การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑๙ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)
วันพฤหัสบดีที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๐.๑๐ นาฬิกา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เมื่อครบองค์ประชุม ประธาน
การประชุมได้ดำเนินการพิจารณาตามระเบียบวาระคือ ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม ไม่มี
และระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ดังนี้
- รับทราบเรื่องศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบพรรคชาติพัฒนา เพื่อรวมกับพรรค
ไทยรักไทยที่เป็นพรรคหลัก ตามคำสั่งของนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว
ด้วยนายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีหนังสือแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบ
พรรคชาติพัฒนา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พุทธศักราช ๒๕๔๑
มาตรา ๖๕ วรรค ๑ (๓) และวรรค ๒ ประกอบมาตรา ๗๓ เนื่องจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคชาติพัฒนา
และพรรคไทยรักไทยเห็นชอบให้รวมกัน โดยให้พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองหลัก และ
นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ประกาศคำสั่งยุบพรรคชาติพัฒนาเพื่อรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย
ในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา ๗๒ วรรค ๒ แล้ว
- รับทราบอนุสัญญาพิธีการและข้อแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
สมัยที่ ๘๓-๘๙
ด้วยคณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติให้เสนออนุสัญญา พิธีสาร และข้อแนะ
ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยที่ ๘๓-๘๙ ต่อรัฐสภา เพื่อทราบตามธรรมนูญของ
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มาตรา ๑๙ ซึ่งได้บัญญัติว่า ต้องเสนออนุสัญญาและข้อแนะฉบับนั้น ๆ
ต่อหน่วยงานผู้ทรงอำนาจสำหรับประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทย ได้แก่ รัฐสภา เพื่อทราบการตราอนุสัญญา
และข้อแนะดังกล่าว
จากนั้นได้มีสมาชิกฯ ตั้งข้อสังเกตและซักถามว่า การจัดทำเอกสารการประชุมแรงงานระหว่างประเทศ
จะมีการประชุมทุกปี แต่ส่วนการรายงานผลนั้นจะไม่มีการรายงานทุกปี จะเห็นได้จากการประชุมครั้งล่าสุด
ซึ่งเป็นครั้งที่ ๑๑ ได้ประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ แต่ได้รายงานผลในปี ๒๕๔๗ รวมทั้ง
จากการที่ประเทศไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour
Organization หรือ ILO) และถูกผนวกเข้าเป็นหมวดการชำนัญพิเศษของ
สหประชาชาติ ดังนั้นการจัดทำอนุสัญญาต่าง ๆ ที่ผ่านมา ๑๐ ครั้ง โดยในอนุสัญญาจะมีข้อแนะไว้
ในข้อแนะต่าง ๆ นั้น กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการไปอย่างไรบ้าง
ในส่วนของแรงงานด้านการเกษตรได้กล่าวถึง มาตรการในการกำหนดเกี่ยวกับ
การจัดการสารเคมีในการเกษตรกรรมอย่างถูกต้อง อุปกรณ์ และเครื่องมือในการแต่งกายส่วนบุคคล
รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในการชำระล้างสำหรับผู้ที่ใช้สารเคมี การบำรุง การทำความสะอาด
อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรมากน้อยเพียงไร
ตลอดจนแนวโน้มและทิศทางของแผนงานที่ประเทศไทยจะไปเซ็นเป็นภาคีอนุสัญญานั้น เช่น อนุสัญญา
ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน อนุสัญญาว่าด้วยเรื่องการแก้ไขอนุสัญญาการคุ้มครองมารดา และอนุสัญญา
ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในงานเกษตรกรรม ซึ่งประเทศไทยยังมิได้เซ็นเป็นภาคีหรือ
ให้สัตยาบันอนุสัญญาแต่ประการใด เพียงให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับเดียว คือ ฉบับที่ ๑๘๒ ว่าด้วยการห้าม
และการดำเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก
ในส่วนของอนุสัญญาที่ยังมิได้มีการให้สัตยาบันอนุสัญญานั้น สมาชิกฯ ได้มีความเป็นห่วงในเรื่อง
ดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๓ ว่าด้วยการแก้ไขอนุสัญญาการคุ้มครองมารดา ซึ่งในเรื่อง
ดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองแก่มารดาซึ่งต้องทำงาน ทั้งในด้านสุขภาพอนามัย
สภาพการทำงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ดังนั้นกระทรวงแรงงาน
ควรมีแผนในการเตรียมให้สัตยาบันอนุสัญญา เพื่อให้คนไทยในภูมิภาคต่าง ๆ ได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง
ต่อจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นางอุไรวรรณ เทียนทอง) ได้ตอบชี้แจงว่า ในเรื่องอนุสัญญา
ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไปแล้ว ๑๔ ฉบับ เช่น อนุสัญญาฉบับที่ ๑๙ ว่าด้วย การปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน
ในเรื่องค่าตอบแทนสำหรับคนงานชาติในบังคับและคนต่างชาติ พุทธศักราช ๒๔๖๘
อนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยการเกณฑ์แรงงานหรือแรงงานบังคับ พ.ศ. ๒๔๗๓ อนุสัญญาฉบับที่ ๑๒๗
ว่าด้วยน้ำหนักสูงสุดอนุญาตให้คนงานคนหนึ่งแบกหามได้ พุทธศักราช ๒๕๑๐และอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๒
ว่าด้วยการห้ามและดำเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก พุทธศักราช ๒๕๔๒
เป็นต้น สำหรับในส่วนของการรายงานให้รับทราบอนุสัญญาและพิธีสารและข้อแนะขององค์การระหว่างประเทศนั้น
จากการรายงาน ๑๐ ครั้งที่ผ่านมา ค่อนข้าง ไม่ล่าช้า แต่ครั้งสุดท้ายเป็นการรายงานการประชุมสมัยที่
๗๒-๘๒ ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๒๙-๒๕๓๘ และรายงานเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๙ นั้น เนื่องจากการ
รายงานนั้นค่อนข้างไม่เป็นปัจจุบัน แต่ในการประชุมสมัยที่ ๙๐ ๙๑ และ ๙๒ ประชุมเสร็จสิ้น
เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการเร่งรัดให้เป็นปัจจุบัน ในอดีตกระทรวงแรงงานไม่สามารถดำเนินการรายงานได้ทัน
เนื่องจากไม่เคยได้รับงบประมาณในการจัดทำรายงาน เพราะต้องจัดทำประมาณ ๓,๐๐๐ เล่ม เพื่อเสนอต่อรัฐสภา
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา แต่ในปัจจุบันกระทรวงแรงงานได้รับงบประมาณในการดำเนินงานในเรื่อง
ดังกล่าวนี้ จึงสามารถรายงานสมัยที่ ๙๐ ๙๑ และ ๙๒ ได้ทันต่อปี
สำหรับการให้สัตยาบันในเรื่องต่าง ๆ นั้นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบถึง
ความพร้อมของประเทศไทยในการที่จะนำบทบัญญัติของอนุสัญญามาใช้ปฏิบัติ ตลอดจนความจำเป็นที่จะต้องตรา
หรือแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญา เพราะการให้สัตยาบันอนุสัญญาใดก็ตามเท่ากับเป็นการยอมรับใน
กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนั้น และต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของอนุสัญญานั้น ๆ ได้ทุกมาตรา
ส่วนในเรื่องของแรงงานภาคเกษตรและแรงงานที่รับไปทำที่บ้าน ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบนั้น ขณะนี้
กระทรวงแรงงานได้มีการพิจารณาโดยมีการจัดการสัมมนาทั่วประเทศ และได้
มอบหมายให้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชทำการวิจัยในเรื่องของการที่จะดำเนินการต่อไป
และผลการวิจัยจะเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคมนี้
ที่ประชุมรับทราบ
- รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๖
ก่อนที่สมาชิกฯ อภิปราย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งให้เลื่อนการรับทราบรายงาน
ดังกล่าวไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๑
(สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
พักการประชุมเวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา
ต่อจากนั้น ในเวลา ๑๓.๓๕ นาฬิกา ได้มีการพิจารณากระทู้ต่าง ๆ คือ
กระทู้ถามสด จำนวน ๓ เรื่อง
๑. กระทู้ถามสดของนายธานินทร์ ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง นโยบายการจัดที่ดินทำกิน ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่ง
นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตอบกระทู้ว่า จากการดำเนินการ
จัดที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการประกาศให้ประชาชนทั่วประเทศ
ขึ้นทะเบียนคนจนนั้น ในปัจจุบันได้มีประชาชนมาขึ้นทะเบียนแจ้งความประสงค์ว่า ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง
ประมาณ ๑,๓๐๐,๐๐๐ ราย ทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินการจัดที่ทำกินนั้นจะแยกออกเป็น ๔ ส่วน ได้แก่
พื้นที่ป่าที่มีสภาพเสื่อมโทรม พื้นที่สงวนหวงห้ามของทางราชการ พื้นที่ซึ่งไม่มีการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินและ
อยู่ในระหว่างการรังวัดออกเอกสารสิทธิ์ให้ประชาชน รวมทั้งที่สาธารณประโยชน์ หรือทำเลเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ใน
ความดูแลของกระทรวงมหาดไทย โดยจะเข้าไปตรวจสอบและจัดสรรสิทธิ์ ให้แก่ประชาชนตามความเหมาะสม
ตรงไปตรงมา และไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้จะคำนึงถึงบุคคล ซึ่งอยู่ในพื้นที่และมีภูมิลำเนาในพื้นที่นั้น ๆ
รวมถึงระยะเวลาที่เคยทำกินในพื้นที่นั้น ๆ เป็นหลัก
๒. กระทู้ถามสดของนายบุญพันธ์ แขวัฒนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การระเบิดของโรงงานผลิตพลุและ
ดอกไม้เพลิง ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้ตอบกระทู้ว่า ในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิด และยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด ซึ่งกำลัง
อยู่ในระหว่างการสอบสวน และหากมีความคืบหน้าประการใดก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจาก
ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้มีการเพิ่มมาตรการและกำชับให้
ทุกจังหวัดเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยในการพิจารณาออกใบอนุญาตหรือต่อใบอนุญาตนั้น
ให้นายทะเบียนท้องที่รับทราบข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มาประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนการตรวจสอบนั้นได้ให้นายทะเบียนท้องที่กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวด
ไม่ให้มีการลักลอบทำหรือค้าดอกไม้เพลิง รวมทั้งกวดขันร้านที่จำหน่ายสินค้าดังกล่าวด้วย สำหรับมาตรการ
ในการออกใบอนุญาตนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้มีมาตรการเข้มงวดมาโดยตลอด โดยพิจารณาถึงฐานะ
และคุณสมบัติของผู้ขอ รวมทั้งสถานที่ตั้งต้องปลอดภัยจากอัคคีภัยและห่างไกลจากชุมชนตามที่กฎหมายกำหนดไว้
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบจำนวนดอกไม้เพลิงที่มีอยู่ให้ตรงตามบัญชีรายเดือน
ที่ผู้ประกอบการรายงานแก่นายทะเบียนท้องที่ ซึ่งต้องระบุแหล่งที่มา ปริมาณ และยอดคงเหลือ
ของดอกไม้เพลิงในแต่ละเดือน ตลอดจนต้องอยู่ในเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตด้วย สำหรับกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องและใช้ในปัจจุบันนี้ได้ออกมาเป็นเวลานานแล้ว และกฎหมายแต่ละฉบับก็เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม ซึ่งรัฐบาล
ก็สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ให้ชัดเจน
และรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามสำหรับข้อสังเกต
และข้อเสนอแนะต่าง ๆ นั้น จะได้นำไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
๓. กระทู้ถามสดของนายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ความไม่โปร่งใสในโครงการ เช่า CPU เมนเฟรม และ
ระบบปฏิบัติการ OS / ๓๙๐, Z / VM และ Linux เพื่อทดแทนของสำนักงานประกันสังคม ถาม
นายกรัฐมนตรี ซึ่งนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ตอบกระทู้ว่า สำนักงาน
ประกันสังคมได้นำระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการปฏิบัติงานตั้งแต่ปี ๒๕๓๓ และระบบสารสนเทศ
ก็ถูกออกแบบให้ใช้คอมพิวเตอร์ระบบเมนเฟรมเท่านั้น โดยในปี ๒๕๓๓-๒๕๔๔ สำนักงานประกันสังคม
ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ระบบเมนเฟรม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็ม และต่อมาในปี ๒๕๔๔ ได้เปลี่ยน
ยี่ห้อมาเป็นอัมดาล ซึ่งมีสัญญาเช่าเป็นเวลา ๓ ปี และได้สิ้นสุดสัญญาไปเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๗
โดยเหตุที่ต้องทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่นั้น เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบเมนเฟรมของคู่สัญญาในปัจจุบัน
คือ ยี่ห้ออัมดาลได้เลิกการผลิตไปแล้ว นอกจากนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทใหม่ คือ
ไอบีเอ็ม นั้น ก็สามารถประมวลผลข้อมูลได้มากกว่าเครื่องเดิมถึง ๒ เท่า ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น
รวมทั้งยังมีความสามารถในการขยายสมรรถนะ เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตที่มีประสิทธิภาพ
สูงกว่า ซึ่งจะนำไปสู่ระบบเปิดได้ภายใน ๔ ปี ทั้งนี้ การดำเนินการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ
เมนเฟรมนั้นได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุทุกขั้นตอน และผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารด้วย
กระทู้ถามทั่วไป จำนวน ๘ เรื่อง
๑. กระทู้ถามของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรค
ไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาที่ดินทำกินป่าวังเพลิง - ม่วงค่อม ถามนายกรัฐมนตรี
ซึ่งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตอบกระทู้ว่า กองทัพบก
ได้ทำหนังสือขอใช้พื้นที่ ๔๔๗,๐๐๐ ไร่ ในปี ๒๕๓๓ และได้เริ่มใช้ในปี ๒๕๓๔ ซึ่งภายหลัง
ได้มีการขอลดการใช้พื้นที่ลงเหลือ ๒๐๐,๐๐๐ กว่าไร่ โดยทางจังหวัดลพบุรีและกองทัพบกได้มีการเจรจา
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ของราษฎรรายย่อย ซึ่งอาศัยทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ทาง
กรมป่าไม้ได้มีการตรวจสอบรังวัดที่ดินของราษฎรแล้วบางส่วน ทำให้ทราบแนวเขตที่
ชัดเจนแล้ว สำหรับพื้นที่ ๆ ยังไม่มีการดำเนินการก็จะเร่งรัดให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้
รัฐบาลได้มีนโยบายในการพิสูจน์สิทธิและการครอบครองที่ดินของราษฎรก่อนกรมป่าไม้ประกาศ
ป่าวังเพลิง - ม่วงค่อม ปี ๒๕๑๒ ด้วย ซึ่งหากครอบครองมาก่อนที่จะมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่
ป่าถาวรหรือป่าสงวน ทางรัฐบาลก็จะกันพื้นที่นั้น ๆ ออกให้ราษฎรสามารถใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินได้
ทั้งนี้จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้มีมาตรการชัดเจนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
และจะนำข้อสังเกตต่าง ๆ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาดำเนินการ
ในส่วนที่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ต่อไป
๒. กระทู้ถามของนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
พรรคชาติพัฒนา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การหลอกขายวัตถุมงคลปลอม และพระเลี่ยมทองคุณภาพต่ำกว่า
ที่ระบุให้นักท่องเที่ยว ถามนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากผู้ตั้งกระทู้ถามไม่ติดใจที่จะถาม ดังนั้นกระทู้ถามดังกล่าวจึงตกไป
๓. กระทู้ถามของนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวหรือ
ชาวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีได้รับมอบหมายป่วยกะทันหัน
จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๔. กระทู้ถามของนายโสภณ เพชรสว่าง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งรัฐมนตรีป่วยกะทันหัน จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๕. กระทู้ถามของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การก่อสร้างที่จอดเรือบริเวณหน้าถ้ำมรกต ถามรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งรัฐมนตรีป่วยกะทันหัน จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้
ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๖. กระทู้ถามของนายเชน เทือกสุบรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ ถามนายกรัฐมนตรี
ซึ่งรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุม
สภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๗. กระทู้ถามของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ
พรรคชาติพัฒนา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการบริหารงบประมาณในกระทรวงสาธารณสุข
ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้
ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๘. กระทู้ถามของพันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ขอให้ขยายขนาดโรงพยาบาล
ปากช่องนานา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบ
กระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบวาระที่ ๗ เรื่องอื่น ๆ คือ การเลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ
เพื่อเป็นกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภาแทนตำแหน่งที่ว่างลง ๓ ตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๙ เนื่องจากนายวิลาศ สิงหวิสัย ศาสตราจารย์ ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล
และศาสตราจารย์ ติน ปรัชญพฤทธิ์ กรรมการ ก.ร. ผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร
ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๗ ทำให้ตำแหน่งกรรมการข้าราชการ
ฝ่ายรัฐสภาว่างลง ๓ ตำแหน่ง ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรต้องดำเนินการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นแทนตำแหน่ง
ที่ว่างภายใน ๓๐ วัน ทั้งนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ตามมาตรา ๗ ก่อนกำหนดวันเลือกตั้ง จำนวน ๓ ท่าน คือ นายวิลาศ สิงหวิสัย ศาสตราจารย์ ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล
และศาสตราจารย์ ติน ปรัชญพฤทธิ์ สำหรับท่านที่ ๔ คือ รองศาสตราจารย์ ดร.อุดม ทุมโฆสิต นั้น
ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๗ ดังนั้นจึงพิจารณาเพียง ๓ ท่าน ข้างต้น
โดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา มาตรา ๑๐ บัญญัติว่าในการ เลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการ
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประธานรัฐสภากำหนด ซึ่งได้มีประกาศประธานรัฐสภา
ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๓๕ กำหนดให้นำข้อบังคับว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมาธิการสามัญมาใช้บังคับแก่
การเลือกตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโดยอนุโลม และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ข้อ ๘๑ วรรคท้าย กำหนดว่าการออกเสียงลงคะแนน เลือกตั้งคณะกรรมาธิการ ถ้ามีการเสนอชื่อ
กรรมาธิการเท่ากับจำนวนกรรมาธิการทั้งหมดให้ถือว่า ผู้ถูกเสนอชื่อนั้นเป็นผู้ได้รับเลือก
ถ้ามีการเสนอชื่อมากกว่าจำนวนกรรมาธิการทั้งหมดให้ออกเสียง ลงคะแนนเป็นความลับ
ทั้งนี้เมื่อสมาชิกเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม จำนวน ๓ ท่าน ดังกล่าว
ซึ่งไม่เกินจำนวนตำแหน่งที่ว่างลง จึงถือว่าผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง ๓ ท่าน เป็น
ผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
ปิดประชุมเวลา ๑๕.๑๕ นาฬิกา
------------------------------------------------------
กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักประชาสัมพันธ์
วันพฤหัสบดีที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๐.๑๐ นาฬิกา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เมื่อครบองค์ประชุม ประธาน
การประชุมได้ดำเนินการพิจารณาตามระเบียบวาระคือ ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม ไม่มี
และระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ดังนี้
- รับทราบเรื่องศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบพรรคชาติพัฒนา เพื่อรวมกับพรรค
ไทยรักไทยที่เป็นพรรคหลัก ตามคำสั่งของนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว
ด้วยนายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีหนังสือแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบ
พรรคชาติพัฒนา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พุทธศักราช ๒๕๔๑
มาตรา ๖๕ วรรค ๑ (๓) และวรรค ๒ ประกอบมาตรา ๗๓ เนื่องจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคชาติพัฒนา
และพรรคไทยรักไทยเห็นชอบให้รวมกัน โดยให้พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองหลัก และ
นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ประกาศคำสั่งยุบพรรคชาติพัฒนาเพื่อรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย
ในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา ๗๒ วรรค ๒ แล้ว
- รับทราบอนุสัญญาพิธีการและข้อแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
สมัยที่ ๘๓-๘๙
ด้วยคณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติให้เสนออนุสัญญา พิธีสาร และข้อแนะ
ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยที่ ๘๓-๘๙ ต่อรัฐสภา เพื่อทราบตามธรรมนูญของ
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มาตรา ๑๙ ซึ่งได้บัญญัติว่า ต้องเสนออนุสัญญาและข้อแนะฉบับนั้น ๆ
ต่อหน่วยงานผู้ทรงอำนาจสำหรับประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทย ได้แก่ รัฐสภา เพื่อทราบการตราอนุสัญญา
และข้อแนะดังกล่าว
จากนั้นได้มีสมาชิกฯ ตั้งข้อสังเกตและซักถามว่า การจัดทำเอกสารการประชุมแรงงานระหว่างประเทศ
จะมีการประชุมทุกปี แต่ส่วนการรายงานผลนั้นจะไม่มีการรายงานทุกปี จะเห็นได้จากการประชุมครั้งล่าสุด
ซึ่งเป็นครั้งที่ ๑๑ ได้ประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ แต่ได้รายงานผลในปี ๒๕๔๗ รวมทั้ง
จากการที่ประเทศไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour
Organization หรือ ILO) และถูกผนวกเข้าเป็นหมวดการชำนัญพิเศษของ
สหประชาชาติ ดังนั้นการจัดทำอนุสัญญาต่าง ๆ ที่ผ่านมา ๑๐ ครั้ง โดยในอนุสัญญาจะมีข้อแนะไว้
ในข้อแนะต่าง ๆ นั้น กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการไปอย่างไรบ้าง
ในส่วนของแรงงานด้านการเกษตรได้กล่าวถึง มาตรการในการกำหนดเกี่ยวกับ
การจัดการสารเคมีในการเกษตรกรรมอย่างถูกต้อง อุปกรณ์ และเครื่องมือในการแต่งกายส่วนบุคคล
รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในการชำระล้างสำหรับผู้ที่ใช้สารเคมี การบำรุง การทำความสะอาด
อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรมากน้อยเพียงไร
ตลอดจนแนวโน้มและทิศทางของแผนงานที่ประเทศไทยจะไปเซ็นเป็นภาคีอนุสัญญานั้น เช่น อนุสัญญา
ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน อนุสัญญาว่าด้วยเรื่องการแก้ไขอนุสัญญาการคุ้มครองมารดา และอนุสัญญา
ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในงานเกษตรกรรม ซึ่งประเทศไทยยังมิได้เซ็นเป็นภาคีหรือ
ให้สัตยาบันอนุสัญญาแต่ประการใด เพียงให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับเดียว คือ ฉบับที่ ๑๘๒ ว่าด้วยการห้าม
และการดำเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก
ในส่วนของอนุสัญญาที่ยังมิได้มีการให้สัตยาบันอนุสัญญานั้น สมาชิกฯ ได้มีความเป็นห่วงในเรื่อง
ดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๓ ว่าด้วยการแก้ไขอนุสัญญาการคุ้มครองมารดา ซึ่งในเรื่อง
ดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองแก่มารดาซึ่งต้องทำงาน ทั้งในด้านสุขภาพอนามัย
สภาพการทำงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ดังนั้นกระทรวงแรงงาน
ควรมีแผนในการเตรียมให้สัตยาบันอนุสัญญา เพื่อให้คนไทยในภูมิภาคต่าง ๆ ได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง
ต่อจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นางอุไรวรรณ เทียนทอง) ได้ตอบชี้แจงว่า ในเรื่องอนุสัญญา
ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไปแล้ว ๑๔ ฉบับ เช่น อนุสัญญาฉบับที่ ๑๙ ว่าด้วย การปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน
ในเรื่องค่าตอบแทนสำหรับคนงานชาติในบังคับและคนต่างชาติ พุทธศักราช ๒๔๖๘
อนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยการเกณฑ์แรงงานหรือแรงงานบังคับ พ.ศ. ๒๔๗๓ อนุสัญญาฉบับที่ ๑๒๗
ว่าด้วยน้ำหนักสูงสุดอนุญาตให้คนงานคนหนึ่งแบกหามได้ พุทธศักราช ๒๕๑๐และอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๒
ว่าด้วยการห้ามและดำเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก พุทธศักราช ๒๕๔๒
เป็นต้น สำหรับในส่วนของการรายงานให้รับทราบอนุสัญญาและพิธีสารและข้อแนะขององค์การระหว่างประเทศนั้น
จากการรายงาน ๑๐ ครั้งที่ผ่านมา ค่อนข้าง ไม่ล่าช้า แต่ครั้งสุดท้ายเป็นการรายงานการประชุมสมัยที่
๗๒-๘๒ ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๒๙-๒๕๓๘ และรายงานเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๙ นั้น เนื่องจากการ
รายงานนั้นค่อนข้างไม่เป็นปัจจุบัน แต่ในการประชุมสมัยที่ ๙๐ ๙๑ และ ๙๒ ประชุมเสร็จสิ้น
เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการเร่งรัดให้เป็นปัจจุบัน ในอดีตกระทรวงแรงงานไม่สามารถดำเนินการรายงานได้ทัน
เนื่องจากไม่เคยได้รับงบประมาณในการจัดทำรายงาน เพราะต้องจัดทำประมาณ ๓,๐๐๐ เล่ม เพื่อเสนอต่อรัฐสภา
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา แต่ในปัจจุบันกระทรวงแรงงานได้รับงบประมาณในการดำเนินงานในเรื่อง
ดังกล่าวนี้ จึงสามารถรายงานสมัยที่ ๙๐ ๙๑ และ ๙๒ ได้ทันต่อปี
สำหรับการให้สัตยาบันในเรื่องต่าง ๆ นั้นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบถึง
ความพร้อมของประเทศไทยในการที่จะนำบทบัญญัติของอนุสัญญามาใช้ปฏิบัติ ตลอดจนความจำเป็นที่จะต้องตรา
หรือแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญา เพราะการให้สัตยาบันอนุสัญญาใดก็ตามเท่ากับเป็นการยอมรับใน
กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนั้น และต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของอนุสัญญานั้น ๆ ได้ทุกมาตรา
ส่วนในเรื่องของแรงงานภาคเกษตรและแรงงานที่รับไปทำที่บ้าน ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบนั้น ขณะนี้
กระทรวงแรงงานได้มีการพิจารณาโดยมีการจัดการสัมมนาทั่วประเทศ และได้
มอบหมายให้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชทำการวิจัยในเรื่องของการที่จะดำเนินการต่อไป
และผลการวิจัยจะเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคมนี้
ที่ประชุมรับทราบ
- รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๖
ก่อนที่สมาชิกฯ อภิปราย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งให้เลื่อนการรับทราบรายงาน
ดังกล่าวไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๑
(สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
พักการประชุมเวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา
ต่อจากนั้น ในเวลา ๑๓.๓๕ นาฬิกา ได้มีการพิจารณากระทู้ต่าง ๆ คือ
กระทู้ถามสด จำนวน ๓ เรื่อง
๑. กระทู้ถามสดของนายธานินทร์ ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง นโยบายการจัดที่ดินทำกิน ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่ง
นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตอบกระทู้ว่า จากการดำเนินการ
จัดที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการประกาศให้ประชาชนทั่วประเทศ
ขึ้นทะเบียนคนจนนั้น ในปัจจุบันได้มีประชาชนมาขึ้นทะเบียนแจ้งความประสงค์ว่า ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง
ประมาณ ๑,๓๐๐,๐๐๐ ราย ทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินการจัดที่ทำกินนั้นจะแยกออกเป็น ๔ ส่วน ได้แก่
พื้นที่ป่าที่มีสภาพเสื่อมโทรม พื้นที่สงวนหวงห้ามของทางราชการ พื้นที่ซึ่งไม่มีการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินและ
อยู่ในระหว่างการรังวัดออกเอกสารสิทธิ์ให้ประชาชน รวมทั้งที่สาธารณประโยชน์ หรือทำเลเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ใน
ความดูแลของกระทรวงมหาดไทย โดยจะเข้าไปตรวจสอบและจัดสรรสิทธิ์ ให้แก่ประชาชนตามความเหมาะสม
ตรงไปตรงมา และไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้จะคำนึงถึงบุคคล ซึ่งอยู่ในพื้นที่และมีภูมิลำเนาในพื้นที่นั้น ๆ
รวมถึงระยะเวลาที่เคยทำกินในพื้นที่นั้น ๆ เป็นหลัก
๒. กระทู้ถามสดของนายบุญพันธ์ แขวัฒนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การระเบิดของโรงงานผลิตพลุและ
ดอกไม้เพลิง ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้ตอบกระทู้ว่า ในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิด และยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด ซึ่งกำลัง
อยู่ในระหว่างการสอบสวน และหากมีความคืบหน้าประการใดก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจาก
ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้มีการเพิ่มมาตรการและกำชับให้
ทุกจังหวัดเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยในการพิจารณาออกใบอนุญาตหรือต่อใบอนุญาตนั้น
ให้นายทะเบียนท้องที่รับทราบข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มาประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนการตรวจสอบนั้นได้ให้นายทะเบียนท้องที่กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวด
ไม่ให้มีการลักลอบทำหรือค้าดอกไม้เพลิง รวมทั้งกวดขันร้านที่จำหน่ายสินค้าดังกล่าวด้วย สำหรับมาตรการ
ในการออกใบอนุญาตนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้มีมาตรการเข้มงวดมาโดยตลอด โดยพิจารณาถึงฐานะ
และคุณสมบัติของผู้ขอ รวมทั้งสถานที่ตั้งต้องปลอดภัยจากอัคคีภัยและห่างไกลจากชุมชนตามที่กฎหมายกำหนดไว้
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบจำนวนดอกไม้เพลิงที่มีอยู่ให้ตรงตามบัญชีรายเดือน
ที่ผู้ประกอบการรายงานแก่นายทะเบียนท้องที่ ซึ่งต้องระบุแหล่งที่มา ปริมาณ และยอดคงเหลือ
ของดอกไม้เพลิงในแต่ละเดือน ตลอดจนต้องอยู่ในเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตด้วย สำหรับกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องและใช้ในปัจจุบันนี้ได้ออกมาเป็นเวลานานแล้ว และกฎหมายแต่ละฉบับก็เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม ซึ่งรัฐบาล
ก็สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ให้ชัดเจน
และรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามสำหรับข้อสังเกต
และข้อเสนอแนะต่าง ๆ นั้น จะได้นำไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
๓. กระทู้ถามสดของนายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ความไม่โปร่งใสในโครงการ เช่า CPU เมนเฟรม และ
ระบบปฏิบัติการ OS / ๓๙๐, Z / VM และ Linux เพื่อทดแทนของสำนักงานประกันสังคม ถาม
นายกรัฐมนตรี ซึ่งนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ตอบกระทู้ว่า สำนักงาน
ประกันสังคมได้นำระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการปฏิบัติงานตั้งแต่ปี ๒๕๓๓ และระบบสารสนเทศ
ก็ถูกออกแบบให้ใช้คอมพิวเตอร์ระบบเมนเฟรมเท่านั้น โดยในปี ๒๕๓๓-๒๕๔๔ สำนักงานประกันสังคม
ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ระบบเมนเฟรม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็ม และต่อมาในปี ๒๕๔๔ ได้เปลี่ยน
ยี่ห้อมาเป็นอัมดาล ซึ่งมีสัญญาเช่าเป็นเวลา ๓ ปี และได้สิ้นสุดสัญญาไปเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๗
โดยเหตุที่ต้องทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่นั้น เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบเมนเฟรมของคู่สัญญาในปัจจุบัน
คือ ยี่ห้ออัมดาลได้เลิกการผลิตไปแล้ว นอกจากนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทใหม่ คือ
ไอบีเอ็ม นั้น ก็สามารถประมวลผลข้อมูลได้มากกว่าเครื่องเดิมถึง ๒ เท่า ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น
รวมทั้งยังมีความสามารถในการขยายสมรรถนะ เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตที่มีประสิทธิภาพ
สูงกว่า ซึ่งจะนำไปสู่ระบบเปิดได้ภายใน ๔ ปี ทั้งนี้ การดำเนินการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ
เมนเฟรมนั้นได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุทุกขั้นตอน และผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารด้วย
กระทู้ถามทั่วไป จำนวน ๘ เรื่อง
๑. กระทู้ถามของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรค
ไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาที่ดินทำกินป่าวังเพลิง - ม่วงค่อม ถามนายกรัฐมนตรี
ซึ่งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตอบกระทู้ว่า กองทัพบก
ได้ทำหนังสือขอใช้พื้นที่ ๔๔๗,๐๐๐ ไร่ ในปี ๒๕๓๓ และได้เริ่มใช้ในปี ๒๕๓๔ ซึ่งภายหลัง
ได้มีการขอลดการใช้พื้นที่ลงเหลือ ๒๐๐,๐๐๐ กว่าไร่ โดยทางจังหวัดลพบุรีและกองทัพบกได้มีการเจรจา
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ของราษฎรรายย่อย ซึ่งอาศัยทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ทาง
กรมป่าไม้ได้มีการตรวจสอบรังวัดที่ดินของราษฎรแล้วบางส่วน ทำให้ทราบแนวเขตที่
ชัดเจนแล้ว สำหรับพื้นที่ ๆ ยังไม่มีการดำเนินการก็จะเร่งรัดให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้
รัฐบาลได้มีนโยบายในการพิสูจน์สิทธิและการครอบครองที่ดินของราษฎรก่อนกรมป่าไม้ประกาศ
ป่าวังเพลิง - ม่วงค่อม ปี ๒๕๑๒ ด้วย ซึ่งหากครอบครองมาก่อนที่จะมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่
ป่าถาวรหรือป่าสงวน ทางรัฐบาลก็จะกันพื้นที่นั้น ๆ ออกให้ราษฎรสามารถใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินได้
ทั้งนี้จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้มีมาตรการชัดเจนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
และจะนำข้อสังเกตต่าง ๆ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาดำเนินการ
ในส่วนที่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ต่อไป
๒. กระทู้ถามของนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
พรรคชาติพัฒนา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การหลอกขายวัตถุมงคลปลอม และพระเลี่ยมทองคุณภาพต่ำกว่า
ที่ระบุให้นักท่องเที่ยว ถามนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากผู้ตั้งกระทู้ถามไม่ติดใจที่จะถาม ดังนั้นกระทู้ถามดังกล่าวจึงตกไป
๓. กระทู้ถามของนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวหรือ
ชาวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีได้รับมอบหมายป่วยกะทันหัน
จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๔. กระทู้ถามของนายโสภณ เพชรสว่าง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งรัฐมนตรีป่วยกะทันหัน จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๕. กระทู้ถามของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การก่อสร้างที่จอดเรือบริเวณหน้าถ้ำมรกต ถามรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งรัฐมนตรีป่วยกะทันหัน จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้
ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๖. กระทู้ถามของนายเชน เทือกสุบรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ ถามนายกรัฐมนตรี
ซึ่งรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุม
สภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๗. กระทู้ถามของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ
พรรคชาติพัฒนา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการบริหารงบประมาณในกระทรวงสาธารณสุข
ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามนี้
ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
๘. กระทู้ถามของพันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ขอให้ขยายขนาดโรงพยาบาล
ปากช่องนานา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบ
กระทู้ถามนี้ไปตอบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบวาระที่ ๗ เรื่องอื่น ๆ คือ การเลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ
เพื่อเป็นกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภาแทนตำแหน่งที่ว่างลง ๓ ตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๙ เนื่องจากนายวิลาศ สิงหวิสัย ศาสตราจารย์ ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล
และศาสตราจารย์ ติน ปรัชญพฤทธิ์ กรรมการ ก.ร. ผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร
ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๗ ทำให้ตำแหน่งกรรมการข้าราชการ
ฝ่ายรัฐสภาว่างลง ๓ ตำแหน่ง ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรต้องดำเนินการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นแทนตำแหน่ง
ที่ว่างภายใน ๓๐ วัน ทั้งนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ตามมาตรา ๗ ก่อนกำหนดวันเลือกตั้ง จำนวน ๓ ท่าน คือ นายวิลาศ สิงหวิสัย ศาสตราจารย์ ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล
และศาสตราจารย์ ติน ปรัชญพฤทธิ์ สำหรับท่านที่ ๔ คือ รองศาสตราจารย์ ดร.อุดม ทุมโฆสิต นั้น
ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๗ ดังนั้นจึงพิจารณาเพียง ๓ ท่าน ข้างต้น
โดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา มาตรา ๑๐ บัญญัติว่าในการ เลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการ
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประธานรัฐสภากำหนด ซึ่งได้มีประกาศประธานรัฐสภา
ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๓๕ กำหนดให้นำข้อบังคับว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมาธิการสามัญมาใช้บังคับแก่
การเลือกตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโดยอนุโลม และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ข้อ ๘๑ วรรคท้าย กำหนดว่าการออกเสียงลงคะแนน เลือกตั้งคณะกรรมาธิการ ถ้ามีการเสนอชื่อ
กรรมาธิการเท่ากับจำนวนกรรมาธิการทั้งหมดให้ถือว่า ผู้ถูกเสนอชื่อนั้นเป็นผู้ได้รับเลือก
ถ้ามีการเสนอชื่อมากกว่าจำนวนกรรมาธิการทั้งหมดให้ออกเสียง ลงคะแนนเป็นความลับ
ทั้งนี้เมื่อสมาชิกเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม จำนวน ๓ ท่าน ดังกล่าว
ซึ่งไม่เกินจำนวนตำแหน่งที่ว่างลง จึงถือว่าผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง ๓ ท่าน เป็น
ผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
ปิดประชุมเวลา ๑๕.๑๕ นาฬิกา
------------------------------------------------------
กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักประชาสัมพันธ์