ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เตรียมออกหนังสือความรู้ประกอบภาพการ์ตูน ผู้อำนวยการสายสนับสนุนการบริหาร
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เตรียมออกหนังสือความรู้ประกอบภาพการ์ตูน เรื่อง “มา
รู้จักแบงก์ชาติกันเถอะ” ซึ่งจะเป็นหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ ธปท.ว่ามีบทบาทหน้าที่อย่างไร รวมทั้งบทบาท
หน้าที่ในการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินกว้าง ๆ เนื่องจากในขณะนี้ประชาชนทั่ว
ไปไม่ค่อยรู้บทบาท ธปท.ว่ามีหน้าที่อย่างไร คาดว่าจะออกได้ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยจัดพิมพ์เป็นลักษณะ 4
สี 50 หน้า จัดพิมพ์ครั้งแรกจำนวน 50,000 เล่ม (เดลินิวส์)
2. หนี้ครัวเรือนไทยครึ่งแรกปี 47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 เมื่อเทียบกับปี 45 สำนักงานสถิติแห่ง
ชาติสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมครัวเรือนประจำปี 47 พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 47 เมื่อเทียบกับปี 45
รายได้และรายจ่ายของคนไทยเพิ่มขึ้น แต่หนี้สินเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่า โดยพบว่ารายได้เฉลี่ยของครัวเรือนทั่ว
ประเทศ (เป็นรายได้ของครัวเรือนในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมานำมาเฉลี่ยต่อเดือน) เพิ่มขึ้นจาก 13,418 บาท
ในปี 45 เป็น 14,617 บาทในปี 47 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ต่อปี โดยครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากทุกแหล่ง
ที่มาทั้งรายได้จากค่าจ้างและเงินเดือน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8) กำไรจากภาคเกษตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4)
กำไรจากการทำธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7) รวมทั้งรายได้ที่ไม่เป็นตัวเงิน ส่วนในด้านราย
จ่ายนั้น ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายจ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5.4 ซึ่งพบว่าครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายสินค้า
และบริการทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยานพาหนะและบริการสื่อสารเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง
มาก คือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 ต่อปี สำหรับหนี้สินของครัวเรือนโดยรวมทั่วประเทศในปี 47 เพิ่มขึ้นเป็นอัตรา
ร้อยละ 11.7 ต่อปี เมื่อเทียบกับปี 45 โดยจำนวนหนี้สินที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน
และเพื่อใช้ทำการเกษตร เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคพบว่า ครัวเรือนในทุกภาคมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะครัวเรือนในภาคกลางและภาคเหนือมีหนี้สินเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 22.3 และ 24.8 ต่อปี ตาม
ลำดับ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. สศช.มีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านบาท
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน สศช.มีมติ
เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อผลัก
ดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค การสร้างความสามารถทางการแข่งขัน ยกระดับมาตรฐาน
คุณภาพชีวิตของประชาชน และช่วยกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้สูงขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้
จัดการรายวัน)
4. เอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์มีแนวโน้มว่าอาจจะยกเลิก รายงานจาก ก.พาณิชย์ แจ้งว่า การ
เจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-นิวซีแลนด์ มีแนวโน้มว่าอาจจะยกเลิก เนื่องจากปลัด ก.พาณิชย์
ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะไม่ต้องการให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย โดยเฉพาะในกรณีการเปิด
เสรีสินค้านมและผลิตภัณฑ์ เนื้อและผลิตภัณฑ์ ซึ่งไทยไม่มีศักยภาพในการแข่งขัน ขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มี
ศักยภาพมากทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต การตลาด และราคาจำหน่าย ดังนั้น หากในการเจรจาครั้งที่ 3 ใน
เดือน ก.ย.นี้ นิวซีแลนด์ยังคงยืนยันให้ไทยเปิดเสรีนมและผลิตภัณฑ์ เนื้อและผลิตภัณฑ์อย่างมาก และให้ไทยเปิด
เสรีเร็วกว่าที่เปิดให้กับออสเตรเลีย ไทยก็พร้อมที่จะยกเลิกการเจรจาเอฟทีเอระหว่างกัน เพราะไทยจะไม่ยอม
เปิดเสรีให้มากกว่าที่ให้กับออสเตรเลียอย่างแน่นอน (ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ, มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.ในช่วงต้นเดือน ก.ย.47 ยังคงไม่กระเตื้องขึ้น รายงาน
จากนิวยอร์กเมื่อ 17 ก.ย.47 The University of Michigan เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้
บริโภค สรอ.ในช่วงต้นเดือน ก.ย.47 ว่าอยู่ที่ระดับ 95.8 จากระดับ 95.9 ในเดือนก่อน ต่ำกว่าการคาด
การณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 96.5 ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงมีสาเหตุจากการที่
ผู้บริโภคยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ซึ่งมีแนวโน้มจะชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัด
สถานการณ์เศรษฐกิจซึ่งสำรวจโดย The Economic Cycle Research Institute (ECRI) ซึ่งครอบคลุม
ดัชนีชี้วัดการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจ สรอ.อาจประสบภาวะซบเซาในช่วง
ต่อไป โดย Weekly leading index (WLI) ลดลงที่ระดับ 131.7 ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย.47
เทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 132.5 โดยการปรับตัวลดลงของดัชนีอื่นๆ ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นส่วนประกอบ
ของ WLI บ่งชี้ว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
สรอ. โดยราคาน้ำมันดิบ ณ วันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นใกล้เคียง 45 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลประกอบกับการที่
ฤดูมรสุมยังคงกระหน่ำอ่าวผลิตน้ำมันของ สรอ.อย่างต่อเนื่อง ยิ่งสร้างความกังวลต่อ การผลิตพลังงานของ
สรอ. ซึ่งอาจส่งผลให้ สรอ.ต้องนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
2. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย.จะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว รายงาน
จากเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 47 รอยเตอร์เปิดเผยผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 28 คนคาดว่า
อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย. จะยังคงอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วและลด
ลงจากเดือนส.ค. เพียงร้อยละ 0.1 เนื่องจากแรงกดดันด้านราคาลดลง ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีซึ่งมี
เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสามารถเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของเศรษฐกิจในยูโรโซน ซึ่งสำนักงานสถิติจะ
เปิดเผยตัวเลขประมาณการณ์เงินเฟ้อเบื้องต้นของเยอรมนีในวันศุกร์หน้า(รอยเตอร์)
3. ผลผลิตอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนมิ.ย. รายงาน
จากบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 47 สำนักงานสถิติยุโรปเปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. ผลผลิตอุตสาหกรรมของ
ยูโรโซนเพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. ร้อยละ 0.4 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว น้อยกว่า
ที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่าผลผลิตดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบต่อเดือนขณะที่ตัวเลขเมื่อเทียบต่อปี ตัว
เลขดังกล่าวดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.0 ทั้งนี้เนื่องจากผลผลิตสินค้าคงทนเพิ่ม
ขึ้นมากที่สุดในรอบปี (รอยเตอร์)
4. อิตาลีคาดว่าในปี 48 จะขาดดุล งปม. ร้อยละ 2.8 ของจีดีพี รายงานเมืองเปรูจา
ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 18 ก.ย.47 Mario Baldassari รมช.ก.เศรษฐกิจ ของอิตาลี เปิดเผยว่าการใช้
จ่ายเงินลงทุนเพื่อสาธารณะประโยชน์ฉบับใหม่จะทำให้อิตาลีขาดดุล งปม. ลดลงสู่ระดับร้อยละ 2.8 ของจีดีพีใน
ปี 48 ซึ่งเป็นประมาณการที่สูงกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ว่าในปี 48 จะขาดดุล งปม. ร้อยละ 2.7 แต่ยังต่ำกว่า
ร้อยละ 2.9 ที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รมว.เศรษฐกิจของอิตาลีกล่าวว่า งปม. ปี 48
จะกำหนดให้แต่ละกระทรวงเพิ่มค่าใช้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ 2 ซึ่งจะทำให้ลดการขาดดุล งปม. ลงได้ประมาณ
17 พันล้านยูโร จาก 24 พันล้านยูโร (รอยเตอร์)
5. ธ.กลางเกาหลีใต้คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน ก.ย.47 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ต่ำ
กว่าเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 รายงานจากโซลเมื่อ 17 ก.ย.47 ธ.กลางเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ดัชนี
ราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.47 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 ต่ำกว่าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8
ในเดือนก่อน สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.47 คาดว่า จะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 4.0-
4.4 โดยราคาอาหารคาดว่าจะยังคงมีเสถียรภาพอยู่ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมบริการสาธารณะยัง
คงสร้างความกังวลต่อการเกิดภาวะเงินเฟ้อ (รอยเตอร์)
6. สิงคโปร์คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้อาจสูงเป็นตัวเลขสองหลัก รายงานจาก
ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.47 รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่า การส่งออกไมโครชิปและเวชภัณฑ์ของ
สิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากในเดือน ส.ค.47 ทำให้คาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอาจะทำให้อัตราการเติบโต
ทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้สูงเป็นตัวเลขสองหลัก นับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบทศวรรษ โดยการส่งออก
สินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันที่มีการปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วในเดือน ก.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 หรือหากเทียบต่อปี
การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 คิดเป็นมูลค่า 11.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (6.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ.) ซึ่ง
ข้อมูลด้านการส่งออกที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังของปี 47 ช่วยสนับสนุนมุมมองที่คาดว่าการเติบโตทาง
เศรษฐกิจของสิงคโปร์จะมีมูลค่าถึง 95 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และจีดีพีจะขยายตัวถึงร้อยละ 9 ในปีนี้ ทั้งนี้
คาดว่าตัวเลขการค้าและการผลิตในไตรมาส 3 ปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่
รมว.แรงงานคาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์อาจเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในปีนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ก.ย. 47 17 ก.ย. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.28 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.0646/41.3570 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1. 5625-1.6250 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 668.73/27.50 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,850/7,950 7,850/7,950 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 35.56 34.09 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 21.79*/14.59 21.79*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 24 ส.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.เตรียมออกหนังสือความรู้ประกอบภาพการ์ตูน ผู้อำนวยการสายสนับสนุนการบริหาร
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เตรียมออกหนังสือความรู้ประกอบภาพการ์ตูน เรื่อง “มา
รู้จักแบงก์ชาติกันเถอะ” ซึ่งจะเป็นหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ ธปท.ว่ามีบทบาทหน้าที่อย่างไร รวมทั้งบทบาท
หน้าที่ในการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินกว้าง ๆ เนื่องจากในขณะนี้ประชาชนทั่ว
ไปไม่ค่อยรู้บทบาท ธปท.ว่ามีหน้าที่อย่างไร คาดว่าจะออกได้ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยจัดพิมพ์เป็นลักษณะ 4
สี 50 หน้า จัดพิมพ์ครั้งแรกจำนวน 50,000 เล่ม (เดลินิวส์)
2. หนี้ครัวเรือนไทยครึ่งแรกปี 47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 เมื่อเทียบกับปี 45 สำนักงานสถิติแห่ง
ชาติสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมครัวเรือนประจำปี 47 พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 47 เมื่อเทียบกับปี 45
รายได้และรายจ่ายของคนไทยเพิ่มขึ้น แต่หนี้สินเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่า โดยพบว่ารายได้เฉลี่ยของครัวเรือนทั่ว
ประเทศ (เป็นรายได้ของครัวเรือนในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมานำมาเฉลี่ยต่อเดือน) เพิ่มขึ้นจาก 13,418 บาท
ในปี 45 เป็น 14,617 บาทในปี 47 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ต่อปี โดยครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากทุกแหล่ง
ที่มาทั้งรายได้จากค่าจ้างและเงินเดือน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8) กำไรจากภาคเกษตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4)
กำไรจากการทำธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7) รวมทั้งรายได้ที่ไม่เป็นตัวเงิน ส่วนในด้านราย
จ่ายนั้น ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายจ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5.4 ซึ่งพบว่าครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายสินค้า
และบริการทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยานพาหนะและบริการสื่อสารเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง
มาก คือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 ต่อปี สำหรับหนี้สินของครัวเรือนโดยรวมทั่วประเทศในปี 47 เพิ่มขึ้นเป็นอัตรา
ร้อยละ 11.7 ต่อปี เมื่อเทียบกับปี 45 โดยจำนวนหนี้สินที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน
และเพื่อใช้ทำการเกษตร เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคพบว่า ครัวเรือนในทุกภาคมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะครัวเรือนในภาคกลางและภาคเหนือมีหนี้สินเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 22.3 และ 24.8 ต่อปี ตาม
ลำดับ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. สศช.มีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านบาท
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน สศช.มีมติ
เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อผลัก
ดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค การสร้างความสามารถทางการแข่งขัน ยกระดับมาตรฐาน
คุณภาพชีวิตของประชาชน และช่วยกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้สูงขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้
จัดการรายวัน)
4. เอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์มีแนวโน้มว่าอาจจะยกเลิก รายงานจาก ก.พาณิชย์ แจ้งว่า การ
เจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-นิวซีแลนด์ มีแนวโน้มว่าอาจจะยกเลิก เนื่องจากปลัด ก.พาณิชย์
ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะไม่ต้องการให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย โดยเฉพาะในกรณีการเปิด
เสรีสินค้านมและผลิตภัณฑ์ เนื้อและผลิตภัณฑ์ ซึ่งไทยไม่มีศักยภาพในการแข่งขัน ขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มี
ศักยภาพมากทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต การตลาด และราคาจำหน่าย ดังนั้น หากในการเจรจาครั้งที่ 3 ใน
เดือน ก.ย.นี้ นิวซีแลนด์ยังคงยืนยันให้ไทยเปิดเสรีนมและผลิตภัณฑ์ เนื้อและผลิตภัณฑ์อย่างมาก และให้ไทยเปิด
เสรีเร็วกว่าที่เปิดให้กับออสเตรเลีย ไทยก็พร้อมที่จะยกเลิกการเจรจาเอฟทีเอระหว่างกัน เพราะไทยจะไม่ยอม
เปิดเสรีให้มากกว่าที่ให้กับออสเตรเลียอย่างแน่นอน (ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ, มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.ในช่วงต้นเดือน ก.ย.47 ยังคงไม่กระเตื้องขึ้น รายงาน
จากนิวยอร์กเมื่อ 17 ก.ย.47 The University of Michigan เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้
บริโภค สรอ.ในช่วงต้นเดือน ก.ย.47 ว่าอยู่ที่ระดับ 95.8 จากระดับ 95.9 ในเดือนก่อน ต่ำกว่าการคาด
การณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 96.5 ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงมีสาเหตุจากการที่
ผู้บริโภคยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ซึ่งมีแนวโน้มจะชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัด
สถานการณ์เศรษฐกิจซึ่งสำรวจโดย The Economic Cycle Research Institute (ECRI) ซึ่งครอบคลุม
ดัชนีชี้วัดการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจ สรอ.อาจประสบภาวะซบเซาในช่วง
ต่อไป โดย Weekly leading index (WLI) ลดลงที่ระดับ 131.7 ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย.47
เทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 132.5 โดยการปรับตัวลดลงของดัชนีอื่นๆ ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นส่วนประกอบ
ของ WLI บ่งชี้ว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
สรอ. โดยราคาน้ำมันดิบ ณ วันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นใกล้เคียง 45 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลประกอบกับการที่
ฤดูมรสุมยังคงกระหน่ำอ่าวผลิตน้ำมันของ สรอ.อย่างต่อเนื่อง ยิ่งสร้างความกังวลต่อ การผลิตพลังงานของ
สรอ. ซึ่งอาจส่งผลให้ สรอ.ต้องนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
2. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย.จะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว รายงาน
จากเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 47 รอยเตอร์เปิดเผยผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 28 คนคาดว่า
อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย. จะยังคงอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วและลด
ลงจากเดือนส.ค. เพียงร้อยละ 0.1 เนื่องจากแรงกดดันด้านราคาลดลง ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีซึ่งมี
เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสามารถเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของเศรษฐกิจในยูโรโซน ซึ่งสำนักงานสถิติจะ
เปิดเผยตัวเลขประมาณการณ์เงินเฟ้อเบื้องต้นของเยอรมนีในวันศุกร์หน้า(รอยเตอร์)
3. ผลผลิตอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนมิ.ย. รายงาน
จากบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 47 สำนักงานสถิติยุโรปเปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. ผลผลิตอุตสาหกรรมของ
ยูโรโซนเพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. ร้อยละ 0.4 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว น้อยกว่า
ที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่าผลผลิตดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบต่อเดือนขณะที่ตัวเลขเมื่อเทียบต่อปี ตัว
เลขดังกล่าวดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.0 ทั้งนี้เนื่องจากผลผลิตสินค้าคงทนเพิ่ม
ขึ้นมากที่สุดในรอบปี (รอยเตอร์)
4. อิตาลีคาดว่าในปี 48 จะขาดดุล งปม. ร้อยละ 2.8 ของจีดีพี รายงานเมืองเปรูจา
ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 18 ก.ย.47 Mario Baldassari รมช.ก.เศรษฐกิจ ของอิตาลี เปิดเผยว่าการใช้
จ่ายเงินลงทุนเพื่อสาธารณะประโยชน์ฉบับใหม่จะทำให้อิตาลีขาดดุล งปม. ลดลงสู่ระดับร้อยละ 2.8 ของจีดีพีใน
ปี 48 ซึ่งเป็นประมาณการที่สูงกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ว่าในปี 48 จะขาดดุล งปม. ร้อยละ 2.7 แต่ยังต่ำกว่า
ร้อยละ 2.9 ที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รมว.เศรษฐกิจของอิตาลีกล่าวว่า งปม. ปี 48
จะกำหนดให้แต่ละกระทรวงเพิ่มค่าใช้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ 2 ซึ่งจะทำให้ลดการขาดดุล งปม. ลงได้ประมาณ
17 พันล้านยูโร จาก 24 พันล้านยูโร (รอยเตอร์)
5. ธ.กลางเกาหลีใต้คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน ก.ย.47 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ต่ำ
กว่าเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 รายงานจากโซลเมื่อ 17 ก.ย.47 ธ.กลางเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ดัชนี
ราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน ก.ย.47 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 ต่ำกว่าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8
ในเดือนก่อน สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.47 คาดว่า จะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 4.0-
4.4 โดยราคาอาหารคาดว่าจะยังคงมีเสถียรภาพอยู่ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมบริการสาธารณะยัง
คงสร้างความกังวลต่อการเกิดภาวะเงินเฟ้อ (รอยเตอร์)
6. สิงคโปร์คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้อาจสูงเป็นตัวเลขสองหลัก รายงานจาก
ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.47 รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่า การส่งออกไมโครชิปและเวชภัณฑ์ของ
สิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากในเดือน ส.ค.47 ทำให้คาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอาจะทำให้อัตราการเติบโต
ทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้สูงเป็นตัวเลขสองหลัก นับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบทศวรรษ โดยการส่งออก
สินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันที่มีการปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วในเดือน ก.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 หรือหากเทียบต่อปี
การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 คิดเป็นมูลค่า 11.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (6.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ.) ซึ่ง
ข้อมูลด้านการส่งออกที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังของปี 47 ช่วยสนับสนุนมุมมองที่คาดว่าการเติบโตทาง
เศรษฐกิจของสิงคโปร์จะมีมูลค่าถึง 95 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และจีดีพีจะขยายตัวถึงร้อยละ 9 ในปีนี้ ทั้งนี้
คาดว่าตัวเลขการค้าและการผลิตในไตรมาส 3 ปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่
รมว.แรงงานคาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์อาจเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในปีนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ก.ย. 47 17 ก.ย. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.28 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.0646/41.3570 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1. 5625-1.6250 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 668.73/27.50 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,850/7,950 7,850/7,950 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 35.56 34.09 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 21.79*/14.59 21.79*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 24 ส.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-