นายตรีพล เจาะจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับคอรัปชั่น ครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 กันยายน 2547 หลังจากประกาศ มาแล้วเมื่อปี 2544 ซึ่งการประกาศครั้งนั้น ปรากฎว่ารัฐบาลประสบความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ทำให้มีการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นมากที่สุด มากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้ประกาศสงครามปราบคอร์รัปชั่น ครั้งที่ 2 ประสบความสำเร็จตนจึงได้นำเสนอยุทธศาสตร์ 5 ข้อ ดังนี้
1. ให้ พณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นแม่ทัพและต้องดำเนินการ อย่างจริงจัง เพราะนายกฯ รู้ว่าใครเคยทุจริต และกำลังทุจริตอยู่ อย่าเลือกปฏิบัติอย่างเด็ดขาด
2. ให้ทำสงครามคอร์รัปชั่นกับสมาชิกพรรคไทยรักไทยก่อน โดยที่นายกฯ ต้องไม่ส่งผู้ที่เคยซื้อเสียง หรือผู้ที่เคยทุจริต ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งต่อไป
3. ให้ ปปง.ทำการตรวจสอบ ส.ส.หรือรัฐมนตรี ที่ร่ำรวยผิดปกติ รัฐมนตรีที่มีบ้าน และธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศ
4. ถ้าทำได้ในข้อ 3. ต่อไปก็ให้ดำเนินการลักษณะเดียวกัน กับพรรคการเมืองอื่นๆ
5. เมื่อดำเนินการกับนักการเมือง เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ให้คำนึงถึงการตรวจสอบ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ร่ำรวยผิดปกติ
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า ถ้าไม่ตรวจสอบคนรอบข้างนายกฯ หรือคนในรัฐบาลให้สะอาดเสียก่อน ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะไปตรวจสอบการทุจริตขององค์กรอื่น เพราะจะโดนกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งคนอื่น หรือช่วยพวกพ้องของตนเอง ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ นายกฯในฐานะ แม่ทัพจะเกิดความเสียหายอย่างมาก ‘ทางที่ดีที่สุด ควรทำความสะอาดภายในบ้านตนเองก่อน ที่จะไปตรวจสอบบ้านคนอื่น เพราะนายกฯ รู้ว่าอยู่ในพรรค ทรท. และในรัฐบาล ใครคือคนโกง และเคยโกงมาแล้ว’ นายตรีพล กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
1. ให้ พณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นแม่ทัพและต้องดำเนินการ อย่างจริงจัง เพราะนายกฯ รู้ว่าใครเคยทุจริต และกำลังทุจริตอยู่ อย่าเลือกปฏิบัติอย่างเด็ดขาด
2. ให้ทำสงครามคอร์รัปชั่นกับสมาชิกพรรคไทยรักไทยก่อน โดยที่นายกฯ ต้องไม่ส่งผู้ที่เคยซื้อเสียง หรือผู้ที่เคยทุจริต ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งต่อไป
3. ให้ ปปง.ทำการตรวจสอบ ส.ส.หรือรัฐมนตรี ที่ร่ำรวยผิดปกติ รัฐมนตรีที่มีบ้าน และธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศ
4. ถ้าทำได้ในข้อ 3. ต่อไปก็ให้ดำเนินการลักษณะเดียวกัน กับพรรคการเมืองอื่นๆ
5. เมื่อดำเนินการกับนักการเมือง เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ให้คำนึงถึงการตรวจสอบ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ร่ำรวยผิดปกติ
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า ถ้าไม่ตรวจสอบคนรอบข้างนายกฯ หรือคนในรัฐบาลให้สะอาดเสียก่อน ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะไปตรวจสอบการทุจริตขององค์กรอื่น เพราะจะโดนกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งคนอื่น หรือช่วยพวกพ้องของตนเอง ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ นายกฯในฐานะ แม่ทัพจะเกิดความเสียหายอย่างมาก ‘ทางที่ดีที่สุด ควรทำความสะอาดภายในบ้านตนเองก่อน ที่จะไปตรวจสอบบ้านคนอื่น เพราะนายกฯ รู้ว่าอยู่ในพรรค ทรท. และในรัฐบาล ใครคือคนโกง และเคยโกงมาแล้ว’ นายตรีพล กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-