออกมาว่าปปง.ทำผิดกฎหมาย และกฎหมายไม่ให้อำนาจในการสั่งการให้ธนาคารยื่นข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ทำให้ปปป.มีปัญหา ทำให้คนในวงการธุรกิจ เกิดความหวั่นไหว ว่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
‘เรื่องดังกล่าวนี้ ขณะที่ตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ตนได้ถามเลขาธิการปปป.ว่าสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญ หากไม่เคารพถือว่าใช้ไม่ได้ คำตอบของเลขาธิการในวันนั้นบอกว่าที่มีการตรวจสอบไปไม่มีใครรู้ จึงไม่ถือว่าเป็นการละเมิด และตนได้ถามต่อว่าปปง.ไม่เคยสนใจดูเงินทางการเมือง คำตอบที่ได้คือ ไม่มีเวลา ไม่อยากยุ่ง’ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
หลายสัปดาห์ หลายคนมีความกังวล โดยเฉพาะกรณีของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร กับข่าวทางหนังสือพิมพ์ที่บอกว่า กรณีที่นายกฯเสนอให้ใช้มาตรการยึดทรัพย์ ตามกฎหมายฟอกเงินซึ่งตรงนี้ เห็นชัดเจนว่านายกฯ เป็นผู้เสนอ แต่ตามกฎหมาย ปปง. นายกฯ ไม่จำเป็นต้องเสนอใครเพราะนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งในวันที่ 12 ที่ผ่านมา มีคำสัมภาษณ์ของเลขาธิการปปง.ว่าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายเอกยุทธ ว่าปปง.ดำเนินการตามกฎหมายปปง. ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทำให้คนสงสัยว่าการกระทำของปปง.ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการคำสั่ง
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอยกตัวอย่างถึงประเด็นคดีซุกหุ้น มีคำพิพากษาส่วนตนของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกล่าวถึงเรื่องการฟอกเงิน ถือเป็นเอกสารสำคัญ เป็นที่น่าสงสัยว่าปปง.ได้เข้าไปตรวจสอบหรือไม่
หรือกรณีที่เอกสาร กลต.ออกว่าบริษัทอิมเปอร์เวสอิมเวอร์รีมิติคส์ เอกสารระบุชัดว่า พ.ต.ท. เป็นผู้ไปตั้งบริษัทนี้เมื่อ 2542 แล้วบริษัทดังกล่าวได้มาซื้อหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ในกรุงเทพฯด้วย กลับไม่มีการตรวจสอบว่านำเงินจำนวนมากจากไหน ไปตั้งบริษัทดังกล่าว ตนจึงอยากถามว่าในกรณีดังกล่าวนี้มีการตรวจสอบหรือไม่
ทางด้านนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม ได้รับมอบหมายในการตอบกระทู้สดครั้งนี้ ได้กล่าวชี้แจงว่า การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน หากมีข้อมูลน่าสงสัย ปปง.จะดำเนินการตรวจสอบทันที การยึดทรัพย์คดีฟอกเงินแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือทางแพ่ง และทางอาญา ส่วนคำถามที่ถามว่ามีการตรวจสอบหรือไม่นั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะถือเป็นความลับทางราชการ
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่า กฎหมายปปง. เป็นกฏหมายที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นกฎหมายที่มีเจตนาจับคนทุจริต ซึ่งกรณีที่บอกว่าปปง.จะตรวจสอบใครก็ได้ ตามที่ท่านรัฐมนตรีกล่าวนั้น ถือเป็นการกระทำการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และมีอีกประเด็นที่น่าคิดอีกประเด็นคือ กรณีคดีของนายราเกซ ศักดิ์เสนา ซึ่งตนมีเอกสารดังกล่าว ที่ระบุถึงการโอนเงิน การรับเงิน กับการเลือกตั้งในภาคเหนือ พร้อมกับมีการระบุรายชื่อบุคคลที่สำคัญด้วย พร้อมลายเซ็นนายราเกซ ศักดิ์เสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ปปง.ต้องตรวจสอบ จึงมีคำถามว่าตนจะทำอย่างไรกับเอกสารที่ได้มา และปปง.ต้องการเอกสารเพื่อประกอบการดำเนินคดีหรือไม่
นายพงษ์เทพ กล่าวตอบการดำเนินการตรวจสอบได้ต้องมีความผิดมูลฐาน แต่ที่สุดศาลจะเป็นผู้ชี้ขาดว่าทรัพย์นั้นจะตกเป็นของแผ่นดินหรือไม่
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นสุดท้ายคือ คดีซึ่งมีลักษะเดียวกันกับคดีของนายเอกยุทธ เพราะเป็นคดีที่ประชาชนเสียหายมาก หรือคดีของนายราเกซ ศักดิ์เสนา ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ มีการดำเนินการถึงไหน ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาลไม่มีการนำเรื่องดังกล่าวนี้มาดำเนินการ หรือเป็นเพราะมีคนในครม.เกี่ยวข้องด้วย ดังข้อมูลที่ระบุในเอกสาร ที่ตนมีอยู่
นายพงษ์เทพ กล่าวตอบว่า คดีของนายราเกซ ศักดิ์เสนากำลังอยู่ในการดำเนินการ ซึ่งใกล้จะได้ตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินได้แล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ถึงการทำหน้าที่ของปปง.ว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนมีความกังวล เพราะปปง.มีอำนาจในการวินิจฉัยและตรวจจับเรื่องไม่ชอบ โดยเฉพาะการกระทำทุจริต
ในอดีตมีข้อมูลรั่วของปปง. เรื่องการตรวจสอบ NGO และผู้บริหารหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับ ซึ่งมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับศาลปกครอง ปรากฎว่ามีคำพิพากษาออกมาว่าปปง.ทำผิดกฎหมาย และกฎหมายไม่ให้อำนาจในการสั่งการให้ธนาคารยื่นข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ทำให้ปปป.มีปัญหา ทำให้คนในวงการธุรกิจ เกิดความหวั่นไหว ว่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
‘เรื่องดังกล่าวนี้ ขณะที่ตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ตนได้ถามเลขาธิการปปป.ว่าสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญ หากไม่เคารพถือว่าใช้ไม่ได้ คำตอบของเลขาธิการในวันนั้นบอกว่าที่มีการตรวจสอบไปไม่มีใครรู้ จึงไม่ถือว่าเป็นการละเมิด และตนได้ถามต่อว่าปปง.ไม่เคยสนใจดูเงินทางการเมือง คำตอบที่ได้คือ ไม่มีเวลา ไม่อยากยุ่ง’ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
หลายสัปดาห์ หลายคนมีความกังวล โดยเฉพาะกรณีของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร กับข่าวทางหนังสือพิมพ์ที่บอกว่า กรณีที่นายกฯเสนอให้ใช้มาตรการยึดทรัพย์ ตามกฎหมายฟอกเงินซึ่งตรงนี้ เห็นชัดเจนว่านายกฯ เป็นผู้เสนอ แต่ตามกฎหมาย ปปง. นายกฯ ไม่จำเป็นต้องเสนอใครเพราะนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งในวันที่ 12 ที่ผ่านมา มีคำสัมภาษณ์ของเลขาธิการปปง.ว่าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายเอกยุทธ ว่าปปง.ดำเนินการตามกฎหมายปปง. ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทำให้คนสงสัยว่าการกระทำของปปง.ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการคำสั่ง
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอยกตัวอย่างถึงประเด็นคดีซุกหุ้น มีคำพิพากษาส่วนตนของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกล่าวถึงเรื่องการฟอกเงิน ถือเป็นเอกสารสำคัญ เป็นที่น่าสงสัยว่าปปง.ได้เข้าไปตรวจสอบหรือไม่
หรือกรณีที่เอกสาร กลต.ออกว่าบริษัทอิมเปอร์เวสอิมเวอร์รีมิติคส์ เอกสารระบุชัดว่า พ.ต.ท. เป็นผู้ไปตั้งบริษัทนี้เมื่อ 2542 แล้วบริษัทดังกล่าวได้มาซื้อหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ในกรุงเทพฯด้วย กลับไม่มีการตรวจสอบว่านำเงินจำนวนมากจากไหน ไปตั้งบริษัทดังกล่าว ตนจึงอยากถามว่าในกรณีดังกล่าวนี้มีการตรวจสอบหรือไม่
ทางด้านนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม ได้รับมอบหมายในการตอบกระทู้สดครั้งนี้ ได้กล่าวชี้แจงว่า การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน หากมีข้อมูลน่าสงสัย ปปง.จะดำเนินการตรวจสอบทันที การยึดทรัพย์คดีฟอกเงินแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือทางแพ่ง และทางอาญา ส่วนคำถามที่ถามว่ามีการตรวจสอบหรือไม่นั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะถือเป็นความลับทางราชการ
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่า กฎหมายปปง. เป็นกฏหมายที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นกฎหมายที่มีเจตนาจับคนทุจริต ซึ่งกรณีที่บอกว่าปปง.จะตรวจสอบใครก็ได้ ตามที่ท่านรัฐมนตรีกล่าวนั้น ถือเป็นการกระทำการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และมีอีกประเด็นที่น่าคิดอีกประเด็นคือ กรณีคดีของนายราเกซ ศักดิ์เสนา ซึ่งตนมีเอกสารดังกล่าว ที่ระบุถึงการโอนเงิน การรับเงิน กับการเลือกตั้งในภาคเหนือ พร้อมกับมีการระบุรายชื่อบุคคลที่สำคัญด้วย พร้อมลายเซ็นนายราเกซ ศักดิ์เสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ปปง.ต้องตรวจสอบ จึงมีคำถามว่าตนจะทำอย่างไรกับเอกสารที่ได้มา และปปง.ต้องการเอกสารเพื่อประกอบการดำเนินคดีหรือไม่
นายพงษ์เทพ กล่าวตอบการดำเนินการตรวจสอบได้ต้องมีความผิดมูลฐาน แต่ที่สุดศาลจะเป็นผู้ชี้ขาดว่าทรัพย์นั้นจะตกเป็นของแผ่นดินหรือไม่
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นสุดท้ายคือ คดีซึ่งมีลักษะเดียวกันกับคดีของนายเอกยุทธ เพราะเป็นคดีที่ประชาชนเสียหายมาก หรือคดีของนายราเกซ ศักดิ์เสนา ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ มีการดำเนินการถึงไหน ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาลไม่มีการนำเรื่องดังกล่าวนี้มาดำเนินการ หรือเป็นเพราะมีคนในครม.เกี่ยวข้องด้วย ดังข้อมูลที่ระบุในเอกสาร ที่ตนมีอยู่
นายพงษ์เทพ กล่าวตอบว่า คดีของนายราเกซ ศักดิ์เสนากำลังอยู่ในการดำเนินการ ซึ่งใกล้จะได้ตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินได้แล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-