กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดึงผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทยมุ่งสู่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อหาลู่ทางการค้า ขยายโอกาสลงทุน สอดรับการเปิดเสรีทางการค้าไทย-ออสเตรเลียที่จะมีขึ้น 1 ม.ค. ปี 48 วางแผนดันกลุ่ม SMEs ชิ้นส่วนยานยนต์นำร่อง ก่อนส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นที่มีศักยภาพพร้อมตีตลาดออสซี่ระลอกสอง ขณะที่บรรดานักธุรกิจออสเตรเลียตื่นตัวพร้อมร่วมสัมมนากับผู้ประกอบการไทยจำนวนมาก
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีการเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2548 และ เพื่อให้มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ทางสถานทูตไทยประจำประเทศออสเตรเลีย ร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดการสัมมนาระหว่างผู้ประกอบการกิจการอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ไทย-ออสเตรเลียขึ้น ในระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2547 ณ นครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้นำคณะนักธุรกิจไทย และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ โดยภาคธุรกิจจะอยู่ในส่วนของผู้ประกอบการอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ไทยจำนวนกว่า 19 บริษัท โดยมี นาย Tim Holding รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม แห่งรัฐวิกตอเรียให้การต้อนรับ
"การเดินทางไปร่วมสัมมนาครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยได้ทำความตกลงเปิด FTA กับออสเตรเลีย ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2548 กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นว่า สินค้าอุตสาหกรรมในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์จาก FTA อย่างมาก โดยเฉพาะ กลุ่มอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในความต้องการตลาดรถยนต์ของออสเตรเลีย ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงมุ่งส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม [ SMEs
] ให้สามารถพัฒนาศักยภาพ ทั้งโครงสร้างการผลิตและการลงทุน สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์จัดเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมนำร่องก่อนที่จะขยายโอกาสสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆต่อไป"นางชุตาภรณ์กล่าว
ทั้งนี้ ในการสัมมนาดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศเข้าร่วมกว่า 110 คน โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ของออสเตรเลียที่ให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนากว่า 32 บริษัท และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก นอกจากนี้ ในการเดินทางเยือนออสเตรเลีย ผู้ประกอบการฝ่ายไทยจะมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตอุปกรณ์รถยนต์ของออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด อันจะเป็นการแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีการผลิต เพื่อนำมาพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีการเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2548 และ เพื่อให้มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ทางสถานทูตไทยประจำประเทศออสเตรเลีย ร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดการสัมมนาระหว่างผู้ประกอบการกิจการอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ไทย-ออสเตรเลียขึ้น ในระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2547 ณ นครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้นำคณะนักธุรกิจไทย และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ โดยภาคธุรกิจจะอยู่ในส่วนของผู้ประกอบการอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ไทยจำนวนกว่า 19 บริษัท โดยมี นาย Tim Holding รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม แห่งรัฐวิกตอเรียให้การต้อนรับ
"การเดินทางไปร่วมสัมมนาครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยได้ทำความตกลงเปิด FTA กับออสเตรเลีย ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2548 กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นว่า สินค้าอุตสาหกรรมในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์จาก FTA อย่างมาก โดยเฉพาะ กลุ่มอุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในความต้องการตลาดรถยนต์ของออสเตรเลีย ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงมุ่งส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม [ SMEs
] ให้สามารถพัฒนาศักยภาพ ทั้งโครงสร้างการผลิตและการลงทุน สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์จัดเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมนำร่องก่อนที่จะขยายโอกาสสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆต่อไป"นางชุตาภรณ์กล่าว
ทั้งนี้ ในการสัมมนาดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศเข้าร่วมกว่า 110 คน โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ของออสเตรเลียที่ให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนากว่า 32 บริษัท และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก นอกจากนี้ ในการเดินทางเยือนออสเตรเลีย ผู้ประกอบการฝ่ายไทยจะมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตอุปกรณ์รถยนต์ของออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด อันจะเป็นการแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีการผลิต เพื่อนำมาพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-