แท็ก
เกษตรกร
เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนสิงหาคม 2548 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนทั้งด้านอุปสงค์และด้านอุปทาน โดยด้านอุปสงค์ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อย และภาค ต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม
ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากพืชผลหลักเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้า ตามการเร่งตัวขึ้นทางด้านราคาเป็นสำคัญ ประกอบกับปริมาณผลผลิตกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนนี้ สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมเร่งตัวสูงขึ้นมากจากเดือนก่อน จากปัจจัยด้านอุปสงค์ต่างประเทศที่ยังดีต่อเนื่อง และจากการที่ฐาน ณ เดือนเดียวกันปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ในภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
เสถียรภาพเศรษฐกิจ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามการเร่งตัวของการส่งออกและการชะลอตัวของการนำเข้าเป็นสำคัญ ฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของทั้งราคาน้ำมัน ราคาอาหารสด และหมวดอื่น ๆ
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนสิงหาคม 2548 มีดังนี้
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 10.7 เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 4.9 ในเดือนก่อน ตามการผลิตเพื่อส่งออกซึ่งขยายตัวในเกณฑ์ดีทั้งหมวดอิเล็กทรอนิกส์ หมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง และหมวดอาหาร ประกอบกับเป็นผลจากฐานเดือนเดียวกันปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีการหยุดผลิตเพื่อปรับปรุงสายการผลิตในหมวด ยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง และการปิดซ่อมบำรุงโรงงานในหมวดปิโตรเลียม อย่างไรก็ดี การผลิตในหมวดเครื่องหนังลดลงต่อเนื่องจากการปรับเปลี่ยนไปผลิตสินค้าคุณภาพสูง และในหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก มีความต้องการซื้อลดลง เพื่อรอความชัดเจนด้านราคา ประกอบกับผู้ประกอบการได้เร่งสต็อกสินค้าไว้มากแล้ว สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาค อุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 70.5 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน
2. ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน ดีขึ้นจากที่ลดลงร้อยละ 1.3 ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ มูลค่าสินค้าอุปโภคบริโภคนำเข้า ณ ราคาคงที่ และปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (เบื้องต้น) ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.9 เร่งขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.7 ตามการเร่งตัวของการลงทุนทั้งหมวดก่อสร้าง และหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เริ่มทรงตัว และองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจบางรายการปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ
3. ภาคการคลัง ในเดือนสิงหาคม 2548 รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.8 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ภาษีร้อยละ 19.9 รายได้ที่มิใช่ภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.5 จากการนำส่งรายได้ของสำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาลและการไฟฟ้านครหลวงเป็นสำคัญ แต่ดุลเงินสดในเดือนนี้ขาดดุล เนื่องจากรายได้ภาษีจัดเก็บเดือนสิงหาคมมีการเหลื่อมนำส่งในเดือนถัดไป ทั้งนี้ ในรอบ 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 รัฐบาลจัดเก็บรายได้รวม 1.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.9
4. ภาคต่างประเทศ ดุลการค้าขาดดุล 277 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ขาดดุล 338 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 10,116 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 25.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน สินค้าออก ที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง รวมทั้งแผงวงจรรวมและชิ้นส่วน ส่วนการนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 10,393 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 24.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะหมวดสินค้าทุนที่ขยายตัวในเกณฑ์สูง ขณะที่การนำเข้าน้ำมันขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ทั้งนี้ มีการปรับข้อมูลของกรมศุลกากรด้วยการเพิ่มการนำเข้าดาวเทียมไทยคม 4 ซึ่งส่งขึ้นสู่อวกาศในเดือนสิงหาคม มูลค่า 381 ล้านดอลลาร์ สรอ. และหักการนำเข้าเครื่องบินมูลค่า 128 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งลงรายการในดุลการชำระเงินแล้วในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 384 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนก่อนที่เกินดุล 507 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายจ่ายผลประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 107 ล้านดอลลาร์ สรอ. ดุลการชำระเงินเกินดุล 382 ล้านดอลลาร์ สรอ. เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2548 อยู่ที่ระดับ 49.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศ ล่วงหน้าสุทธิจำนวน 3.0 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2548 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.6 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนถึงร้อยละ 0.7 โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของทั้งราคาสินค้าในหมวดอาหารสด หมวดพลังงาน และหมวดอื่นๆ ทั้งนี้ ราคาในหมวดอาหารสดที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากผลผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคเนื่องจากปัญหาภาวะน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่วนราคาในหมวดพลังงาน ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่อง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.3 หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.2 ตามราคาค่าโดยสาร ราคาในหมวดการตรวจรักษาและค่ายา อาหารบริโภคใน-นอกบ้าน และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด
ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.9 จากการเพิ่มขึ้นของราคาผลผลิตเกษตรกรรมตามราคาผลผลิตการเกษตร และการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมืองตามราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตามราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
6. ภาวะการเงิน ในเดือนสิงหาคม 2548 เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนับรวมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่งควบรวมและยกระดับจากบริษัทเงินทุนเป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเมื่อหักผลดังกล่าวออก เงินฝากธนาคารพาณิชย์ในเดือนนี้ขยายตัวร้อยละ 4.3 เร่งขึ้นจากร้อยละ 2.5 ในเดือนกรกฎาคม โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาคธุรกิจเพื่อรอตัดบัญชีชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลและการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาครัฐของ กรมสรรพากร ซึ่งคาดว่าเป็นปัจจัยชั่วคราว สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ (รวมการถือครองหลักทรัพย์ของภาคเอกชน) ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนับรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่เช่นกัน ซึ่งเมื่อหักผลดังกล่าวแล้ว สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในเดือนนี้ขยายตัวร้อยละ 4.1 ชะลอลงเล็กน้อยจากร้อยละ 4.4 ในเดือนก่อน ทั้งนี้ การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่ในแนวโน้มชะลอตัวจากช่วงปลายปี 2547 ตามภาวะเศรษฐกิจ
ปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 5.9 4.6 และ 4.6 ตามลำดับ โดย M2 และ M2a ขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากประจำ และอีกส่วนหนึ่งมาจากการควบรวมและยกระดับบริษัทเงินทุนเป็นธนาคารพาณิชย์ สำหรับ M3 ขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อน
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนสิงหาคม 2548 อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.70 ต่อปีเท่ากัน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงขึ้นจากเดือนก่อนตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ในระหว่างเดือนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นดังกล่าวเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก
7. ค่าเงินบาทในเดือนสิงหาคม 2548 เฉลี่ยอยู่ที่ 41.19 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งขึ้นจากค่าเฉลี่ย 41.76 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนกรกฎาคม และเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ส่วนหนึ่งเนื่องจากความเชื่อมั่นในดอลลาร์ สรอ. เมื่อเทียบกับเงินภูมิภาคไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในเดือนนี้
ในช่วงวันที่ 1-23 กันยายน 2548 เงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 41.02 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. โดยทรงตัวและเคลื่อนไหวในช่วงแคบก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 7 กันยายน แต่โน้มแข็งค่าขึ้นภายหลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นร้อยละ 0.50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากพืชผลหลักเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้า ตามการเร่งตัวขึ้นทางด้านราคาเป็นสำคัญ ประกอบกับปริมาณผลผลิตกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนนี้ สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมเร่งตัวสูงขึ้นมากจากเดือนก่อน จากปัจจัยด้านอุปสงค์ต่างประเทศที่ยังดีต่อเนื่อง และจากการที่ฐาน ณ เดือนเดียวกันปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ในภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
เสถียรภาพเศรษฐกิจ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามการเร่งตัวของการส่งออกและการชะลอตัวของการนำเข้าเป็นสำคัญ ฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของทั้งราคาน้ำมัน ราคาอาหารสด และหมวดอื่น ๆ
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนสิงหาคม 2548 มีดังนี้
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 10.7 เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 4.9 ในเดือนก่อน ตามการผลิตเพื่อส่งออกซึ่งขยายตัวในเกณฑ์ดีทั้งหมวดอิเล็กทรอนิกส์ หมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง และหมวดอาหาร ประกอบกับเป็นผลจากฐานเดือนเดียวกันปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีการหยุดผลิตเพื่อปรับปรุงสายการผลิตในหมวด ยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง และการปิดซ่อมบำรุงโรงงานในหมวดปิโตรเลียม อย่างไรก็ดี การผลิตในหมวดเครื่องหนังลดลงต่อเนื่องจากการปรับเปลี่ยนไปผลิตสินค้าคุณภาพสูง และในหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก มีความต้องการซื้อลดลง เพื่อรอความชัดเจนด้านราคา ประกอบกับผู้ประกอบการได้เร่งสต็อกสินค้าไว้มากแล้ว สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาค อุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 70.5 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน
2. ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน ดีขึ้นจากที่ลดลงร้อยละ 1.3 ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ มูลค่าสินค้าอุปโภคบริโภคนำเข้า ณ ราคาคงที่ และปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (เบื้องต้น) ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.9 เร่งขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.7 ตามการเร่งตัวของการลงทุนทั้งหมวดก่อสร้าง และหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เริ่มทรงตัว และองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจบางรายการปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ
3. ภาคการคลัง ในเดือนสิงหาคม 2548 รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.8 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ภาษีร้อยละ 19.9 รายได้ที่มิใช่ภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.5 จากการนำส่งรายได้ของสำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาลและการไฟฟ้านครหลวงเป็นสำคัญ แต่ดุลเงินสดในเดือนนี้ขาดดุล เนื่องจากรายได้ภาษีจัดเก็บเดือนสิงหาคมมีการเหลื่อมนำส่งในเดือนถัดไป ทั้งนี้ ในรอบ 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 รัฐบาลจัดเก็บรายได้รวม 1.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.9
4. ภาคต่างประเทศ ดุลการค้าขาดดุล 277 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ขาดดุล 338 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 10,116 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 25.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน สินค้าออก ที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง รวมทั้งแผงวงจรรวมและชิ้นส่วน ส่วนการนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 10,393 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 24.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะหมวดสินค้าทุนที่ขยายตัวในเกณฑ์สูง ขณะที่การนำเข้าน้ำมันขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ทั้งนี้ มีการปรับข้อมูลของกรมศุลกากรด้วยการเพิ่มการนำเข้าดาวเทียมไทยคม 4 ซึ่งส่งขึ้นสู่อวกาศในเดือนสิงหาคม มูลค่า 381 ล้านดอลลาร์ สรอ. และหักการนำเข้าเครื่องบินมูลค่า 128 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งลงรายการในดุลการชำระเงินแล้วในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 384 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนก่อนที่เกินดุล 507 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายจ่ายผลประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 107 ล้านดอลลาร์ สรอ. ดุลการชำระเงินเกินดุล 382 ล้านดอลลาร์ สรอ. เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2548 อยู่ที่ระดับ 49.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศ ล่วงหน้าสุทธิจำนวน 3.0 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2548 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.6 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนถึงร้อยละ 0.7 โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของทั้งราคาสินค้าในหมวดอาหารสด หมวดพลังงาน และหมวดอื่นๆ ทั้งนี้ ราคาในหมวดอาหารสดที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากผลผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคเนื่องจากปัญหาภาวะน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่วนราคาในหมวดพลังงาน ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่อง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.3 หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.2 ตามราคาค่าโดยสาร ราคาในหมวดการตรวจรักษาและค่ายา อาหารบริโภคใน-นอกบ้าน และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด
ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.9 จากการเพิ่มขึ้นของราคาผลผลิตเกษตรกรรมตามราคาผลผลิตการเกษตร และการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมืองตามราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตามราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
6. ภาวะการเงิน ในเดือนสิงหาคม 2548 เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนับรวมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่งควบรวมและยกระดับจากบริษัทเงินทุนเป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเมื่อหักผลดังกล่าวออก เงินฝากธนาคารพาณิชย์ในเดือนนี้ขยายตัวร้อยละ 4.3 เร่งขึ้นจากร้อยละ 2.5 ในเดือนกรกฎาคม โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาคธุรกิจเพื่อรอตัดบัญชีชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลและการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาครัฐของ กรมสรรพากร ซึ่งคาดว่าเป็นปัจจัยชั่วคราว สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ (รวมการถือครองหลักทรัพย์ของภาคเอกชน) ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนับรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่เช่นกัน ซึ่งเมื่อหักผลดังกล่าวแล้ว สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในเดือนนี้ขยายตัวร้อยละ 4.1 ชะลอลงเล็กน้อยจากร้อยละ 4.4 ในเดือนก่อน ทั้งนี้ การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่ในแนวโน้มชะลอตัวจากช่วงปลายปี 2547 ตามภาวะเศรษฐกิจ
ปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 5.9 4.6 และ 4.6 ตามลำดับ โดย M2 และ M2a ขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากประจำ และอีกส่วนหนึ่งมาจากการควบรวมและยกระดับบริษัทเงินทุนเป็นธนาคารพาณิชย์ สำหรับ M3 ขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อน
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนสิงหาคม 2548 อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.70 ต่อปีเท่ากัน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงขึ้นจากเดือนก่อนตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ในระหว่างเดือนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นดังกล่าวเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก
7. ค่าเงินบาทในเดือนสิงหาคม 2548 เฉลี่ยอยู่ที่ 41.19 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งขึ้นจากค่าเฉลี่ย 41.76 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนกรกฎาคม และเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ส่วนหนึ่งเนื่องจากความเชื่อมั่นในดอลลาร์ สรอ. เมื่อเทียบกับเงินภูมิภาคไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในเดือนนี้
ในช่วงวันที่ 1-23 กันยายน 2548 เงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 41.02 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. โดยทรงตัวและเคลื่อนไหวในช่วงแคบก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 7 กันยายน แต่โน้มแข็งค่าขึ้นภายหลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นร้อยละ 0.50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--