นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้นำ
คณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเดินทางไปจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตะวันออกกลาง
ที่ประเทศ โอมาน สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ และเยเมน ระหว่างวันที่ 25 — 30 กันยายน 2547 ปรากฎว่า
ประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยผู้ส่งออกของไทยประกอบด้วย บริษัท ซุ่นฮั่วเซ่งไรซ์ จำกัด บริษัท
นครหลวงค้าข้าว จำกัด บริษัท
อเมริเทคไรส์ จำกัด บริษัท เพรสซิเดนท์อะกริ จำกัด บริษัทรวมข้าวสยาม จำกัด ได้พบปะ
เจรจาการค้ากับผู้นำเข้าของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ และเยเมน คือ บริษัท Nuha Trading บริษัท Emco
International บริษัท Abdullah Saeed บริษัท Al Saeed Trading บริษัท Yemen Economical
บริษัท Radman บริษัท Dadiam General Trading บริษัท Almahbashi Trading สามารถบรรลุ
ข้อตกลงเบื้องต้นในการซื้อขายข้าวชนิดต่าง ๆ ของไทย คือ ข้าวนึ่ง จำนวน 170,000 ตัน และข้าวหอมมะลิ
จำนวน 2,000 ตัน รวมปริมาณทั้งสิ้น 172,000 ตัน มูลค่าทั้งสิ้น 47.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ
1,981.81 ล้านบาท
ผลสำเร็จจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ชี้ให้เห็นศักยภาพด้านการตลาดของข้าวไทยในภูมิภาคตะวันออก
กลาง คือ
1. ผู้นำเข้าข้าวในตลาดดูไบยังคงให้ความสนใจในการนำเข้าข้าวไทยเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีความ
มั่นใจในคุณภาพ มาตรฐาน และการส่งมอบที่ตรงเวลา รวมทั้งข้าวไทยยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคใน
ประเทศใกล้เคียงที่นำเข้าข้าวจากตลาดข้าวดูไบอาทิเช่น อิหร่าน อิรักและประเทศในแถบตะวันออกกลางด้วย
2. ตลาดข้าวในประเทศเยเมนถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากในอนาคตโดยเฉพาะตลาดข้าวนึ่ง
เนื่องจากประเทศเยเมนมีประชากรกว่า 20 ล้านคนจึงมีความต้องการในการนำเข้าข้าวเป็นปริมาณมากทุกปี
และในปัจจุบันประเทศเยเมนอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างทางการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจจึงทำให้
ประชาชนเริ่มมีรายได้และอำนาจซื้อสูงขึ้น นอกจากนั้นแล้วข้าวจากประเทศคู่แข่งของก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดไม่
มากนัก จึงเป็นโอกาสของข้าวไทยที่จะขยายตัวได้มากขึ้น ซึ่งผลจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นการจัด
ให้ผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของ เยเมนมีโอกาสได้พบปะเจรจากับผู้ส่งออกไทยเป็นครั้งแรกจึงทำให้เกิด
กระแสความตื่นตัวให้กับตลาดข้าวในประเทศเยเมนเป็นอย่างมากและทำให้นักธุรกิจทั้งสองฝ่ายเกิดความมั่นใจ
และกล้าที่จะทำการค้ากันโดยไม่ต้องผ่านคนกลางหรือนายหน้า รวมทั้งผู้นำเข้าข้าวของเยเมนและผู้บริโภคก็
เริ่มมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการ
จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดเยเมนจึงควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ตลาดข้าว
ไทยมีโอกาสขยายตัวได้อย่างเต็มที่
3.ปริมาณการส่งออกข้าวไทยไปยังตลาดภูมิภาคตะวันออกกลางในปีที่ผ่านมามีปริมาณทั้งสิ้น 1.17
ล้านตัน ในปีนี้เดือน มค. — กย. มีปริมาณ 1.16 ตัน คาดว่าจากผลการจัดกิจกรรมขยายตลาด
ครั้งนี้จะทำให้ปริมาณส่งออกจนถึงสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 ล้านตันแน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่กองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ
โทร. 0 2457 4872 โทรสาร 0 2547 4816 www.dft.moc.go.th , e-mail :
tpdft.moc.go.th
--กรมการค้าต่างประเทศ ตุลาคม 2547--
-สส-
คณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเดินทางไปจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตะวันออกกลาง
ที่ประเทศ โอมาน สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ และเยเมน ระหว่างวันที่ 25 — 30 กันยายน 2547 ปรากฎว่า
ประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยผู้ส่งออกของไทยประกอบด้วย บริษัท ซุ่นฮั่วเซ่งไรซ์ จำกัด บริษัท
นครหลวงค้าข้าว จำกัด บริษัท
อเมริเทคไรส์ จำกัด บริษัท เพรสซิเดนท์อะกริ จำกัด บริษัทรวมข้าวสยาม จำกัด ได้พบปะ
เจรจาการค้ากับผู้นำเข้าของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ และเยเมน คือ บริษัท Nuha Trading บริษัท Emco
International บริษัท Abdullah Saeed บริษัท Al Saeed Trading บริษัท Yemen Economical
บริษัท Radman บริษัท Dadiam General Trading บริษัท Almahbashi Trading สามารถบรรลุ
ข้อตกลงเบื้องต้นในการซื้อขายข้าวชนิดต่าง ๆ ของไทย คือ ข้าวนึ่ง จำนวน 170,000 ตัน และข้าวหอมมะลิ
จำนวน 2,000 ตัน รวมปริมาณทั้งสิ้น 172,000 ตัน มูลค่าทั้งสิ้น 47.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ
1,981.81 ล้านบาท
ผลสำเร็จจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ชี้ให้เห็นศักยภาพด้านการตลาดของข้าวไทยในภูมิภาคตะวันออก
กลาง คือ
1. ผู้นำเข้าข้าวในตลาดดูไบยังคงให้ความสนใจในการนำเข้าข้าวไทยเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีความ
มั่นใจในคุณภาพ มาตรฐาน และการส่งมอบที่ตรงเวลา รวมทั้งข้าวไทยยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคใน
ประเทศใกล้เคียงที่นำเข้าข้าวจากตลาดข้าวดูไบอาทิเช่น อิหร่าน อิรักและประเทศในแถบตะวันออกกลางด้วย
2. ตลาดข้าวในประเทศเยเมนถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากในอนาคตโดยเฉพาะตลาดข้าวนึ่ง
เนื่องจากประเทศเยเมนมีประชากรกว่า 20 ล้านคนจึงมีความต้องการในการนำเข้าข้าวเป็นปริมาณมากทุกปี
และในปัจจุบันประเทศเยเมนอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างทางการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจจึงทำให้
ประชาชนเริ่มมีรายได้และอำนาจซื้อสูงขึ้น นอกจากนั้นแล้วข้าวจากประเทศคู่แข่งของก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดไม่
มากนัก จึงเป็นโอกาสของข้าวไทยที่จะขยายตัวได้มากขึ้น ซึ่งผลจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นการจัด
ให้ผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของ เยเมนมีโอกาสได้พบปะเจรจากับผู้ส่งออกไทยเป็นครั้งแรกจึงทำให้เกิด
กระแสความตื่นตัวให้กับตลาดข้าวในประเทศเยเมนเป็นอย่างมากและทำให้นักธุรกิจทั้งสองฝ่ายเกิดความมั่นใจ
และกล้าที่จะทำการค้ากันโดยไม่ต้องผ่านคนกลางหรือนายหน้า รวมทั้งผู้นำเข้าข้าวของเยเมนและผู้บริโภคก็
เริ่มมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการ
จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดเยเมนจึงควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ตลาดข้าว
ไทยมีโอกาสขยายตัวได้อย่างเต็มที่
3.ปริมาณการส่งออกข้าวไทยไปยังตลาดภูมิภาคตะวันออกกลางในปีที่ผ่านมามีปริมาณทั้งสิ้น 1.17
ล้านตัน ในปีนี้เดือน มค. — กย. มีปริมาณ 1.16 ตัน คาดว่าจากผลการจัดกิจกรรมขยายตลาด
ครั้งนี้จะทำให้ปริมาณส่งออกจนถึงสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 ล้านตันแน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่กองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ
โทร. 0 2457 4872 โทรสาร 0 2547 4816 www.dft.moc.go.th , e-mail :
tpdft.moc.go.th
--กรมการค้าต่างประเทศ ตุลาคม 2547--
-สส-