= การประชุมสภาผู้แทนราษฎร
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันพุธที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๗
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑๖ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)
วันพุธที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา โดยมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ได้ขอหารือในเรื่องต่าง ๆ แล้ว เมื่อครบองค์ประชุม ประธานได้ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ ดังนี้
๑. กระทู้ถาม (ไม่มี)
๒. เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม
ประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
๑. รับทราบเรื่องวุฒิสภาได้พิจารณาและรับทราบร่างแผนปฏิบัติการ เพื่อ
กำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง และงบประมาณ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากร
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๒. รับทราบเรื่องนายกรัฐมนตรีได้รับร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินไว้
พิจารณาให้คำรับรอง จำนวน ๖ ฉบับ คือ
๒.๑ ร่างพระราชบัญญัติองค์กรอิสระผู้บริโภค พ.ศ. ….
ซึ่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
๒.๒ ร่างพระราชบัญญัติคนพิการ พ.ศ. ….
ซึ่ง นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ เป็นผู้เสนอ
๒.๓ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พ.ศ. ….
ซึ่ง นายสุวโรช พะลัง กับคณะ เป็นผู้เสนอ
๒.๔ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารและวิธีการต้องห้ามทาง
การกีฬา พ.ศ. ….
ซึ่ง นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร กับคณะ เป็นผู้เสนอ
๒.๕ ร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์ พ.ศ. ….
ซึ่ง นายจำรัส เวียงสงค์ เป็นผู้เสนอ
๒.๖ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนส่งเสริมภาพยนตร์ พ.ศ. ….
ซึ่ง นายจำรัส เวียงสงค์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
ที่ประชุมรับทราบ
๓. รับรองรายงานการประชุม (ไม่มี)
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่มีมติให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ตามลำดับดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. ….
ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย
ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓
ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย ๑๙๕ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๒. ร่างพระราชบัญญัติพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย
ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า เรื่องอำนาจหน้าที่ของ
คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติในการประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ
ไม่ชัดเจนว่าจะต้องเป็นผู้ประสานงานเองหรือไม่อย่างไร และการที่กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจในการศึกษา
วิเคราะห์ และประเมินผลการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรค
ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการกำหนดให้คณะกรรมการซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติมีอำนาจประเมินการทำงานของคณะ
กรรรมการเองอาจไม่ถูกต้อง ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ผลัดเปลี่ยนกันชี้แจงว่า เรื่องอำนาจหน้าที่ของ
คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ในการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐนั้น
ต้องการให้คณะกรรมการเป็นหลักในการประสานงานโดยทำหน้าที่วางนโยบายและเป็นผู้กำหนด
เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเท่านั้น สำหรับการประสานงานเป็นเรื่องของหน่วยงานของ
รัฐต้องเป็นผู้ดำเนินการ เรื่องการที่กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจในการศึกษา วิเคราะห์
และประเมินผลนั้น เนื่องจากคณะกรรมการไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง
จึงกำหนดให้มีอำนาจหน้าที่ดังกล่าว เพื่อจะได้จัดวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไปได้ เมื่อสมาชิก
ได้อภิปรายและกรรมาธิการได้ตอบชี้แจงพอสมควรแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓
ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย ๒๑๖ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้
ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตุของคณะกรรมาธิการ เพื่อแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรีด้วย
๓. ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ เริ่มต้นด้วยชื่อร่าง คำปรารภ
และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง โดยสมาชิกอภิปรายมาตรา ๓ ว่าด้วย การยกเลิกกฎหมาย
หลายฉบับโดยเฉพาะพระราชบัญญัติกู้เงินเพื่อการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๕๑๙ พระราชบัญญัติ
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินจากรัฐบาลต่างประเทศ เพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์
ทางทหาร พ.ศ. ๒๕๒๔ และพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินจากต่างประเทศ
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๔๑ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องยกเลิกกฎหมายเหล่านี้
เพราะเมื่อมีความจำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในการใดสามารถออกกฎหมายเพื่อการนั้นได้ทันที
นอกจากนี้เสนอขอให้เพิ่มเติมกฎหมายเพื่อให้ยกเลิกมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณางบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒
ว่าด้วย ข้อกำหนดรัฐวิสาหกิจที่จะกู้เงินจากองค์กรใดจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีและผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
โดยกฎหมายฉบับใหม่นี้ได้กำหนดให้อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่เหมาะสมกว่าการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมีอำนาจในการนี้ด้วย ต่อมาเป็นการอภิปรายในส่วนของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่
นิติบุคคลที่ต้องการกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินการ ต้องขออนุมัติจากรัฐมนตรี ซึ่งในความเป็นจริงควรกำหนดให้
รวมรัฐวิสาหกิจที่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเดิมด้วย และเมื่อเป็นการกู้เพื่อการลงทุนต้องเสนอแผนการลงทุน
ให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาก่อน และหากเกินกว่า ๕๐ ล้านบาทขึ้นไป ต้องขออนุมัติ
รัฐมนตรีและเมื่อได้รับเงินกู้แล้วต้องจ่ายตามวัตถุประสงค์ของรัฐวิสาหกิจนั้น โดยไม่ต้องส่งกระทรวงการคลังตาม
พ.ร.บ. วิธีพิจารณางบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ ในช่วงท้ายสมาชิก ฯ ได้อภิปรายเกี่ยวกับการกู้เงินจากสถาบัน
การเงินและคุณสมบัติของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะในส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ที่ปรึกษาทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ไม่สามารถเป็น
คณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งกรรมาธิการเสียงข้างน้อยไม่เห็นด้วยในกรณีนี้ เพราะไม่มีการระบุชัดเจนว่าบุคคลเหล่านี้
ครอบคลุมไปถึงใครบ้าง ดังนั้นจึงควรกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นบุคคลกลุ่มใด
จากประเด็นการอภิปรายของสมาชิกฯ กรรมาธิการวิสามัญได้ตอบชี้แจงกรณี การ ยกเลิกกฎหมายหลายฉบับนั้น
เพราะได้มีการกู้เงินภายใต้การบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้และมีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดไว้อย่างชัดเจนแล้ว
ดังนั้น จึงควรยกเลิกกฎหมายในมาตรา ๓ และกรณีการ ไม่เพิ่มอนุมาตรา ๘ เพราะมีการบังคับใช้ใน
มาตรา ๙ ทวิ ของ พ.ร.บ. วิธีพิจารณางบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ อยู่แล้ว พร้อมทั้งมีกฎหมายว่าด้วย
นิติบุคคลเป็นการเฉพาะในขณะที่วิธีการปฏิบัติกรณีเช่นนี้นั้น รัฐวิสาหกิจเสนอแผนการลงทุนให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติพิจารณาอยู่แล้ว นอกจากนี้กรรมาธิการต้องการให้การบังคับใช้ในเรื่องนี้กับรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่นิติบุคคลเป็นการ
เฉพาะด้วย จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการพิจารณาคณะกรรมาธิการวิสามัญ ในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียง ๒๑๘ เสียง
และเห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งจะได้ส่งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป
๔. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ
จากนั้น นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงว่า โดยที่การจัดตั้ง
กองทุนบำเหน็จบำนาญและให้ผลประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการ เมื่อออกจากราชการ รวมทั้งเป็นการ
ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก โดยกองทุนจะนำเงินไปลงทุน
เพื่อหาผลประโยชน์ตอบแทนคืนสู่สมาชิก แต่เนื่องจากพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙
ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินกิจการ
ของกองทุนและเพื่อประโยชน์ของสมาชิก สมควรกำหนดให้กองทุนสามารถดำเนินกิจการของกองทุนได้ทั้งในประเทศและ
ต่างประเทศ โดยอาจมอบหมายให้สถาบันการเงินหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการกองทุน และให้สมาชิกสามารถส่งเงินสะสม
เข้ากองทุนได้ตามความสามารถของแต่ละคน รวมทั้งสามารถเลือกแผนการลงทุนในหลักทรัพย์ที่กองทุนจัดทำขึ้น
ซึ่งสมาชิกจะได้รับผลตอบแทนตามอัตราตอบแทนของแต่ละแผนการลงทุน นอกจากนั้น สมควรกำหนดหลักเกณฑ์และ
วิธีการในกรณีที่กองทุนบริหารเงินของ
ผู้ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินคืน แต่ยังไม่ขอรับเงินคืนหรือขอทยอยรับเงินคืน และกรณีที่ผู้มีสิทธิรับเงินคืนขอโอนเงินไปยังกองทุนอื่น
รวมทั้งการส่งเงินประเดิมหรือเงินชดเชยคืนแก่กระทรวงการคลัง ในกรณีที่ไม่มีการจ่ายเงินประเดิมหรือเงินชดเชย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
หลังจากพิจารณาเสร็จแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนน ๒๗๔ เสียง ให้รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ไว้พิจารณา ต่อไป และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อพิจารณา
จำนวน ๓๕ คน กำหนดการแปรญัตติภายใน ๓๐ วัน
๕. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. ….
ซึ่งคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ
จากนั้น นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงว่า
โดยที่มาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ กำหนดให้ผู้อุปการะเลี้ยงดูบุพการี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ
ที่ไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ มีสิทธิได้รับการลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประมวล
รัษฎากร ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการอุปการะเลี้ยงดูบุพการี สมควรกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งอุปการะ
เลี้ยงดูบิดามารดาของตน หรือบิดามารดาของสามี หรือภริยาของตนสามารถนำค่าอุปการะเลี้ยงดูดังกล่าว มาหักลดหย่อน
ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ จากนั้น สมาชิกได้อภิปรายสนับสนุนว่า
ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะช่วยสนับสนุนให้บุตรหลานเลี้ยงดูบิดามารดาของตนมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสอดรับกับ
มาตรการต่าง ๆ สำหรับช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
ควรเปิดกว้างให้ ครอบคลุมถึงบุตรซึ่งอุปการะเลี้ยงดูบุพการี แต่มิได้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันด้วย
หลังจากพิจารณาเสร็จแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนน ๒๗๐ เสียง ให้รับหลักการแห่งร่าง
พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ไว้พิจารณา ต่อไป และตั้ง
คณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อพิจารณา จำนวน ๓๕ คน กำหนดการแปรญัตติภายใน ๗ วัน
จากนั้น ประธานการประชุมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจ
การแผ่นดินของรัฐสภา จากผู้แทนของพรรคการเมือง ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๑๖๑
จำนวน ๑๙ คน โดยมีสัดส่วนของแต่ละพรรคการเมืองดังนี้ พรรคไทยรักไทย ๑๓ คน พรรคประชาธิปัตย์ ๕ คน
พรรคชาติไทย ๑ คน ที่ประชุมเห็นชอบ
ปิดประชุมเวลา ๑๙.๐๖ นาฬิกา
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๗
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑๗ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๐.๑๕ นาฬิกา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เมื่อครบองค์ประชุมประธาน
การประชุมได้ดำเนินการพิจารณาตามระเบียบวาระ คือ ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม ไม่มี และระเบียบวาระที่ ๒
เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ดังนี้
๑. รับทราบรายงานกิจการประจำปีงบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนของธนาคารพัฒนา
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
๒. รับทราบรายงานการเงินของแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดย
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งข้อสังเกตถึงการจัดทำรายงานการเงินของแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๖ ว่า
จัดทำได้อย่างสมบูรณ์และมีรายละเอียด โดยแยกหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจากการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น
ทำให้รายรับโดยรวมจากการจัดเก็บภาษีของประเทศเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในรายงานฉบับนี้ไม่ได้แสดงรายละเอียด
ในส่วนของเงินนอกงบประมาณที่นอกเหนือ จากเงินคงคลัง และในส่วนของรายจ่ายชดใช้ที่แสดงในรายงานก็มีตัวเลขไม่ตรงกับในกฎหมาย
งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๗ นอกจากนี้ยังได้ตั้งคำถามถึงการที่รายได้จากการจัดเก็บภาษี
เพิ่มมากขึ้นนั้นเป็นการเก็บภาษีจากสินค้าทางด้านการเกษตรมากน้อยเพียงใด
จากนั้น นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้อภิปรายชี้แจงว่า
รายงานการเงินของแผ่นดินนั้นเป็นรายงานที่จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี และพยายามที่จะให้เกิดความรวดเร็ว
ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงในหลาย ๆ เรื่อง โดยในส่วนของเงินนอกงบประมาณ
ที่แสดงไว้ในรายงานนั้นเป็นเงินฝากและเงินทุนที่ส่วนราชการต้องนำมาฝาก และคาดว่าในอนาคตจะสามารถจัดทำ
ระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง ซึ่งจะสามารถนำเงินนอกงบที่เหลือเข้ามาแสดงไว้ในรายงานได้ สำหรับกรณีที่ตัวเลขของ
เงินรายจ่ายชดใช้ในรายงานไม่ตรงกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๗ นั้น เนื่องจากมียอดในเรื่องของ
เหรียญกษาปณ์ชำรุดจำนวนหนึ่ง ทำให้ยอดเงินไม่ตรงกัน นอกจากนี้เรื่องของปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายการเงินการ
คลังภาครัฐที่ใช้การเบิกจ่ายทางอิเล็กทรอนิกส์ นายวราเทพยืนยันว่า จะยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายแต่อย่างใด
แต่จะมีการแก้ไขหรือไม่นั้นต้องมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับรายได้จากการ
เก็บภาษีทางตรงที่สูงขึ้นกว่า ๖ หมื่นล้านบาทนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นจากบุคคลธรรมดา เพียงไม่ถึง ๑% ของรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด
ซึ่งการจัดเก็บภาษีที่เพิ่มมากขึ้นนั้นก็เนื่องมาจากการที่เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น และมีการเปิดให้
นิติบุคคลเข้าสู่ระบบภาษีได้มากขึ้น โดยในส่วนภาระหนี้ของประเทศนั้นรัฐบาลพยายามทำให้ภาระ
เงินกู้และเงินขาดทุนสะสมลดลง โดยจะเห็นได้จากงบประมาณในปี ๒๕๔๘ ที่ไม่มีการกู้ เพราะต้องการจัดทำงบประมาณ
แบบสมดุล และในอนาคตก็จะไม่มีภาระเงินกู้ ส่วนเรื่องการค้ำประกันเงินกู้ของ
รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจะต้องชำระเงินต้นกว่า ๙ หมื่นล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจในด้านสาธารณูปโภคที่มีการขาดทุนสะสม
เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การรับส่งพัสดุ และใน รัฐวิสาหกิจที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน
เช่น การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นต้น ทั้งนี้สำหรับ
ข้อเสนอแนะต่าง ๆ นั้น ทางรัฐบาลจะนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
๓. รับทราบรายงานการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๔๒
๔. รับทราบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่าง
ประเทศ พ.ศ. …. โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อภิปรายถึงการจัดตั้งสำนักงานดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลต้องการมุ่งเน้น
นโยบายความช่วยเหลือระหว่างประเทศให้สัมฤทธิ์ผล เพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมและความร่วมมืออื่น ๆ ตลอดจน
ส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และประเทศชาติมีรายได้เพิ่ม มากขึ้น และให้ข้อสังเกตถึงบทบาท
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานที่มีความซ้ำซ้อนกับกองทุนให้ความช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ในส่วนของฐานะและภารกิจในการให้ความช่วยเหลือกับต่างประเทศให้เกิดประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึง
ประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสวงหาผลประโยชน์นั้นยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร
ต่อมานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายชี้แจงว่า การจัดตั้งสำนักงานความ
ร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศนั้น เป็นการโอนย้ายกรมวิเทศสหการ สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี
ไปสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรองรับภารกิจใหม่ ๆ ของรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนราชการที่ไม่ได้มีฐานะเป็นกรม
และมีหัวหน้าเป็นอธิบดี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่แตกต่างจากกองทุน ให้ความช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน
โดยสำนักงานนี้จะมีภารกิจในการให้ความช่วยเหลือด้านทุน เทคนิค วิชาการ การวิจัย การฝึกอบรม และการพัฒนา มากกว่าการให้กู้เงิน ซึ่ง
อาจจะให้ความช่วยเหลือโดยตรงหรือร่วมมือกับต่างประเทศไปช่วยเหลือประเทศที่ ๓ อาทิ ความร่วมมือกับองค์การ
อนามัยโลกเพื่อการช่วยเหลือทางการแพทย์ในอัฟกานิสถาน โดยองค์การอนามัยโลกจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุน
ส่วนประเทศไทยจะให้ความช่วยเหลือด้านกำลังคน นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับหลาย ๆ ประเทศ ในการให้ความช่วยเหลือ
และฟื้นฟูในอินโดนีเซียอีกด้วย ทั้งนี้สำนักงาน ดังกล่าวจะไม่โตขึ้นกว่านี้ เพราะมีการจำกัดด้านของอัตรากำลัง
พักการประชุมเวลา ๑๒.๐๕ นาฬิกา
ต่อจากนั้นในเวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ได้มีการพิจารณากระทู้ต่าง ๆ คือ
กระทู้ถามสด จำนวน ๓ เรื่อง
๑. กระทู้ถามสดของนายปรีชา มุสิกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาจากการระบาดของโรคไข้หวัดนก ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี
(นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ได้ตอบกระทู้ว่า การเกิดไข้หวัดนกรอบที่สองนี้ จากผลของกลุ่มนักวิชาการหลาย ๆ
กลุ่มทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข นักวิชาการในประเทศและต่างประเทศได้ข้อสรุปว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า
ไข้หวัดนกในรอบสองนี้เกิดขึ้นจากอะไร อาจติดเชื้อจากนกที่อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ หรืออาจเป็นเชื้อตกค้าง
ในรอบแรกที่ผ่านมา นักวิชาการจึงได้แจ้ง ให้ทราบว่า จะต้องศึกษาโอกาสของความเป็นไปได้
การศึกษาสาเหตุโดยต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถวินิจฉัยชี้ชัดได้ว่า เชื้อได้มาจากที่ไหน
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดกำแพงเพชร ได้เริ่มมีการติดต่อคนสู่คนนั้น จากการแถลงข่าวโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ที่ผ่านมาว่า ในส่วนของเด็กที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังไม่มี ผลพิสูจน์เป็นทางการที่ชัดเจนว่า เป็นไข้หวัดนกหรือไม่
ดังนั้นจึงไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเชื้อนี้ติดจากคน สู่คนหรือไม่ แต่อาจจะเป็นไปได้ ส่วนทางด้านเตรียมการป้องกันนั้น แม้ว่าจะพิสูจน์ไม่ได้ชัดเจน
ในขณะนี้ว่า ไข้หวัดนกจะระบาดได้จากทางไก่สู่คนหรือคนสู่คน และเชื้อดังกล่าวนี้มาจากที่ไหนใน
รอบสองนี้ ได้มีการป้องกันในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยมีการเตรียมบุคลากรด้านอาสาสมัครสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องสาธารณสุขโดยส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ รวมทั้งสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการเลี้ยงไก่
รวมทั้งมีการดูแลตัวเอง ดูแลไก่ เพื่อไม่ให้ติดเชื้อด้วย และรัฐบาลจะดำเนินการหาข้อสรุปในการป้องกัน รวมทั้งมาตรการ
ในการเลี้ยงสัตว์ปีกอย่างชัดเจนด้วย โดยกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาวางมาตรการให้กระชับยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มบุคลากรในการดูแลอย่างเต็มที่
๒. กระทู้ถามสดของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การให้เอกชนร่วมลงทุนและบริหารท่าเรือแหลมฉบัง
ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ได้ตอบกระทู้ว่า นโยบายของการ
ท่าเรือแหลมฉบังให้เอกชนเข้ามาบริหารนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีต แต่ปรากฏว่า การบริหารโดยรัฐวิสาหกิจไม่มีประสิทธิภาพ
ประกอบกับเมื่อมีการย้ายจากท่าเรือกรุงเทพไปแหลมฉบัง จึงได้มีการนำบริษัทเอกชนมาร่วมลงทุนบริหาร
เพื่อจะได้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ซึ่งจากอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้รับสัมปทาน ๑๐ ราย มีต่างประเทศ
เข้ามาร่วมลงทุนด้วย โดยกำหนดเงื่อนไข TOR ว่า ผู้ประกอบการที่จะมาดำเนินการนั้น
ต้องมีสัดส่วนคนไทยหรือนิติบุคคลไทย ๕๑% ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลได้กระทำอยู่ขณะนี้ เพื่อต้องการให้ท่าเรือมีผู้บริหารที่ทันสมัย
เข้ามาบริหารจัดการเพื่อต้นทุนต่ำ ต้องการนำกำไรจากบริษัทเอกชน นำมาจ่ายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย
ในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเงื่อนไขของ รัฐบาลที่ต้องการคุ้มต้นทุนที่ได้ลงทุนไปโดยไม่หวังผลกำไร
เนื่องจากคนไทยไม่มีประสบการณ์ในการเดินเรือ ดังนั้นการหาบริษัทที่มีประสบการณ์มาบริหารเพื่อจะได้ต้นทุนต่ำ
ในเรื่องดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีมาก
กระทู้ถามทั่วไป จำนวน ๘ เรื่อง
๑. กระทู้ถามของนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง นโยบายทรัพยากรน้ำ ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ได้ตอบกระทู้ว่า หน่วยงานที่
เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำอยู่กระจัดกระจายกัน ดังนั้นจะทำอย่างไรจึงสามารถรวมหน่วยงานไว้ที่เดียวกัน เพื่อความเป็นเอกภาพ
เป็นระบบ เพราะในเรื่องดังกล่าวเป็นหัวใจที่สำคัญ แต่การรวมหน่วยงานเข้ามาอยู่ด้วยกันนั้น มีปัญหาและอุปสรรคมาก
เพราะต้องกระจายอำนาจ ถ่ายโอนอำนาจให้กับท้องถิ่น เป็นผู้รับผิดชอบ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่
ในการดูแลน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ส่วนเรื่องเครื่องมือน้ำบาดาลนั้น ในเรื่องดังกล่าวนี้ขณะนี้อยู่ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้กระจายไปที่ศูนย์ภูมิภาคต่าง ๆ และงบประมาณที่ดำเนินการ
ในเรื่องนี้ได้ถูกถ่ายโอนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ
การแก้ไขปัญหาบ่อน้ำบาดาล ซึ่งได้ดำเนินการขุดเจาะไปแล้ว และมีปัญหาอุดตัน ระบบน้ำประปาในหมู่บ้านใช้ไม่ได้นั้น
ในเรื่องดังกล่าวนี้ได้มีการดูแลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด สำหรับเรื่องการเจาะบ่อใหม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องถ่ายโอน
ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งจ้างเอกชน หรือใช้บริการของกรมทรัพยากร
น้ำบาดาล โดยจัดงบประมาณมาให้ดำเนินการ ซึ่งในส่วนนี้มติคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมไปดำเนินการทำโครงการน้ำบาดาลเพื่อประชาชน โดยให้ประชาชนทั่วไปขอใช้บริการได้จากองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานอื่นสามารถมาขอใช้บริการโดยการจ้างได้
ส่วนน้ำประปานั้น องค์กรบางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีขีดความสามารถในการที่จะดำเนินการได้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา
กรมทรัพยากรน้ำได้รับงบประมาณเพื่อนำไปดำเนินการจัดทำ โครงการประปาหมู่บ้าน และได้ดำเนินการไป
หลายหมู่บ้านแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนได้มีน้ำใช้ได้อย่างทั่วถึง
๒. กระทู้ถามของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรค
ไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การใช้พื้นที่ฝึกของศูนย์ฝึกทางยุทธวิถี กองทัพบก ถามนายกรัฐมนตรี
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก เชษฐา ฐานะจาโร) ได้ตอบกระทู้ว่า การใช้พื้นที่ของ
ศูนย์ฝึกของศูนย์ฝึกยุทธวิถี กองทัพบก นั้น เป็นนโยบายของกระทรวงกลาโหม เพราะพื้นที่การฝึกเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ
และการที่ทหารจะปฏิบัติภารกิจตามรัฐธรรมนูญได้ ทหารต้องมีความเข้มแข็ง ต้องมีการฝึก
ที่ดี มีพื้นที่ฝึกที่ดี และสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นพื้นที่ในการฝึกต้องมีพื้นที่ด้านกว้าง ๓๐ กิโลเมตร ลึก ๓๐กิโลเมตร
หรือประมาณ ๕ แสน ๖ หมื่นไร่ และต้องเป็นพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่มีบ้าน สถานที่ราชการ
อยู่ในบริเวณนี้โดยเด็ดขาด รวมทั้งต้องมีภูเขาที่จะรับตำบลกระสุนตกได้ด้วย ดังนั้นในพื้นที่จังหวัดลพบุรีนั้น
จึงขอใช้พื้นที่จริงประมาณ ๓๑๕,๐๐๐ ไร่ อย่างไรก็ตามได้ทำเรื่องไปยังกรมป่าไม้ จังหวัดลพบุรี เพื่อขอใช้พื้นที่
จำนวนดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบและในการปฏิบัติจะไม่ให้มีผลกระทบแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นโดยเด็ดขาด
๓. กระทู้ถามของนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การนำสถาบันพระพุทธศาสนาเข้าแก้ปัญหายาเสพติดที่ระบาดใน
กลุ่มเยาวชนของชาติทั่วประเทศ ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)
ได้ตอบกระทู้ว่า การใช้สถาบันพระพุทธศาสนาเข้าแก้ปัญหายาเสพติดนั้น เป็นที่สนใจของมหาเถรสมาคมมาก
ได้สั่งให้คณะสงฆ์ดำเนินการทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
โดยใช้วิธีการเทศนาในเรื่องศีล ๕ ให้ประชาชนเข้าใจประพฤติปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมทั้ง
ใช้วัดเป็นสถานที่ให้การช่วยเหลือ เช่น ทำป้ายอธิบายปัญหายาเสพติด คำคมต่าง ๆ ตลอดจนใช้วัดเป็นสถานฟื้นฟู
บำบัดยาเสพติดด้วย และมหาเถรสมาคมได้ตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาเพื่อประสานงานกับวัดต่าง ๆ
เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ตลอดจนการค้นหาในหมู่บ้านต่าง ๆ ว่า มีผู้ผลิต ผู้ค้าหรือไม่ มีผู้เสพ ผู้ติด หรือไม่
โดยพระต่าง ๆ จะได้รับการอบรมเป็นวิทยากรระดับอำเภอและระดับตำบล จากกระทรวงมหาดไทย ณ ศูนย์พัฒนาคุณธรรม
ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เป็นศูนย์ประสานงานหรือให้การช่วยเหลือต่อพระวิทยากรที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ติดยาเสพติดต่อไป
๔. กระทู้ถามของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง เด็กนักเรียนทะเลาะวิวาทและตีกัน ถามนายกรัฐมนตรี
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอดิศัย โพธารามิก) ได้ตอบกระทู้ว่า ในเรื่องดังกล่าวนี้
รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดูแลมาอย่างต่อเนื่อง การดูแลเด็กเหล่านี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทกัน
ในทางนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมกับกองทัพบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลในเรื่องนี้
และกองทัพบกได้จัดโครงการฝึกหัดให้เด็กอาชีวะและเด็กในสถาบันการศึกษาบางส่วน ที่มีแนวโน้มว่า
จะทะเลาะวิวาทกันประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมของกองทัพบก เพื่ออบรมและสร้างความรู้ความเข้าใจ
ไม่ให้มีการใช้พฤติกรรมรุนแรงระหว่างสถาบันกันขึ้น
ส่วนหน่วยงานสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนได้ดูแลอย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้กระทรวงหลักดูแลในด้านการประสานงาน
กับโรงเรียนในการดูแลอบรมเด็กเยาวชนในสถานศึกษา รวมทั้งกรมอาชีวศึกษาได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่
ดูแลในส่วนนี้ด้วย ส่วนการอบรมของเจ้าหน้าที่นั้นได้ แต่งตั้งโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงมหาดไทย และกระทรวง ศึกษาธิการ ได้ร่วมกันแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนด้วย
ให้ดูแลในเรื่องดังกล่าวนี้อย่างใกล้ชิด
๕. กระทู้ถามของนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ถาม
นายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ) ได้ตอบกระทู้ว่า มาตรการในการดูแล
ป้องกันและปราบปรามการหายของรถยนต์และรถจักรยานยนต์นั้น ได้ดูแลโดยสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ ได้มีการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงการป้องกันการหาย
ของรถ และให้เจ้าของรถระมัดระวัง ในส่วนของการหายไปแล้วนั้น กระทรวงที่เกี่ยวข้องในการดูแลเรื่องดังกล่าว
เช่น ดูแลจุดตรวจ จุดสกัด จะดูแลเพื่อไม่ให้สามารถนำรถออกนอกตัวเมืองได้
สำหรับองค์กรที่จะช่วยป้องกันในการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในส่วนของภาคเอกชน จะป้องกันโดยสื่อมวลชน
สื่อวิทยุ จราจรสาร จ.ส.๑๐๐ ร่วมด้วยช่วยกัน จะร่วมเผยแพร่ข่าว ถ้ามีเหตุโจรกรรมรถเกิดขึ้น ในส่วนสำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติได้มีศูนย์วิทยุเช่นกัน เรียกว่าศูนย์วิทยุทิวา ๒๔ ชั่วโมง จะเป็นศูนย์ดูแลรถหายโดยเฉพาะและได้ดูแลมาอย่างต่อเนื่อง
๖. กระทู้ถามของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง มาตรการในการคุ้มครองความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
ข้าราชการ และลูกจ้างของรัฐ ถามนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากผู้ตั้งกระทู้ถามไม่ติดใจที่จะถาม ดังนั้นกระทู้ถาม
ดังกล่าวจึงตกไปตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๓๕
๗. กระทู้ถามของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ
พรรคชาติพัฒนา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการดำเนินการของคุรุสภา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
แต่เนื่องจากผู้ตั้งกระทู้ถามไม่ติดใจที่จะถาม ดังนั้นกระทู้ถามดังกล่าวจึงตกไปตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๓๕
๘. กระทู้ถามของนายประกอบ รัตนพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการรับสัญญาณถ่ายทอดของสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง ๑๑
กรมประชาสัมพันธ์ ในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถาม นายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทู้ถามฉบับนี้
รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบ
กระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป ตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๓๓
ปิดประชุมเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา