นายตรีพล เจาะจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้สดถามพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล โดยกล่าวว่า ในวันที่ 30 กันยายนนี้รัฐบาลจะประกาศทำสงครามกับการคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น หากตลอด 3 ปี 9 เดือนของรัฐบาลทำตามคำมั่นสัญญาที่แถลงไว้กับรัฐสภาเมื่อประมาณปี 2544 ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2543 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต นายกฯกล่าวไว้ว่า ‘เราต้องเฉียบขาดกับคอร์รัปชั่น รัฐมนตรีในรัฐบาลผมถ้าสงสัยจัดการเลย’เข้าใจว่าตอนนั้นท่านอยู่ในช่วงหาเสียง ทั้งนี้ตนคิดว่าการเป็นผู้นำต้องกล้าตัดสินใจ ถ้าพบว่ารัฐมนตรีส่อพิรุธต้องจัดการ ไม่ต้องรอไปพิสูจน์ว่ามาจากที่ไหนทำให้เสียเวลาในการแก้ปัญหา
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 ท่านเข้ามาเป็นรัฐบาลและแถลงนโยบาย โดยส่วนหนึ่งท่านบอกว่าเป็นผู้เขียนด้วยตนเอง ก็คือ 3 สงคราม 1.สงครามยาเสพติด 2.สงครามความยากจน 3. สงครามคอร์รัปชั่น ในการตรวจสอบการทำสงครามกับยาเสพติด เป็นที่น่าพอใจถึงแม้จะมีการฆ่าตัดตอนเป็นจำนวนมาก การทำสงครามความยากจน ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลได้ดำเนินการทำให้คนจนเพิ่มขึ้นเป็น 9 ล้านคน ถือเป็นการแพ้สงครามอย่างสิ้นเชิง และส่วนสงครามคอร์รัปชั่นไม่ได้ทำเลย ‘ตลอดเวลาในการทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาลๆไม่เคยทำตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ในสภาและกับประชาชน ละเลย เหลวไหล ไม่เอาใจใส่ หรือไม่กล้าทำเพราะพวกพ้อง โดยใน3 ปี9เดือนที่ผ่านมาพบการโกงหลายประเภท โกงทั้งกินตามน้ำ ทั้งกินตามใจฉัน ทั้งโกงธรรมดา และโกงแบบพิสดาร คือ ผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้ยังโกงกับคนทุกอายุ ทุกระดับ ทุกอาชีพ เช่น โกงเด็ก โครงการนมโรงเรียน โกงวัด สนามกอล์ฟอัลไพน์ โกงเกษตร ปุ๋ยปลอม ธนาคารโคกระบือในโครงการพระราชดำริ การรับจำนำข้าว และอื่นๆ’ นายตรีพล กล่าว
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า การคอร์รัปชั่นเกิดได้ ต้องมีเส้นความชั่วของคน 3 กลุ่มมาบรรจบ คือ กลุ่มนักการเมือง เป็นกลุ่มที่ต้องการอำนาจ กลุ่มข้าราชการ ที่ต้องการตำแหน่ง และกลุ่มพ่อค้า ที่ต้องการเงิน ถ้า 3 กลุ่มเกิดความไม่ดีพร้อมๆกันก็ก่อให้เกิดคอร์รัปชั่น เรื่องดังกล่าวนายกฯทราบเป็นอย่างดี เพราะท่านนายกฯเคยเป็นทั้ง 3 กลุ่มที่ได้กล่าวมา ‘การประกาศทำสงครามกับคอร์รัปชั่นครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 กันยายน 2547 ท่านไม่สามารถประกาศได้เมื่อองค์กรท่านยังไม่บริสุทธิ์ เพราะองค์กรที่ท่านเป็นหัวหน้าอยู่มีการซื้อเสียง ซื้อตัวส.ส.เสร็จเรียบร้อยหรือยัง ถ้ามีแล้วจะเอาเข้าออกได้ไหมถึงจะทำการประกาศ ถ้าท่านยังทำไม่ได้ไม่มีทางที่จะประกาศ เพราะองค์กรตัวเองไม่ทำ จะไปทำองค์กรอื่นได้อย่างไร’ ส.ส.นครศรีธรรมราชกล่าว และกล่าวต่อว่า นายกฯเคยกล่าวคำมั่นสัญญาว่า การเมืองเป็นต้นเหตุของคอร์รัปชั่น ตราบใดที่การเมืองยังต้องใช้เงินมาก ตรงนี้ชัด พรรคที่ท่านเป็นหัวหน้า จ่ายเงินเดือนส.ส.เดือนละ 500,000 บาท ทั้งหมด 400เขต เป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท ตนถามว่าองค์กรท่านใช้เงินมากหรือไม่ การซื้อเสียงยังมีอยู่ อีกทั้งการซื้อขายตำแหน่งของข้าราชการต้องไม่มี ถ้านักการเมืองขายตำแหน่ง มีการการดูดการดึงส.ส. ผลทั้งหมดจะไปตกที่ประชาชนคือได้รับความยากจนเป็นของแถมโดยไม่มีการหลีกเลี่ยง ดังนั้นการประกาศทำสงครามคอร์รัปชั่นครั้งที่ 2 ตนอยากเสนอว่า ขอให้นายกฯทำตามที่พูด เพราะท่านมีอำนาจดำเนินการได้เต็มที่
นายตรีพล กล่าวว่า การคอร์รัปชั่นไม่มีใบเสร็จ และหลักฐาน ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เป็นคำกล่าวของท่านนายกฯ กรณีการทุจริตคลองด่านสื่อได้เสนอข่าวว่า ‘ชัวร์ฟันธงรัฐเสียค่าโง่คลองด่าน’ เรื่องนี้มีรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคนที่พบเงินในโครงการและอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยในตอนนี้ ไม่ทราบว่านายกฯทราบหรือยัง อีกทั้งการประชุมครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา สื่อได้กล่าวถึงคำพูดของท่านนายกฯว่า อย่าได้เห็นเงินสำคัญกว่าผลงาน อย่าแอบอ้างชื่อของผมไปทำการใดๆ ถ้าใครจะบริจาคก็บริจาคมาพรรคจะออกใบเสร็จให้ เพราะทราบถึงการที่มีรัฐมนตรีไปพูดกับผู้บริหารบางบริษัท ว่า ต้องหาเงินเข้าพรรค โดยไปอ้างชื่อตน ภรรยา และน้อง ถ้าได้ยินอีกว่ามีใครไปอ้างอย่าว่าตน ถ้าทำอะไรลงไป แต่คนที่เอาชื่อผมไปอ้าง และผมรู้ ไม่ได้มาอยู่ในที่ประชุมนี้
สำหรับรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ประชุมนัดพิเศษมีอยู่ 4 ท่าน ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับการที่ ดร.สังศิต พิริยะ รังสรรค์ ที่ได้ออกมาพูดว่า มีรัฐมนตรีบางคนเรียกเก็บเงินนักธุรกิจหลายละ 20 ล้านบาท ตนจึงอยากถามว่ารัฐมนตรีที่มีส่วนในคลองด่านคือใคร และ รัฐมนตรีที่ไม่ได้เข้าประชุมเป็นใคร
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 ท่านเข้ามาเป็นรัฐบาลและแถลงนโยบาย โดยส่วนหนึ่งท่านบอกว่าเป็นผู้เขียนด้วยตนเอง ก็คือ 3 สงคราม 1.สงครามยาเสพติด 2.สงครามความยากจน 3. สงครามคอร์รัปชั่น ในการตรวจสอบการทำสงครามกับยาเสพติด เป็นที่น่าพอใจถึงแม้จะมีการฆ่าตัดตอนเป็นจำนวนมาก การทำสงครามความยากจน ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลได้ดำเนินการทำให้คนจนเพิ่มขึ้นเป็น 9 ล้านคน ถือเป็นการแพ้สงครามอย่างสิ้นเชิง และส่วนสงครามคอร์รัปชั่นไม่ได้ทำเลย ‘ตลอดเวลาในการทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาลๆไม่เคยทำตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ในสภาและกับประชาชน ละเลย เหลวไหล ไม่เอาใจใส่ หรือไม่กล้าทำเพราะพวกพ้อง โดยใน3 ปี9เดือนที่ผ่านมาพบการโกงหลายประเภท โกงทั้งกินตามน้ำ ทั้งกินตามใจฉัน ทั้งโกงธรรมดา และโกงแบบพิสดาร คือ ผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้ยังโกงกับคนทุกอายุ ทุกระดับ ทุกอาชีพ เช่น โกงเด็ก โครงการนมโรงเรียน โกงวัด สนามกอล์ฟอัลไพน์ โกงเกษตร ปุ๋ยปลอม ธนาคารโคกระบือในโครงการพระราชดำริ การรับจำนำข้าว และอื่นๆ’ นายตรีพล กล่าว
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า การคอร์รัปชั่นเกิดได้ ต้องมีเส้นความชั่วของคน 3 กลุ่มมาบรรจบ คือ กลุ่มนักการเมือง เป็นกลุ่มที่ต้องการอำนาจ กลุ่มข้าราชการ ที่ต้องการตำแหน่ง และกลุ่มพ่อค้า ที่ต้องการเงิน ถ้า 3 กลุ่มเกิดความไม่ดีพร้อมๆกันก็ก่อให้เกิดคอร์รัปชั่น เรื่องดังกล่าวนายกฯทราบเป็นอย่างดี เพราะท่านนายกฯเคยเป็นทั้ง 3 กลุ่มที่ได้กล่าวมา ‘การประกาศทำสงครามกับคอร์รัปชั่นครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 กันยายน 2547 ท่านไม่สามารถประกาศได้เมื่อองค์กรท่านยังไม่บริสุทธิ์ เพราะองค์กรที่ท่านเป็นหัวหน้าอยู่มีการซื้อเสียง ซื้อตัวส.ส.เสร็จเรียบร้อยหรือยัง ถ้ามีแล้วจะเอาเข้าออกได้ไหมถึงจะทำการประกาศ ถ้าท่านยังทำไม่ได้ไม่มีทางที่จะประกาศ เพราะองค์กรตัวเองไม่ทำ จะไปทำองค์กรอื่นได้อย่างไร’ ส.ส.นครศรีธรรมราชกล่าว และกล่าวต่อว่า นายกฯเคยกล่าวคำมั่นสัญญาว่า การเมืองเป็นต้นเหตุของคอร์รัปชั่น ตราบใดที่การเมืองยังต้องใช้เงินมาก ตรงนี้ชัด พรรคที่ท่านเป็นหัวหน้า จ่ายเงินเดือนส.ส.เดือนละ 500,000 บาท ทั้งหมด 400เขต เป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท ตนถามว่าองค์กรท่านใช้เงินมากหรือไม่ การซื้อเสียงยังมีอยู่ อีกทั้งการซื้อขายตำแหน่งของข้าราชการต้องไม่มี ถ้านักการเมืองขายตำแหน่ง มีการการดูดการดึงส.ส. ผลทั้งหมดจะไปตกที่ประชาชนคือได้รับความยากจนเป็นของแถมโดยไม่มีการหลีกเลี่ยง ดังนั้นการประกาศทำสงครามคอร์รัปชั่นครั้งที่ 2 ตนอยากเสนอว่า ขอให้นายกฯทำตามที่พูด เพราะท่านมีอำนาจดำเนินการได้เต็มที่
นายตรีพล กล่าวว่า การคอร์รัปชั่นไม่มีใบเสร็จ และหลักฐาน ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เป็นคำกล่าวของท่านนายกฯ กรณีการทุจริตคลองด่านสื่อได้เสนอข่าวว่า ‘ชัวร์ฟันธงรัฐเสียค่าโง่คลองด่าน’ เรื่องนี้มีรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคนที่พบเงินในโครงการและอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยในตอนนี้ ไม่ทราบว่านายกฯทราบหรือยัง อีกทั้งการประชุมครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา สื่อได้กล่าวถึงคำพูดของท่านนายกฯว่า อย่าได้เห็นเงินสำคัญกว่าผลงาน อย่าแอบอ้างชื่อของผมไปทำการใดๆ ถ้าใครจะบริจาคก็บริจาคมาพรรคจะออกใบเสร็จให้ เพราะทราบถึงการที่มีรัฐมนตรีไปพูดกับผู้บริหารบางบริษัท ว่า ต้องหาเงินเข้าพรรค โดยไปอ้างชื่อตน ภรรยา และน้อง ถ้าได้ยินอีกว่ามีใครไปอ้างอย่าว่าตน ถ้าทำอะไรลงไป แต่คนที่เอาชื่อผมไปอ้าง และผมรู้ ไม่ได้มาอยู่ในที่ประชุมนี้
สำหรับรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ประชุมนัดพิเศษมีอยู่ 4 ท่าน ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับการที่ ดร.สังศิต พิริยะ รังสรรค์ ที่ได้ออกมาพูดว่า มีรัฐมนตรีบางคนเรียกเก็บเงินนักธุรกิจหลายละ 20 ล้านบาท ตนจึงอยากถามว่ารัฐมนตรีที่มีส่วนในคลองด่านคือใคร และ รัฐมนตรีที่ไม่ได้เข้าประชุมเป็นใคร
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-