นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในกรณีรัฐบาลประกาศที่จะทำสงครามกับการคอร์รัปชั่น โดยกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวควรจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามสร้างภาพในการปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง แต่เมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของรัฐบาลกับไม่มีผลงานในเรื่องการปราบคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในรัฐบาลชุดนี้ ‘ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าการคอร์รัปชั่นในรัฐบาลนี้ รวมไปถึงการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และคอร์รัปชั่นในสิ่งที่พยายามทำผิดกฎหมายซึ่งเรียกว่า คอร์รัปชั่นแบบบูรณาการ หรือโกงแบบบูรณาการ ประชาชนเฝ้าจับตามองว่า ทำไมรัฐบาลจึงทำเหมือนกับ ปากว่าตาขยิบอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่กรณีเรื่องค่าโง่ทางด่วน กรณีคลองด่าน กรณีที่วัด กรณีเรื่องโกงปุ๋ย ลำไย ยางพารา จนมาถึงหลังสุด การทุจริตการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข จนคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงการคลังต้องออกมายกเลิกกรณีทั้งหมดดังที่ได้กล่าวไว้ จึงทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นเรื่องการคอร์รัปชั่น’ นายชินวรณ์ กล่าวว่า
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับท่านเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ที่ออกมายืนยันว่าจะดำเนินการปราบปรามคอร์รัปชั่นอีกครั้งนั้นเป็นการสอดรับกับโฆษกรัฐบาลที่ออกมาพูดประเด็นดังกล่าว ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า การคอร์รัปชั่นของรัฐบาลนี้คงจะเป็นเครื่องมือในการหาเสียงทางการเมือง และท้ายที่สุดอาจจะนำไปเป็นเครื่องมือในการดิสเครดิตพรรคตรงกันข้าม โดยจะต้องมาดูกันต่ออีกว่ารัฐบาลนี้มีความจริงใจหรือไม่
ทั้งนี้ในส่วนของท่านนายกรัฐมนตรีสามารถสรุปได้แล้วว่า ตนไม่สามารถเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำปราบปรามคอร์รัปชั่นของท่านได้ เพราะความไม่ตรงไปตรงมาจากนโยบาย ทั้งเรื่องของการทำสงครามกับการทุจริต สงครามกับความยากจน และแม้แต่สงครามต่อสู้กับยาเสพติด ดังนั้นผู้นำในการปราบปรามทุจริตไม่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่อำนาจทางกฎหมายอย่างที่เป็นธรรม และไม่สามารถที่จะหาข้อยุติในการปราบคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ และประชาชนคงจะได้เห็นเพียงการสร้างภาพต่อไป
ส.ส.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่ออีกว่า ฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาลดำเนินการในการบริหารราชการแผ่นดินในระบบธรรมาภิบาล แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาระบบธรรมาภิบาลภายใต้รัฐบาลนี้ ได้ชื่อว่าไม่ได้มีแต่การทุจริตในระดับทางการเมืองเท่านั้น แต่ในระบบราชการก็มีการทุจริตเพิ่มมากขึ้น ‘จากตัวเลขที่เป็นผลจากการวิจัยยอมรับอย่างชัดเจนว่า มีการทุจริตในทุกระดับ การแก้ไขปัญหาการทุจริตต้องเริ่มจากนักการเมืองก่อน ถ้านักการเมืองยังมีการทุจริตทั้งในเชิงนโยบาย และทุจริตในการเรียกรับผลประโยชน์โดยตรง ปัญหาดังกล่าวคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน’ นายชินวรณ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับท่านเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ที่ออกมายืนยันว่าจะดำเนินการปราบปรามคอร์รัปชั่นอีกครั้งนั้นเป็นการสอดรับกับโฆษกรัฐบาลที่ออกมาพูดประเด็นดังกล่าว ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า การคอร์รัปชั่นของรัฐบาลนี้คงจะเป็นเครื่องมือในการหาเสียงทางการเมือง และท้ายที่สุดอาจจะนำไปเป็นเครื่องมือในการดิสเครดิตพรรคตรงกันข้าม โดยจะต้องมาดูกันต่ออีกว่ารัฐบาลนี้มีความจริงใจหรือไม่
ทั้งนี้ในส่วนของท่านนายกรัฐมนตรีสามารถสรุปได้แล้วว่า ตนไม่สามารถเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำปราบปรามคอร์รัปชั่นของท่านได้ เพราะความไม่ตรงไปตรงมาจากนโยบาย ทั้งเรื่องของการทำสงครามกับการทุจริต สงครามกับความยากจน และแม้แต่สงครามต่อสู้กับยาเสพติด ดังนั้นผู้นำในการปราบปรามทุจริตไม่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่อำนาจทางกฎหมายอย่างที่เป็นธรรม และไม่สามารถที่จะหาข้อยุติในการปราบคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ และประชาชนคงจะได้เห็นเพียงการสร้างภาพต่อไป
ส.ส.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่ออีกว่า ฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาลดำเนินการในการบริหารราชการแผ่นดินในระบบธรรมาภิบาล แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาระบบธรรมาภิบาลภายใต้รัฐบาลนี้ ได้ชื่อว่าไม่ได้มีแต่การทุจริตในระดับทางการเมืองเท่านั้น แต่ในระบบราชการก็มีการทุจริตเพิ่มมากขึ้น ‘จากตัวเลขที่เป็นผลจากการวิจัยยอมรับอย่างชัดเจนว่า มีการทุจริตในทุกระดับ การแก้ไขปัญหาการทุจริตต้องเริ่มจากนักการเมืองก่อน ถ้านักการเมืองยังมีการทุจริตทั้งในเชิงนโยบาย และทุจริตในการเรียกรับผลประโยชน์โดยตรง ปัญหาดังกล่าวคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน’ นายชินวรณ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-