นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงตรวจงานในพื้นที่เขตดินแดน ว่า การตรวจงานดังกล่าวเป็นไปตามคำเรียกร้องของสมาชิกพรรคไทยรักไทยเพื่อที่จะเพิ่มกระแสให้กับพรรค ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากการที่นายกรัฐมนตรีให้ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ที่เปิดตัวลงสมัครในนามพรรคไทยรักไทย เป็นโฆษกในการตรวจงาน และ พบประชาชนในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีส.ส.พรรคไทยรักไทยจำนวนมากร่วมลงพื้นที่ดังกล่าว สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการให้ความหวัง โดยสัญญากับพี่น้องประชาชนในเขตดินแดงว่า จะดำเนินการก่อสร้างแฟลตดินแดงขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการเอาใจพี่น้องประชาชน ‘อยากจะฝากให้กกต. ตรวจสอบในเรื่องนี้ อย่างกรณีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็เหมือนกัน กกต.ต้องไปตรวจสอบตั้งแต่วันนี้จนถึงการเลือกตั้ง ว่าเป็นการเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ ’ นายสาธิต กล่าว
รองโฆษก พรรคปชป. กล่าวต่ออีกว่า อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี หยุดการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปหาเสียงให้กับลูกพรรค ซึ่งนายกฯได้ประกาศที่จะทำสงครามกับการทุจริตคอร์รัปชั่นไปเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้บุคคลที่เป็นผู้นำประเทศควรจะมีวุฒิภาวะ ควรแยกให้ออกว่างานส่วนใดเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และส่วนใดเป็นการทำงานในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง
‘ท่านนายกฯ ควรดูแบบอย่างท่านนายกฯชวน หลีกภัย ที่ได้เคยทำไว้สมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ในส่วนที่เป็นเรื่องไปตรวจราชการจะมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน ใช้งบราชการกระทำทุกอย่างในฐานะผู้บริหารประเทศ แต่ถ้าเป็นการไปหาเสียงในฐานะหัวหน้าพรรคก็จะใช้งบตัวเองและงบพรรคการเมือง โดยทำทุกอย่างแยกออกจากกันเด็ดขาด’ รองโฆษก พรรคปชป. กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า การลงพื้นที่ของ นายกฯในครั้งนี้ได้พูดถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติด ซึ่งนายกฯได้รับสารภาพออกมาว่า เรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้น ผู้บริหาร หรือ นายกฯเป็นคนส่งสัญญาณในการที่จะกระทำกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย โดยการดำเนินการดังกล่าวทำให้ประชาชนเสียชีวิต 2,500 ราย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
รองโฆษก พรรคปชป. กล่าวต่ออีกว่า อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี หยุดการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปหาเสียงให้กับลูกพรรค ซึ่งนายกฯได้ประกาศที่จะทำสงครามกับการทุจริตคอร์รัปชั่นไปเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้บุคคลที่เป็นผู้นำประเทศควรจะมีวุฒิภาวะ ควรแยกให้ออกว่างานส่วนใดเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และส่วนใดเป็นการทำงานในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง
‘ท่านนายกฯ ควรดูแบบอย่างท่านนายกฯชวน หลีกภัย ที่ได้เคยทำไว้สมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ในส่วนที่เป็นเรื่องไปตรวจราชการจะมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน ใช้งบราชการกระทำทุกอย่างในฐานะผู้บริหารประเทศ แต่ถ้าเป็นการไปหาเสียงในฐานะหัวหน้าพรรคก็จะใช้งบตัวเองและงบพรรคการเมือง โดยทำทุกอย่างแยกออกจากกันเด็ดขาด’ รองโฆษก พรรคปชป. กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า การลงพื้นที่ของ นายกฯในครั้งนี้ได้พูดถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติด ซึ่งนายกฯได้รับสารภาพออกมาว่า เรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้น ผู้บริหาร หรือ นายกฯเป็นคนส่งสัญญาณในการที่จะกระทำกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย โดยการดำเนินการดังกล่าวทำให้ประชาชนเสียชีวิต 2,500 ราย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-