วันนี้ (14 ก.ย.47) ที่อาคารรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่รัฐบาลนำอำนาจหน้าที่ไปใช้ในการหาเสียง โดยเห็นได้ชัดจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ หน่วยการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการการไถ่บาป เพราะการดำเนินการที่ผ่านมาของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางที่ลบมาโดยตลอด อาทิ กรณีปลดข้าราชการ 5 % นั้นถือเป็นความผิดพลาดอย่างมากของรัฐบาล จนในที่สุดต้องมีการชะลอนโยบายออกไปอีก 2- 3 ปี
‘รัฐบาลไม่เคยมีนโยบายที่จะหนุนการปกครองท้องถิ่น หรือการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง รวมไปถึงการจัดงบประมาณ ซึ่งในปี 2549 กฎหมายระบุชัดเจนว่า จะต้องจัดงบประมาณให้กับท้องถิ่นไม่น้อยไปกว่า 35% ของรายได้ แต่มาปีนี้งบประมาณ ปี 2548 เพิ่งจัดให้ได้ 23. 5% อีกทั้งรัฐบาลได้สั่งยุบตำแหน่งสารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา’ นายจุรินทร์
ปธ.วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ผลของการปรับขึ้นเงินเดือนในครั้งนี้จะมีความชัดเจนหลังการเลือกตั้งไปอีก 2 ปี คือในปี 2549 ซึ่งรัฐบาลพยายามประกาศนโยบายเพื่อแลกกับคะแนนเสียงของข้าราชการและหน่วยงานที่จะขึ้นเงินเดือน ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการเข้าไปดูกลุ่มคนเหล่านี้ และสะท้อนความคิดของรัฐบาลชุดนี้ว่าทุกอย่างสามารถซื้อได้ด้วยเงิน ‘ทำไมรัฐบาลต้องประกาศขึ้นเงินเดือนหลังการเลือกตั้ง และประกาศในช่วงที่ใกล้จะถึงการเลือกตั้ง ทั้งนี้การประกาศในเรื่องดังกล่าวเป็นการทำเพื่อแลกกับคะแนนเสียง หรือเป็นการตกเขียวคะแนนเสียงในทางการเมืองให้กับพรรคไทยรักไทย และขณะเดียวกันการประกาศล่วงหน้าเป็นการซ้ำเติมคนเหล่านี้ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป เพราะเมื่อประกาศขึ้นเงินเดือน ราคาสินค้าก็จะขึ้นไปรอทุกครั้ง ซึ่งในที่สุดก็จะเป็นการซ้ำเติมทุกฝ่าย’ ปธ.วิปฝ่ายค้านกล่าว
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวต่ออีกว่า วิปฝ่ายค้านยังตรวจพบพฤติกรรมการใช้อำนาจรัฐในการหาเสียงอีก หลายเรื่องเช่น การใช้ที่ประชุมราชการหาเสียงให้กับพรรคการเมือง โดยเฉพาะในส่วนของท่านนายกรัฐมนตรี เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้ไปหาเสียงในที่ประชุมของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ท่านนายกรัฐมนตรีไม่สามารถแยกการบริหาราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรี กับพฤติกรรมในหัวหน้าพรรคการเมืองออกจากกันได้โดยชัดเจน อีกทั้งในส่วนของการนำเอางบประมาณซึ่งรวมส่วนของผู้ว่าซีอีโอจังหวัดละ 10 ล้านบาท ไปใช้ในการหาเสียงให้กับส.ส. และผู้สมัครส.ส.ของพรรครัฐบาลบางพรรค ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
‘รัฐบาลไม่เคยมีนโยบายที่จะหนุนการปกครองท้องถิ่น หรือการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง รวมไปถึงการจัดงบประมาณ ซึ่งในปี 2549 กฎหมายระบุชัดเจนว่า จะต้องจัดงบประมาณให้กับท้องถิ่นไม่น้อยไปกว่า 35% ของรายได้ แต่มาปีนี้งบประมาณ ปี 2548 เพิ่งจัดให้ได้ 23. 5% อีกทั้งรัฐบาลได้สั่งยุบตำแหน่งสารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา’ นายจุรินทร์
ปธ.วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ผลของการปรับขึ้นเงินเดือนในครั้งนี้จะมีความชัดเจนหลังการเลือกตั้งไปอีก 2 ปี คือในปี 2549 ซึ่งรัฐบาลพยายามประกาศนโยบายเพื่อแลกกับคะแนนเสียงของข้าราชการและหน่วยงานที่จะขึ้นเงินเดือน ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการเข้าไปดูกลุ่มคนเหล่านี้ และสะท้อนความคิดของรัฐบาลชุดนี้ว่าทุกอย่างสามารถซื้อได้ด้วยเงิน ‘ทำไมรัฐบาลต้องประกาศขึ้นเงินเดือนหลังการเลือกตั้ง และประกาศในช่วงที่ใกล้จะถึงการเลือกตั้ง ทั้งนี้การประกาศในเรื่องดังกล่าวเป็นการทำเพื่อแลกกับคะแนนเสียง หรือเป็นการตกเขียวคะแนนเสียงในทางการเมืองให้กับพรรคไทยรักไทย และขณะเดียวกันการประกาศล่วงหน้าเป็นการซ้ำเติมคนเหล่านี้ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป เพราะเมื่อประกาศขึ้นเงินเดือน ราคาสินค้าก็จะขึ้นไปรอทุกครั้ง ซึ่งในที่สุดก็จะเป็นการซ้ำเติมทุกฝ่าย’ ปธ.วิปฝ่ายค้านกล่าว
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวต่ออีกว่า วิปฝ่ายค้านยังตรวจพบพฤติกรรมการใช้อำนาจรัฐในการหาเสียงอีก หลายเรื่องเช่น การใช้ที่ประชุมราชการหาเสียงให้กับพรรคการเมือง โดยเฉพาะในส่วนของท่านนายกรัฐมนตรี เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้ไปหาเสียงในที่ประชุมของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ท่านนายกรัฐมนตรีไม่สามารถแยกการบริหาราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรี กับพฤติกรรมในหัวหน้าพรรคการเมืองออกจากกันได้โดยชัดเจน อีกทั้งในส่วนของการนำเอางบประมาณซึ่งรวมส่วนของผู้ว่าซีอีโอจังหวัดละ 10 ล้านบาท ไปใช้ในการหาเสียงให้กับส.ส. และผู้สมัครส.ส.ของพรรครัฐบาลบางพรรค ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-