SME ที่สร้างแบรนด์ขึ้นมาแล้วสามารถทำการตลาดได้ จนสินค้าติดตลาด และเป็นที่รู้จักของผู้ซื้อ คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สินค้านั้นจะโดนลอกเลียนแบบจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพราะปัจจุบันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเรื่องที่พบเห็นกันตลอด แม้ว่าภาครัฐจะพยายามแก้ไขด้วยการออกกฏหมายเพิ่มเติม และมีนโยบายที่ทำให้การคุ้มครองสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทำได้ง่ายขึ้น
การดำเนินคดีต่อผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการลอกแบบหรือเลียนแบบ ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดอาญาอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือสิทธิบัตร ก็เหมือนกับการดำเนินคดีทั่วๆ ไป คือสามารถทำได้โดยเจ้าของสิทธิทำการฟ้องคดีเอง หรือผ่านทางหน่วยงานของรัฐ คือการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงแต่ต้องมีการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อผู้ประกอบการทั่วไปรวมถึงผู้ประกอบการ SME พบว่างานอันมีลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าที่ใช้กับสินค้า หรือสินค้าที่เราผลิตหรือสินค้าที่มีสิทธิบัตรถูกลอกเลียนแบบ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเก็บตัวอย่างสินค้าที่เห็นว่าน่าจะละเมิดสิทธิ เพื่อนำมาตรวจสอบว่าเป็นสินค้าที่ทำเลียนแบบหรือเป็นสินค้าที่มีผู้นำมาขายต่ออีกทอดหนึ่งหรือไม่ ถ้าไม่สะดวกเก็บตัวอย่าง ก็ใช้วิธีจดรายละเอียดสินค้าและผู้ขายไว้ เพื่อตรวจสอบในลักษณะเดียวกัน หรือใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้ว มั่นใจว่าสินค้าที่พบเป็นของเลียนแบบ ควรทำรายการแยกแยะความแตกต่างระหว่างสินค้าและของเลียนแบบ เพื่อความสะดวกในการอ้างถึง จัดเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ที่แสดงว่าเราเป็นเจ้าของสิทธิที่แท้จริง เช่น หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร หลักฐาน การจดแจ้งลิขสิทธิ์ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการขั้นต่อไป ในกรณีการลอกเลียนแบบงานประดิษฐ์ งานออกแบบซึ่งอาจได้รับความคุ้มครองเมื่อมีสิทธิบัตรนั้น ถ้าไม่ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรก่อนแล้ว ก็จะไม่สามารถดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบสินค้าได้เลย ไม่ว่างานประดิษฐ์นั้นจะมีความสลับซับซ้อนแค่ไหน และเจ้าของสิทธิบัตรจะดำเนินคดีต่อผู้ละเมิดสิทธิของตนได้ก็ต่อเมื่อได้รับสิทธิบัตรแล้วเท่านั้น ส่วนคนที่ยื่นขอรับสิทธิบัตรแต่อยู่ระหว่างการดำเนินการก็ต้องคอยเก็บรายละเอียดการขายและรายละเอียดของผู้ที่ลอกเลียนแบบงานของเรา เพื่อเรียกค่าเสียหายเมื่อได้รับสิทธิบัตรแล้ว และถ้าได้รับสิทธิบัตรแล้วผู้ละเมิดยังคงลอกเลียนงานเราต่อไปเรื่อยๆ เจ้าของสิทธิจะสามารถดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมได้อีกส่วนหนึ่ง
กรณีเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้นั้น จะทำให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าเสียสิทธิในการดำเนินคดีของตนไปบางส่วน คือไม่สามารถเรียกค่าเสียหายจากผู้ลอกเลียนแบบได้ และไม่สามารถดำเนินคดีอาญาแก่ผู้เลียนแบบเครื่องหมายการค้าของตนได้โดยตรง แต่จะดำเนินคดีอาญาต่อผู้ลอกเลียนแบบได้ โดยมีการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของสิทธิและความแพร่หลายของเครื่องหมายการค้าของตนเพิ่มขึ้น จากการใช้ประโยชน์ที่ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ นอกจากนี้โทษของผู้กระทำความผิดซึ่งลอกเลียนเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้นั้นจะเบากว่าโทษของการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้ว และการกระทำความผิดดังกล่าวสามารถยอมความกันได้ หมายความว่าเจ้าของเครื่องหมายการค้าจะต้องดำเนินคดีกับผู้ลอกเลียนแบบหรือผู้ขายภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้ว่ามีผู้ลอกเลียนแบบหรือขายสินค้าที่เลียนแบบเครื่องหมายการค้าของตนในแต่ละครั้ง สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการเลียนแบบอันมีลิขสิทธิ์อีกอย่างหนึ่งก็คือการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดซึ่งสามารถยอมความกันได้ ทำให้เจ้าของสิทธิต้องดำเนินคดีกับผู้เลียนแบบภายใน 3 เดือน
กรณีที่เจ้าของสิทธิต้องการดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบ ต้องดำเนินการผ่านทนายความ ซึ่งจะมีประโยชน์ในแง่การปรึกษาแนวทางความเป็นไปได้เบื้องต้นในการดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบและสามารถขยายผลการสืบหาต้นตอผู้กระทำความผิดได้ โดยการจ้างนักสืบตรวจสอบเพื่อดำเนินการกับตัวการที่แท้จริง และมีประโยชน์ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไปได้ ซึ่งจะดีกว่าการเรียกค่าเสียหายเอากับผู้ขายที่ไม่ใช่ตัวการใหญ่ การดำเนินคดีด้วยตัวเองนี้กฏหมายเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายหรือเจ้าของสิทธิดำเนินการเพื่อเก็บหลักฐาน รวมทั้งการขออำนาจศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิของตนได้ก่อนการฟ้องคดี เป็นแนวทางใหม่ที่แตกต่างจากคดีทั่วๆไป และเป็นประโยชน์ในกรณีที่เจ้าของสิทธิไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลที่ตนทราบมา เพราะไม่แน่ใจในการทำงานของตำรวจ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบ ต้องใช้เวลานานกว่าการแจ้งศาลร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน คือตำรวจ เพราะมีกระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฏหมายเพิ่มเติมจากการดำเนินงานของตำรวจและอัยการ และมีค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยเฉพาะการวางเงินประกันความเสียหาย เมื่อต้องการขออำนาจศาลเพื่อตรวจสอบ หรือห้ามไม่ให้ผู้เลียนแบบขายสินค้าที่ทำเลียนแบบ แต่วิธีการดำเนินการที่ได้ผลที่สุดคือ การใช้ประโยชน์จากกรณีที่กล่าวข้างต้น เมื่อทราบว่าถูกเลียนแบบควรปรึกษาทนายความเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินคดีอย่างไร ต้องสืบหาต้นตอ
ผู้กระทำความผิดมากน้อยแค่ไหน พอได้ข้อมูลขั้นต้นตามที่ต้องการแล้ว จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ โดยมีทนายความเป็นผู้จัดเตรียมเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อย และเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับทางพนักงานอัยการ หรือถ้าไม่สามารถดำเนินการกับผู้เลียนแบบในทางอาญาโดยตำรวจได้ ก็จะได้เตรียมการว่าจะดำเนินคดีในทางแพ่งได้อย่างไรบ้าง จะคุ้มค่าใช้จ่ายหรือไม่ ตลอดจนโอกาสในการห้ามไม่ให้ผู้เลียนแบบลอกเลียนแบบสินค้าของเราได้โดยวิธีใดบ้าง เพียงเท่านี้ท่านก็จะดำเนินการกับผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของท่านได้สะดวก รวดเร็ว และเหมาะสมได้ ผู้ประกอบการ SME ที่มีปัญหาในลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามข้อมูลได้จากเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
การดำเนินคดีต่อผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการลอกแบบหรือเลียนแบบ ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดอาญาอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือสิทธิบัตร ก็เหมือนกับการดำเนินคดีทั่วๆ ไป คือสามารถทำได้โดยเจ้าของสิทธิทำการฟ้องคดีเอง หรือผ่านทางหน่วยงานของรัฐ คือการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงแต่ต้องมีการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อผู้ประกอบการทั่วไปรวมถึงผู้ประกอบการ SME พบว่างานอันมีลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าที่ใช้กับสินค้า หรือสินค้าที่เราผลิตหรือสินค้าที่มีสิทธิบัตรถูกลอกเลียนแบบ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเก็บตัวอย่างสินค้าที่เห็นว่าน่าจะละเมิดสิทธิ เพื่อนำมาตรวจสอบว่าเป็นสินค้าที่ทำเลียนแบบหรือเป็นสินค้าที่มีผู้นำมาขายต่ออีกทอดหนึ่งหรือไม่ ถ้าไม่สะดวกเก็บตัวอย่าง ก็ใช้วิธีจดรายละเอียดสินค้าและผู้ขายไว้ เพื่อตรวจสอบในลักษณะเดียวกัน หรือใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้ว มั่นใจว่าสินค้าที่พบเป็นของเลียนแบบ ควรทำรายการแยกแยะความแตกต่างระหว่างสินค้าและของเลียนแบบ เพื่อความสะดวกในการอ้างถึง จัดเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ที่แสดงว่าเราเป็นเจ้าของสิทธิที่แท้จริง เช่น หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร หลักฐาน การจดแจ้งลิขสิทธิ์ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการขั้นต่อไป ในกรณีการลอกเลียนแบบงานประดิษฐ์ งานออกแบบซึ่งอาจได้รับความคุ้มครองเมื่อมีสิทธิบัตรนั้น ถ้าไม่ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรก่อนแล้ว ก็จะไม่สามารถดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบสินค้าได้เลย ไม่ว่างานประดิษฐ์นั้นจะมีความสลับซับซ้อนแค่ไหน และเจ้าของสิทธิบัตรจะดำเนินคดีต่อผู้ละเมิดสิทธิของตนได้ก็ต่อเมื่อได้รับสิทธิบัตรแล้วเท่านั้น ส่วนคนที่ยื่นขอรับสิทธิบัตรแต่อยู่ระหว่างการดำเนินการก็ต้องคอยเก็บรายละเอียดการขายและรายละเอียดของผู้ที่ลอกเลียนแบบงานของเรา เพื่อเรียกค่าเสียหายเมื่อได้รับสิทธิบัตรแล้ว และถ้าได้รับสิทธิบัตรแล้วผู้ละเมิดยังคงลอกเลียนงานเราต่อไปเรื่อยๆ เจ้าของสิทธิจะสามารถดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมได้อีกส่วนหนึ่ง
กรณีเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้นั้น จะทำให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าเสียสิทธิในการดำเนินคดีของตนไปบางส่วน คือไม่สามารถเรียกค่าเสียหายจากผู้ลอกเลียนแบบได้ และไม่สามารถดำเนินคดีอาญาแก่ผู้เลียนแบบเครื่องหมายการค้าของตนได้โดยตรง แต่จะดำเนินคดีอาญาต่อผู้ลอกเลียนแบบได้ โดยมีการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของสิทธิและความแพร่หลายของเครื่องหมายการค้าของตนเพิ่มขึ้น จากการใช้ประโยชน์ที่ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ นอกจากนี้โทษของผู้กระทำความผิดซึ่งลอกเลียนเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้นั้นจะเบากว่าโทษของการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้ว และการกระทำความผิดดังกล่าวสามารถยอมความกันได้ หมายความว่าเจ้าของเครื่องหมายการค้าจะต้องดำเนินคดีกับผู้ลอกเลียนแบบหรือผู้ขายภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้ว่ามีผู้ลอกเลียนแบบหรือขายสินค้าที่เลียนแบบเครื่องหมายการค้าของตนในแต่ละครั้ง สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการเลียนแบบอันมีลิขสิทธิ์อีกอย่างหนึ่งก็คือการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดซึ่งสามารถยอมความกันได้ ทำให้เจ้าของสิทธิต้องดำเนินคดีกับผู้เลียนแบบภายใน 3 เดือน
กรณีที่เจ้าของสิทธิต้องการดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบ ต้องดำเนินการผ่านทนายความ ซึ่งจะมีประโยชน์ในแง่การปรึกษาแนวทางความเป็นไปได้เบื้องต้นในการดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบและสามารถขยายผลการสืบหาต้นตอผู้กระทำความผิดได้ โดยการจ้างนักสืบตรวจสอบเพื่อดำเนินการกับตัวการที่แท้จริง และมีประโยชน์ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไปได้ ซึ่งจะดีกว่าการเรียกค่าเสียหายเอากับผู้ขายที่ไม่ใช่ตัวการใหญ่ การดำเนินคดีด้วยตัวเองนี้กฏหมายเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายหรือเจ้าของสิทธิดำเนินการเพื่อเก็บหลักฐาน รวมทั้งการขออำนาจศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิของตนได้ก่อนการฟ้องคดี เป็นแนวทางใหม่ที่แตกต่างจากคดีทั่วๆไป และเป็นประโยชน์ในกรณีที่เจ้าของสิทธิไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลที่ตนทราบมา เพราะไม่แน่ใจในการทำงานของตำรวจ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีต่อผู้เลียนแบบ ต้องใช้เวลานานกว่าการแจ้งศาลร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน คือตำรวจ เพราะมีกระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฏหมายเพิ่มเติมจากการดำเนินงานของตำรวจและอัยการ และมีค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยเฉพาะการวางเงินประกันความเสียหาย เมื่อต้องการขออำนาจศาลเพื่อตรวจสอบ หรือห้ามไม่ให้ผู้เลียนแบบขายสินค้าที่ทำเลียนแบบ แต่วิธีการดำเนินการที่ได้ผลที่สุดคือ การใช้ประโยชน์จากกรณีที่กล่าวข้างต้น เมื่อทราบว่าถูกเลียนแบบควรปรึกษาทนายความเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินคดีอย่างไร ต้องสืบหาต้นตอ
ผู้กระทำความผิดมากน้อยแค่ไหน พอได้ข้อมูลขั้นต้นตามที่ต้องการแล้ว จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ โดยมีทนายความเป็นผู้จัดเตรียมเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อย และเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับทางพนักงานอัยการ หรือถ้าไม่สามารถดำเนินการกับผู้เลียนแบบในทางอาญาโดยตำรวจได้ ก็จะได้เตรียมการว่าจะดำเนินคดีในทางแพ่งได้อย่างไรบ้าง จะคุ้มค่าใช้จ่ายหรือไม่ ตลอดจนโอกาสในการห้ามไม่ให้ผู้เลียนแบบลอกเลียนแบบสินค้าของเราได้โดยวิธีใดบ้าง เพียงเท่านี้ท่านก็จะดำเนินการกับผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของท่านได้สะดวก รวดเร็ว และเหมาะสมได้ ผู้ประกอบการ SME ที่มีปัญหาในลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามข้อมูลได้จากเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-