นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่กำลังรุมเร้ารัฐบาลอยู่ในขณะนี้ และคณะรัฐมนตรีชุดนี้น่าจะเรียกได้ว่า คณะรัฐมนตรี ชุดแกงโฮะ ทั้งนี้ตนได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวไว้ 3 ข้อ คือ
1.รัฐบางยอมรับความจริงถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเห็นได้ชัดจากการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆออกจากตำแหน่ง เช่น ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานการณ์ไข้หวัดนก ทั้งนี้การปรับรัฐมนตรีที่เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถที่จะสร้างความมั่นใจได้ ทั้งนายวันมูหะมัดนอร์มะทา ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทั้ง 2 ท่านไม่มีความโดดเด่นในเรื่องที่จะมารับผิดชอบ
2. เป็นการปรับเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นของรัฐมนตรี โดยที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เตือนรัฐมนตรีบางคนว่า นับจากนี้ไปไม่ให้เอาชื่อภรรยา ชื่อน้องสาว หรือคนในครอบครัวของตนไปอ้างเพื่อหาเงินเข้าพรรค ซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ว่า รัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีอ้างถึงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาถูกปรับด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงนายกรัฐมนตรีไม่ควรปรับแค่คณะรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ต้องลงโทษบุคคลเหล่านั้นตามกฎหมายบ้านเมือง หรือ ปรับออกจากคณะรัฐมนตรีชุดนี้
3. การปรับคณะรัฐมนตรี เป็นการเอื้อประโยชน์เชิงอำนาจ และเชิงปัจจัย เพื่อจะนำทั้ง 2 สิ่งที่มาสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่กำลังจะมีขึ้นอยู่ในขณะนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
1.รัฐบางยอมรับความจริงถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเห็นได้ชัดจากการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆออกจากตำแหน่ง เช่น ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานการณ์ไข้หวัดนก ทั้งนี้การปรับรัฐมนตรีที่เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถที่จะสร้างความมั่นใจได้ ทั้งนายวันมูหะมัดนอร์มะทา ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทั้ง 2 ท่านไม่มีความโดดเด่นในเรื่องที่จะมารับผิดชอบ
2. เป็นการปรับเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นของรัฐมนตรี โดยที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เตือนรัฐมนตรีบางคนว่า นับจากนี้ไปไม่ให้เอาชื่อภรรยา ชื่อน้องสาว หรือคนในครอบครัวของตนไปอ้างเพื่อหาเงินเข้าพรรค ซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ว่า รัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีอ้างถึงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาถูกปรับด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงนายกรัฐมนตรีไม่ควรปรับแค่คณะรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ต้องลงโทษบุคคลเหล่านั้นตามกฎหมายบ้านเมือง หรือ ปรับออกจากคณะรัฐมนตรีชุดนี้
3. การปรับคณะรัฐมนตรี เป็นการเอื้อประโยชน์เชิงอำนาจ และเชิงปัจจัย เพื่อจะนำทั้ง 2 สิ่งที่มาสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่กำลังจะมีขึ้นอยู่ในขณะนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-