นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘ข่าวยามเช้า’ ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 101.0 เมกะเฮิร์ท ในเรื่องมาตราการโละข้าราชการ 5 %ว่า ฝ่ายค้านได้ที่ท้วงติงเรื่องดังกล่าวในการอภิปรายหลายครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะการอภิปรายงบประมาณ ซึ่งตนได้ชี้แจ้งว่า มาตรการดังกล่าวมีความผิดพลาด เพราะ คิดง่ายๆ โดยนำเอา 5% เป็นตัวตั้ง และใช้การประเมินแบบอิงกลุ่มไม่ได้อิงเกณฑ์ ทั้งนี้แม้แต่ กพ. ยังชี้แจ้งว่า ถึงทำงานดี แต่คะแนนมา 5% สุดท้ายก็ต้องถูกส่งชื่อขึ้นไปตรงนี้ไม่ถูกต้อง เพราะในหน่วยงานต่างๆอาจจะมีมากกว่า 5% ที่ต้องปรับปรุง หรือไม่มีก็ได้
อีกทั้งมาตรการเหล่านี้ยังขาดเหตุผลรองรับ ซึ่ง กพ. ยังออกมาระบุว่า ประเมินคน หรือ เอาคนออกไปแล้ว ก็ไม่ได้ไปลดคน แต่สร้างคนแทน จึงไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของมาตรการนี้ว่ามีแนวทางอย่างไร ผลที่ตามมาคือ
1. ผลกระทบต่อการเสียเวลาทรัพยากร เพราะไม่เคยทราบกติกาว่าต้องประเมินอย่างไร ทำให้เสียเวลาทำแบบประเมิน และผลจากการประเมินพบว่ามีส่วนเสียมากกว่า โดยที่ความเสียหายตรงนี้ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
2. เกิดความกระทบกระเทือนต่อขวัญและกำลังใจ เพราะความไม่ชัดเจนของกติกาส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ผ่านมา
3.เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะในหน่วยงานเล็กๆ ซึ่งเห็นหน้ากันอยู่เท่านั้นต้องเลือกคนเพื่อส่งชื่อให้รัฐบาล
4.บุคคลที่ไม่สามารถที่จะทนได้กับมาตรการเหล่านี้ ทำให้บุคคลนั้นต้องลาออกไป ดังนั้นบุคคลเหล่านั้นจะกลับมาอย่างไร
5.เรื่องของการกลั่นแกล้งข่มขู่ หรือ ปัญหาใหญ่ของระบบราชการในยุครัฐบาลนี้ คือ มีการล้มระบบคุณธรรมไป เป็นระบบพรรคพวกเพื่อสนองฝ่ายการเมืองอย่างเดียว
ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้น ค่อนข้างที่จะรุนแรง เรื่องดังกล่าวรัฐบาลต้องตั้งหลักใหม่ ตนคิดว่าก่อนที่รัฐบาลจะประกาศมาตรการในเรื่องนี้ขอให้มีความชัดเจน และเข้าใจหลักการทำงานของระบบการบริหารงานภาครัฐ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
อีกทั้งมาตรการเหล่านี้ยังขาดเหตุผลรองรับ ซึ่ง กพ. ยังออกมาระบุว่า ประเมินคน หรือ เอาคนออกไปแล้ว ก็ไม่ได้ไปลดคน แต่สร้างคนแทน จึงไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของมาตรการนี้ว่ามีแนวทางอย่างไร ผลที่ตามมาคือ
1. ผลกระทบต่อการเสียเวลาทรัพยากร เพราะไม่เคยทราบกติกาว่าต้องประเมินอย่างไร ทำให้เสียเวลาทำแบบประเมิน และผลจากการประเมินพบว่ามีส่วนเสียมากกว่า โดยที่ความเสียหายตรงนี้ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
2. เกิดความกระทบกระเทือนต่อขวัญและกำลังใจ เพราะความไม่ชัดเจนของกติกาส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ผ่านมา
3.เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะในหน่วยงานเล็กๆ ซึ่งเห็นหน้ากันอยู่เท่านั้นต้องเลือกคนเพื่อส่งชื่อให้รัฐบาล
4.บุคคลที่ไม่สามารถที่จะทนได้กับมาตรการเหล่านี้ ทำให้บุคคลนั้นต้องลาออกไป ดังนั้นบุคคลเหล่านั้นจะกลับมาอย่างไร
5.เรื่องของการกลั่นแกล้งข่มขู่ หรือ ปัญหาใหญ่ของระบบราชการในยุครัฐบาลนี้ คือ มีการล้มระบบคุณธรรมไป เป็นระบบพรรคพวกเพื่อสนองฝ่ายการเมืองอย่างเดียว
ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้น ค่อนข้างที่จะรุนแรง เรื่องดังกล่าวรัฐบาลต้องตั้งหลักใหม่ ตนคิดว่าก่อนที่รัฐบาลจะประกาศมาตรการในเรื่องนี้ขอให้มีความชัดเจน และเข้าใจหลักการทำงานของระบบการบริหารงานภาครัฐ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-