การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนสิงหาคม ปี 2547 มูลค่า 1,093 เหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนกรกฏาคม ร้อยละ 4.12 และคาดว่าเดือนกันยายนจะมีมูลค่าส่งออกประมาณ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า :
การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในระยะ 8 เดือนแรกของ ปี 2547 มีมูลค่า 8,749 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.56 เนื่องจาก รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยและเป็นการจูงใจให้บริษัทต่างชาติได้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกต่อไปและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยการลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ผลิตหรือประกอบเป็นส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และในการยกเลิกระบุคำว่า “เป็นทอดแรก” ไม่ต้องกำหนดว่ากี่ทอด คือจะขายกี่ทอดก็สามารถขอยกเว้นหรือคืนภาษีหรือลดภาษีสำหรับสินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรหรือนำเข้าไปใน เขตปลอดอากร เป็นต้น และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยพยายามสร้างตราสินค้าของตนเองให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้นทั้งนี้เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยมีคุณภาพเหนือกว่าประเทศ คู่แข่งขันอื่นๆ ทำให้ผู้บริโภคในตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และตลาดใหม่ที่มีแนวโน้มดีเช่นตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย และกลุ่มประเทศCIS ยังคงนิยมและให้ความเชื่อถือในสินค้าดังกล่าวของไทย
เป้าหมายการส่งออกปี 2547: มูลค่า 11,224 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 เมื่อเทียบกับปี 2546
เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ :
การส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบในเดือนสิงหาคมมีมูลค่า 139 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนกรกฏาคม ร้อยละ 22.35 คาดว่าเดือนกันยายนจะมีมูลค่าส่งออกประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ :
การส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบในระยะ 8 เดือนแรกของ ปี2547 มีมูลค่า 1,426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 39.38 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลส่งมอบ สินค้าให้ทันฤดูร้อนในแถบยุโรป ทำให้การส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทยไปตลาดหลักและตลาดอื่นๆ ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะอิตาลีซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของไทยในสหภาพยุโรปและประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียนยังมีโอกาสขยายการส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทยได้อีกเนื่องจากปัจจุบันยังมีอาคารบ้านเรือนที่ยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศอีกจำนวนมากประกอบกับผู้บริโภคยังไม่ยึดติดกับตราสินค้ามากนัก สามารถสร้างตราสินค้าของตนเองได้ในอนาคต
เป้าหมายการส่งออกปี 2547:
มูลค่า 1,717 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20
ที่มา: http://www.depthai.go.th
-อบ-