ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.อนุญาตให้ ธพ.ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง เช่าซื้อ และให้เช่าแบบลีสซิ่ง ผู้สื่อข่าว
รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า สายนโยบายสถาบันการเงิน ได้ออกประกาศอนุญาตให้ ธพ.
ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง โดยอาศัยอำนาจตาม ม.9 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 และที่
แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อที่จะสนับสนุนให้ ธพ.สามารถประกอบธุรกิจได้กว้างขวางขึ้นตามแนวทางของแผนพัฒนาระบบ
สถาบันการเงิน และเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการเสริมสภาพคล่องสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีเงิน
ทุนหมุนเวียน นอกจากนี้ ธปท.ได้ออกประกาศอนุญาตให้ ธพ.ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลิสซิ่ง เพื่อ
ให้ ธพ.สามารถให้บริการทางการเงินได้มากขึ้น โดยเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อทรัพย์สินแต่ไม่มี
เงินทุนเพียงพอหรือเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
30 ก.ย.47 เป็นต้นไป (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
2. ธปท.พิจารณาคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ประธานคณะกรรมการ ธ.กรุงไทยได้ทำหนังสือขอความเห็นจาก ธปท.
ในการพิจารณาคุณสมบัติของนายวิโรจน์ นวลแข ว่ามีความเหมาะสมที่จะกลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้
จัดการ ธ.กรุงไทยตามที่คณะกรรมการคัดสรรคัดเลือกหรือไม่ โดยได้ลงนามในหนังสือส่งความคิดเห็นกลับไปที่
ประธานกรรมการธนาคารแล้วว่า จากการพิจารณา ธปท.มีความเห็นว่า นายวิโรจน์มีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมที่จะ
เป็นกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย โดยในหนังสือแสดงความคิดเห็นได้ชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน แต่ขณะนี้ไม่สามารถ
ชี้แจงกับสาธารณะได้ เพราะถือเป็นการพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 อนึ่ง คณะกรรมการ ธ.กรุงไทย ได้มีการประชุม
หลังจากได้รับหนังสือแสดงความคิดเห็นจาก ธปท. โดยนายศุภรัตน์ ควัฒนกุล ปลัด ก.คลัง เปิดเผยภายหลังการ
ประชุมว่า เมื่อคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติที่ ธปท.ส่งมาทำให้ไม่สามารถแต่งตั้งนายวิโรจน์เป็นผู้บริหาร
ธนาคารได้ เพราะขัดกับประกาศ ธปท. จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการสรรหาได้ ทำให้
กระบวนการสรรหาต้องสิ้นสุดลง โดยจะเริ่มทำการสรรหาใหม่อีกครั้ง (โลกวันนี้, โลกวันนี้, ไทยโพสต์)
3. กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีในปี งปม.47 สูงกว่าปีก่อน 23.03% อธิบดีกรมสรรพากร เปิด
เผยผลการจัดเก็บภาษีในปี งปม.47 ว่า กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้รวมทั้งสิ้น 772,236 ล.บาท สูงกว่าปี
ก่อน 114,554 ล.บาท หรือ 23.03% โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ 135,154.61 ล.บาท ภาษีเงิน
ได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ 261,890.26 ล.บาท ภาษีปิโตรเลียมจัดเก็บได้ 31,935.38 ล.บาท และภาษีธุรกิจ
เฉพาะจัดเก็บได้ 20,024.31 ล.บาท สูงกว่าปีก่อน 15.21%, 25.39%, 46.68% และ 56.97% ตามลำดับ
สำหรับผลการจัดเก็บภาษีในเดือน ก.ย.47 มีจำนวนทั้งสิ้น 51,914.04 ล.บาท ลดลงจากปีก่อน 8,758.89
ล.บาท หรือ 14.44% โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้สูงกว่าปีก่อน 13.18% และ
110.71% ตามลำดับ ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ลดลงจากปีก่อน 58.97% (โลกวันนี้, โพสต์ทูเดย์, ไทยโพสต์)
4. ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศมีโอกาสปรับขึ้นหากราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาด
สิงคโปร์ยังคงเพิ่มขึ้น รายงานข่าวจาก ก.พลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูง
ขึ้น ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องกลับมาชดเชยราคาน้ำมันเบนซินอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.47 หลังจากที่
เริ่มเก็บเงินคืนกองทุนได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. - 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์
ยังปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันอีกจนถึงต้นสัปดาห์หน้า โอกาสที่ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินจะขยับราคาอีกครั้งก็มีค่อนข้าง
สูง ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะไม่เข้าชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน โดยจะปล่อยให้สะท้อนราคาตลาดโลกมากที่สุด
ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะยังคงผันผวนอยู่ในระดับสูงต่อไป จากความกังวลเกี่ยวกับเหตุ
รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในประเทศอิรักและไนจีเรีย (โพสต์ทูเดย์, ข่าวสด)
5. ผลการจองซื้อหุ้นบริษัทไทยออยล์สูงเกิน 3 เท่าของยอดหุ้นที่เสนอขาย รองกรรมการอำนวย
การด้านธุรกิจและทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเปิดให้
ประชาชนจองซื้อหุ้นผ่าน ธพ. 2 แห่ง คือ ธ.กสิกรไทย และ ธ.ทหารไทย ในส่วนที่จัดสรรให้กับนักลงทุนราย
ย่อยจำนวน 60 ล้านหุ้น ปรากฎว่า มียอดจองซื้อรวมกันมากกว่า 3 เท่าของยอดหุ้นที่เสนอขาย หรือจำนวนหุ้น
รวมกันประมาณ 952 ล้านหุ้นหรือประมาณ 15.87 เท่า โดยการจองซื้อหุ้นผ่าน ธ.กสิกรไทย มียอดใบจอง
62,618 ใบ หรือ 697 ล้านหุ้น เป็นเงิน 22,305 ล.บาท สูงกว่ายอดจัดสรรกว่า 23 เท่า ขณะที่การจองซื้อ
หุ้นผ่าน ธ.ทหารไทย มีผู้สนใจจองซื้อทั้งสิ้น 255 ล้านหุ้น จากจำนวนลูกค้า 22,262 ราย คิดเป็นเงิน 8,100
ล.บาท ทั้งนี้คาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 23 ต.ค.นี้ในกลุ่มพลังงาน (โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.47 เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นเดือนที่ 5
รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ต.ค.47 ก.คลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตรา
ต่างประเทศของญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในเดือน ก.ย.47 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
แม้ว่าทางการจะไม่ได้เข้าแทรกแซงตลาดเงินมาตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. โดยเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยของ
สินทรัพย์ในรูปเงินตราสกุลต่างประเทศ และการที่ค่าเงินยูโรแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้ทุน
สำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือน ก.ย.47 อยู่ที่ระดับ 830.992 พันล้านดอลลาร์ สรอ. อนึ่ง
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศใหญ่ที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 42 อันดับ 2 ได้แก่ จีน ที่มีทุน
สำรองเงินตราต่างประเทศ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.47 มูลค่า 476.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และไต้หวันเป็นอันดับ
3 มูลค่า 230.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์)
2. การส่งออกของไต้หวันไป สรอ.ในเดือนก.ย. ชะลอลงแต่การค้าโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง
รายงานจากไทเป เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 47 รัฐบาลไต้หวันเปิดเผยว่าในเดือนก.ย. 47 มูลค่าการส่งออกของ
ไต้หวันสูงถึง 14.96 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. สอดคล้องกับผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
14.86 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.2 และเป็นสถิติสูงสุดเป็นครั้งที่
2 หลังจากที่เคยทำสถิติสูงสุด 15.69 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในเดือนพ.ค. แม้ว่าการส่งออกไปสรอ. จะชะลอ
ตัวแต่อุปสงค์จากจีนยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกจะลดลงอีกในเดือนหน้า เนื่องจากการสูงขึ้น
ของราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในตลาดโลกและทำให้อุปสงค์ในสินค้าไต้หวันลดลงไป
ด้วย นักเศรษฐศาสตร์จาก Masterlink Securities ในไทเปเห็นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวัน
จะชะลอลงจนถึงสิ้นปีนี้และจะต่อเนื่องถึงปีหน้าจากอุปสงค์ที่ลดลงของสรอ. อย่างไรก็ตามการขยายตัวของการส่ง
ออกได้ค่อยๆชะลอตัวลงโดยลำดับจนถึงปัจจุบันเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 47 ที่อัตราการขยายตัว
การส่งออกเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นสูงสุดจากปีก่อนหน้าซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่เมื่อช่วงต้นปี 46 มีการระบาดของ
โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค อย่างไรก็ตามรัฐบาลไต้หวัน
ยังคงคาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5.9 แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการส่ง
ออกในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะชะลอลงถึงร้อยละ 15 — 20 ก็ตาม(รอยเตอร์)
3. ผลสำรวจดัชนีธุรกิจภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เดือน ต.ค.47 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย รายงาน
จากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.47 ธ.กลางของเกาหลีใต้ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีธุรกิจภาค
อุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เดือน ต.ค.47 ว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 76 จากระดับ 75 ในเดือน ก.
ย.47 และระดับ 69 ในเดือน ส.ค.47 เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายอย่าง เช่น การบริโภคภายในประเทศที่ยัง
ไม่ฟื้นตัว และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขการสำรวจนี้เปิดเผยภายหลังจากที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจ
ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังชะลอตัว
อยู่ รวมทั้งแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ตัวเลขที่ระดับต่ำกว่า 100 หมายความว่า
จำนวนบริษัทที่เห็นว่าสภาวะทางธุรกิจไม่ดีในเดือนที่สำรวจมีมากกว่าจำนวนบริษัทที่เห็นว่าปรับตัวดีขึ้น โดยครั้งสุด
ท้ายที่ดัชนีอยู่ที่ระดับเหนือกว่า 100 เมื่อไตรมาส 4 ปี 45 (รอยเตอร์)
4. ผลผลิตอุตสาหกรรมของมาเลเซียในเดือน ส.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 รายงานจากกัวลา
ลัมเปอร์ เมื่อ 7 ต.ค.47 รัฐบาลมาเลเซีย เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของมาเลเซียในเดือน ส.ค.47
เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 ใกล้เคียงกับผลสำรวจรอยเตอร์ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 แต่จากการที่ผล
ผลิตในภาคการผลิต (ซึ่งมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ส่วนของผลผลิตอุตสาหกรรม) ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง คือ อยู่
ที่ระดับร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบต่อปี เทียบกับเดือน ก.ค.47 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 อันเป็นสัญญาณที่แสดงว่า
การเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียได้เริ่มชะลอตัวลงแล้ว เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย รวมทั้งมีตัว
เลขบางตัวที่น่ากังวล เช่น การส่งออก นอกจากนี้ จากรายงานของสำนักงานสถิติมาเลเซียพบว่า
Industrial output ในส่วนที่เป็นตัวชี้วัดผลผลิตของเหมืองแร่และไฟฟ้าในเดือน ส.ค.47 ลดลงร้อยละ
3.2 (ตัวเลขก่อนปรับฤดูกาล) จากเดือนก่อนหน้า และหากใช้วิธี Action Economics ซึ่งมีการปรับปัจจัยทาง
ฤดูกาลแล้วปรากฏว่าตัวเลขดังกล่าวในเดือน ส.ค.ก็ลดลงจากเดือน ก.ค.47 เช่นกัน ทั้งนี้ มาเลเซียจะไม่มี
การเผยแพร่ตัวเลขเมื่อเทียบต่อเดือนที่มีการปรับปัจจัยตามฤดูกาลแล้ว (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8 ต.ค. 47 7 ต.ค. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.407 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.2288/41.5197 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.6250-1.6875 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 670.06/23.49 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,100/8,200 8,100/8,200 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 38.36 38.79 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 21.79*/14.59 21.79*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 24 ส.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.อนุญาตให้ ธพ.ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง เช่าซื้อ และให้เช่าแบบลีสซิ่ง ผู้สื่อข่าว
รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า สายนโยบายสถาบันการเงิน ได้ออกประกาศอนุญาตให้ ธพ.
ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง โดยอาศัยอำนาจตาม ม.9 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 และที่
แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อที่จะสนับสนุนให้ ธพ.สามารถประกอบธุรกิจได้กว้างขวางขึ้นตามแนวทางของแผนพัฒนาระบบ
สถาบันการเงิน และเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการเสริมสภาพคล่องสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีเงิน
ทุนหมุนเวียน นอกจากนี้ ธปท.ได้ออกประกาศอนุญาตให้ ธพ.ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลิสซิ่ง เพื่อ
ให้ ธพ.สามารถให้บริการทางการเงินได้มากขึ้น โดยเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อทรัพย์สินแต่ไม่มี
เงินทุนเพียงพอหรือเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
30 ก.ย.47 เป็นต้นไป (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
2. ธปท.พิจารณาคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ประธานคณะกรรมการ ธ.กรุงไทยได้ทำหนังสือขอความเห็นจาก ธปท.
ในการพิจารณาคุณสมบัติของนายวิโรจน์ นวลแข ว่ามีความเหมาะสมที่จะกลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้
จัดการ ธ.กรุงไทยตามที่คณะกรรมการคัดสรรคัดเลือกหรือไม่ โดยได้ลงนามในหนังสือส่งความคิดเห็นกลับไปที่
ประธานกรรมการธนาคารแล้วว่า จากการพิจารณา ธปท.มีความเห็นว่า นายวิโรจน์มีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมที่จะ
เป็นกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย โดยในหนังสือแสดงความคิดเห็นได้ชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน แต่ขณะนี้ไม่สามารถ
ชี้แจงกับสาธารณะได้ เพราะถือเป็นการพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 อนึ่ง คณะกรรมการ ธ.กรุงไทย ได้มีการประชุม
หลังจากได้รับหนังสือแสดงความคิดเห็นจาก ธปท. โดยนายศุภรัตน์ ควัฒนกุล ปลัด ก.คลัง เปิดเผยภายหลังการ
ประชุมว่า เมื่อคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติที่ ธปท.ส่งมาทำให้ไม่สามารถแต่งตั้งนายวิโรจน์เป็นผู้บริหาร
ธนาคารได้ เพราะขัดกับประกาศ ธปท. จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการสรรหาได้ ทำให้
กระบวนการสรรหาต้องสิ้นสุดลง โดยจะเริ่มทำการสรรหาใหม่อีกครั้ง (โลกวันนี้, โลกวันนี้, ไทยโพสต์)
3. กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีในปี งปม.47 สูงกว่าปีก่อน 23.03% อธิบดีกรมสรรพากร เปิด
เผยผลการจัดเก็บภาษีในปี งปม.47 ว่า กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้รวมทั้งสิ้น 772,236 ล.บาท สูงกว่าปี
ก่อน 114,554 ล.บาท หรือ 23.03% โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ 135,154.61 ล.บาท ภาษีเงิน
ได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ 261,890.26 ล.บาท ภาษีปิโตรเลียมจัดเก็บได้ 31,935.38 ล.บาท และภาษีธุรกิจ
เฉพาะจัดเก็บได้ 20,024.31 ล.บาท สูงกว่าปีก่อน 15.21%, 25.39%, 46.68% และ 56.97% ตามลำดับ
สำหรับผลการจัดเก็บภาษีในเดือน ก.ย.47 มีจำนวนทั้งสิ้น 51,914.04 ล.บาท ลดลงจากปีก่อน 8,758.89
ล.บาท หรือ 14.44% โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้สูงกว่าปีก่อน 13.18% และ
110.71% ตามลำดับ ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ลดลงจากปีก่อน 58.97% (โลกวันนี้, โพสต์ทูเดย์, ไทยโพสต์)
4. ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศมีโอกาสปรับขึ้นหากราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาด
สิงคโปร์ยังคงเพิ่มขึ้น รายงานข่าวจาก ก.พลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูง
ขึ้น ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องกลับมาชดเชยราคาน้ำมันเบนซินอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.47 หลังจากที่
เริ่มเก็บเงินคืนกองทุนได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. - 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์
ยังปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันอีกจนถึงต้นสัปดาห์หน้า โอกาสที่ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินจะขยับราคาอีกครั้งก็มีค่อนข้าง
สูง ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะไม่เข้าชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน โดยจะปล่อยให้สะท้อนราคาตลาดโลกมากที่สุด
ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะยังคงผันผวนอยู่ในระดับสูงต่อไป จากความกังวลเกี่ยวกับเหตุ
รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในประเทศอิรักและไนจีเรีย (โพสต์ทูเดย์, ข่าวสด)
5. ผลการจองซื้อหุ้นบริษัทไทยออยล์สูงเกิน 3 เท่าของยอดหุ้นที่เสนอขาย รองกรรมการอำนวย
การด้านธุรกิจและทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเปิดให้
ประชาชนจองซื้อหุ้นผ่าน ธพ. 2 แห่ง คือ ธ.กสิกรไทย และ ธ.ทหารไทย ในส่วนที่จัดสรรให้กับนักลงทุนราย
ย่อยจำนวน 60 ล้านหุ้น ปรากฎว่า มียอดจองซื้อรวมกันมากกว่า 3 เท่าของยอดหุ้นที่เสนอขาย หรือจำนวนหุ้น
รวมกันประมาณ 952 ล้านหุ้นหรือประมาณ 15.87 เท่า โดยการจองซื้อหุ้นผ่าน ธ.กสิกรไทย มียอดใบจอง
62,618 ใบ หรือ 697 ล้านหุ้น เป็นเงิน 22,305 ล.บาท สูงกว่ายอดจัดสรรกว่า 23 เท่า ขณะที่การจองซื้อ
หุ้นผ่าน ธ.ทหารไทย มีผู้สนใจจองซื้อทั้งสิ้น 255 ล้านหุ้น จากจำนวนลูกค้า 22,262 ราย คิดเป็นเงิน 8,100
ล.บาท ทั้งนี้คาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 23 ต.ค.นี้ในกลุ่มพลังงาน (โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.47 เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นเดือนที่ 5
รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ต.ค.47 ก.คลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตรา
ต่างประเทศของญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในเดือน ก.ย.47 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
แม้ว่าทางการจะไม่ได้เข้าแทรกแซงตลาดเงินมาตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. โดยเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยของ
สินทรัพย์ในรูปเงินตราสกุลต่างประเทศ และการที่ค่าเงินยูโรแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้ทุน
สำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือน ก.ย.47 อยู่ที่ระดับ 830.992 พันล้านดอลลาร์ สรอ. อนึ่ง
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศใหญ่ที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 42 อันดับ 2 ได้แก่ จีน ที่มีทุน
สำรองเงินตราต่างประเทศ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.47 มูลค่า 476.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และไต้หวันเป็นอันดับ
3 มูลค่า 230.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์)
2. การส่งออกของไต้หวันไป สรอ.ในเดือนก.ย. ชะลอลงแต่การค้าโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง
รายงานจากไทเป เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 47 รัฐบาลไต้หวันเปิดเผยว่าในเดือนก.ย. 47 มูลค่าการส่งออกของ
ไต้หวันสูงถึง 14.96 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. สอดคล้องกับผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
14.86 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.2 และเป็นสถิติสูงสุดเป็นครั้งที่
2 หลังจากที่เคยทำสถิติสูงสุด 15.69 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในเดือนพ.ค. แม้ว่าการส่งออกไปสรอ. จะชะลอ
ตัวแต่อุปสงค์จากจีนยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกจะลดลงอีกในเดือนหน้า เนื่องจากการสูงขึ้น
ของราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในตลาดโลกและทำให้อุปสงค์ในสินค้าไต้หวันลดลงไป
ด้วย นักเศรษฐศาสตร์จาก Masterlink Securities ในไทเปเห็นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวัน
จะชะลอลงจนถึงสิ้นปีนี้และจะต่อเนื่องถึงปีหน้าจากอุปสงค์ที่ลดลงของสรอ. อย่างไรก็ตามการขยายตัวของการส่ง
ออกได้ค่อยๆชะลอตัวลงโดยลำดับจนถึงปัจจุบันเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 47 ที่อัตราการขยายตัว
การส่งออกเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นสูงสุดจากปีก่อนหน้าซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่เมื่อช่วงต้นปี 46 มีการระบาดของ
โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค อย่างไรก็ตามรัฐบาลไต้หวัน
ยังคงคาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5.9 แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการส่ง
ออกในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะชะลอลงถึงร้อยละ 15 — 20 ก็ตาม(รอยเตอร์)
3. ผลสำรวจดัชนีธุรกิจภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เดือน ต.ค.47 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย รายงาน
จากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.47 ธ.กลางของเกาหลีใต้ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีธุรกิจภาค
อุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เดือน ต.ค.47 ว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 76 จากระดับ 75 ในเดือน ก.
ย.47 และระดับ 69 ในเดือน ส.ค.47 เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายอย่าง เช่น การบริโภคภายในประเทศที่ยัง
ไม่ฟื้นตัว และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขการสำรวจนี้เปิดเผยภายหลังจากที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจ
ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังชะลอตัว
อยู่ รวมทั้งแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ตัวเลขที่ระดับต่ำกว่า 100 หมายความว่า
จำนวนบริษัทที่เห็นว่าสภาวะทางธุรกิจไม่ดีในเดือนที่สำรวจมีมากกว่าจำนวนบริษัทที่เห็นว่าปรับตัวดีขึ้น โดยครั้งสุด
ท้ายที่ดัชนีอยู่ที่ระดับเหนือกว่า 100 เมื่อไตรมาส 4 ปี 45 (รอยเตอร์)
4. ผลผลิตอุตสาหกรรมของมาเลเซียในเดือน ส.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 รายงานจากกัวลา
ลัมเปอร์ เมื่อ 7 ต.ค.47 รัฐบาลมาเลเซีย เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของมาเลเซียในเดือน ส.ค.47
เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 ใกล้เคียงกับผลสำรวจรอยเตอร์ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 แต่จากการที่ผล
ผลิตในภาคการผลิต (ซึ่งมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ส่วนของผลผลิตอุตสาหกรรม) ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง คือ อยู่
ที่ระดับร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบต่อปี เทียบกับเดือน ก.ค.47 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 อันเป็นสัญญาณที่แสดงว่า
การเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียได้เริ่มชะลอตัวลงแล้ว เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย รวมทั้งมีตัว
เลขบางตัวที่น่ากังวล เช่น การส่งออก นอกจากนี้ จากรายงานของสำนักงานสถิติมาเลเซียพบว่า
Industrial output ในส่วนที่เป็นตัวชี้วัดผลผลิตของเหมืองแร่และไฟฟ้าในเดือน ส.ค.47 ลดลงร้อยละ
3.2 (ตัวเลขก่อนปรับฤดูกาล) จากเดือนก่อนหน้า และหากใช้วิธี Action Economics ซึ่งมีการปรับปัจจัยทาง
ฤดูกาลแล้วปรากฏว่าตัวเลขดังกล่าวในเดือน ส.ค.ก็ลดลงจากเดือน ก.ค.47 เช่นกัน ทั้งนี้ มาเลเซียจะไม่มี
การเผยแพร่ตัวเลขเมื่อเทียบต่อเดือนที่มีการปรับปัจจัยตามฤดูกาลแล้ว (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8 ต.ค. 47 7 ต.ค. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.407 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.2288/41.5197 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.6250-1.6875 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 670.06/23.49 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,100/8,200 8,100/8,200 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 38.36 38.79 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 21.79*/14.59 21.79*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 24 ส.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-