สรุปภาวะการค้าไทย-ญี่ปุ่นระหว่างเดือน ม.ค.- ก.ย.2548

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 14, 2005 12:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ญี่ปุ่นเป็นตลาดนำเข้าสำคัญอันดับ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐฯ จีน โดยมีมูลค่าการนำเข้า 
335,802,044,714 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.63 (ม.ค.-ส.ค. 2548) ปี 2547 ญี่ปุ่นเป็นตลาดนำเข้า
สำคัญอันดับ 6 ของโลก รองจาก สหรัฐเยอรมนี จีน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยมีมูลค่าการนำเข้า
455,661.441 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.86
2. แหล่งนำเข้าสำคัญของญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม — กันยายน 2548
- จีน มูลค่า 80,272.010 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 21.10 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.54
- สหรัฐฯ มูลค่า 48,225.759 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 12.67 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.91
- ซาอุดิฯ มูลค่า 19,954.517 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 5.24 เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.61
- ออสเตรเลีย มูลค่า 17,785.896 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 4.67 เพิ่มขึ้นร้อยละ25.59
ไทยอยู่อันดับที่ 10 มูลค่า 11,650.978 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 3.06 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.28
3. ดุลการค้า ประเทศญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าในเดือนมกราคม — กันยายน 2548 เป็นมูลค่า 59,914.348
ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 28.07 ดังตัวอย่างสถิติต่อไปนี้
ตารางเปรียบเทียบดุลการค้าของประเทศญี่ปุ่นเดือนมกราคม — กันยายน 2548
ลำดับที่ ประเทศ 2546 2547 2548 อัตราการเปลี่ยนแปลง(%)
มูลค่า: ล้านเหรียญ สหรัฐ 47/46 48/47
ทั่วโลก 59,304.34 83,299.78 59,914.35 40.46 -28.07
1 สหรัฐฯ 41,103.15 46,662.74 50,558.89 13.53 8.35
2 ฮ่องกง 20,291.05 25,137.95 25,426.63 23.89 1.15
3 จีน -13,310.86 -13,915.21 -22,308.43 4.54 60.32
4 ไต้หวัน 11,122.25 17,991.26 19,605.34 61.76 8.97
5 ซาอุดิอาระเบีย -8,154.31 -9,796.99 -16,887.46 20.15 72.37
16 ไทย 2,864.91 4,374.26 5,278.13 52.68 20.66
ที่มา : WTA Japan Customs
4. ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 2 ของไทยโดยมีสัดส่วนการส่งออกไปตลาดนี้ร้อยละ 13.85 ของมูลค่า
การส่งออกโดยรวมในเดือนมกราคม - กันยายน 2548
การส่งออกสินค้าไทยไปญี่ปุ่นในเดือน มกราคม - กันยายน 2548 มีมูลค่า 11,358.75 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.81 หรือคิดเป็นร้อยละ 69.89 ของเป้าหมายการส่งออกที่มูลค่า 16,252 ล้านเหรียญสหรัฐ
5. สินค้าไทยส่งออกไปญี่ปุ่นในเดือนมกราคม — กันยายน 2548 25 อันดับแรกมีสัดส่วนรวมกันร้อยละ 61.87
ของมูลค่าการส่งออกโดยรวมไปตลาดนี้ สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า ร้อยละ 100 มี 2 รายการ สินค้าที่มีมูลค่า
เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 มี 3 รายการ และสินค้าที่มีมูลค่าลดลงมากกว่าร้อยละ 20 มี 1 รายการ ดังสถิติ
ต่อไปนี้
สถิติการส่งออกสินค้าไทยไปญี่ปุ่นที่มีมูลค่าการเปลี่ยนแปลงสูง
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าการ %เปลี่ยนแปลง สัดส่วน : ร้อยละ2548
ตลาด อันดับที่ เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลง 2547 ม.ค.-ก.ย
ม.ค.-ก.ย 47 ม.ค.-ก.ย 48
1. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
มากกว่าร้อยละ 100 มี 2 รายการ
- เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 8 130.81 262.09 131.28 100.35 1.19 2.31
- เม็ดพลาสติก 21 77.24 169.34 92.10 119.23 0.93 1.49
2. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
มากกว่าร้อยละ 50 มี 2 รายการ
- แผงวงจรไฟฟ้า 1 513.38 778.04 264.66 51.55 5.58 6.85
- ไก่แปรรูป 11 162.00 244.03 82.03 50.63 1.89 2.15
- เครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า 23 103.22 156.20 52.98 51.33 1.09 1.38
3. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นลดลง
มากกว่าร้อยละ 20 มี 2 รายการ
- อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด 7 391.83 271.94 -119.89 -30.60 3.58 2.39
รวบรวมโดย : ศูนย์สารสนเทศการค้าระหว่างประเทศ
จากสถิติการส่งออกดังกล่าวมีข้อสังเกต ดังนี้
1) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (HS 8415) Air Conditioning
- การนำเข้าของญี่ปุ่น (ม.ค-ก.ย 48) มูลค่า 1,146.247 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ
33.23 มีการนำเข้าจาก จีน ไทย มาเลเซีย เป็นหลัก
- การนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 2 สัดส่วนร้อยละ 23.90 มูลค่า 273.891 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.55
2) เม็ดพลาสติก (HS. 3901) Ethylene, Primary Form
- การนำเข้าของญี่ปุ่น (ม.ค-ก.ย 48) มูลค่า 236.346 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ
46.17 มีการนำเข้าจาก สหรัฐฯ ซาอุดิอาระเบีย ไทย เป็นหลัก
- การนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 3 สัดส่วนร้อยละ 17.09 มูลค่า 40.380 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 149.52
3) แผงวงจรไฟฟ้า (HS. 8542) Integrated Circuits
- การนำเข้าของญี่ปุ่น (ม.ค-ก.ย 48) มูลค่า 13,579.919 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ
3.53 มีการนำเข้าจาก ไต้หวัน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ เป็นหลัก
- การนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 8 สัดส่วนร้อยละ 3.080มูลค่า 406.895 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.40
4) ไก่แปรรูป (HS. 160232) O Chick Prepar / pres.
- การนำเข้าของญี่ปุ่น (ม.ค-ก.ย 48) มูลค่า 778.707 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ
58.68 มีการนำเข้าจาก จีน ไทย และบราซิล เป็นหลัก
- การนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 2 สัดส่วนร้อยละ 44.49 มูลค่า 346.448 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.96
5) เครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า (HS. 8536) ELECTRICAL APPARATUS FOR
SWITCHING ETC, NOV 1,000 V
- การนำเข้าของญี่ปุ่น (ม.ค-ก.ย 48) มูลค่า 1,641.197 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ
8.83 มีการนำเข้าจาก จีน สหรัฐฯ และไทย เป็นหลัก
- การนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 3 สัดส่วนร้อยละ 7.64 มูลค่า 125.332 ล้านเหรียญสหรัฐ
ลดลงร้อยละ 3.96
6) อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด (HS. 8541) Semi Con DV ; L — EMT Diod
- การนำเข้าของญี่ปุ่น (ม.ค-ก.ย 48) มูลค่า 1,899.726 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ
6.64 มีการนำเข้าจาก จีน มาเลเซีย สหรัฐฯ เป็นหลัก
- การนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 5 สัดส่วนร้อยละ 10.18 มูลค่า 193.394 ล้านเหรียญสหรัฐ
ลดลงร้อยละ 1.88
6. ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าระหว่างไทย — ญี่ปุ่น
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยรายงาน เศรษฐกิจญี่ปุ่นว่ามีแนวโน้มเติบโตในทางบวก
ส่วนหนึ่งจากความต้องการของภาคธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ ช่วยชดเชยภาคการส่งออก ที่อ่อนตัว
ลงกว่าที่คาดไว้เช่นกัน ทำให้มีความเป็นไปได้ที่บีโอเจอาจหยุดการดำเนินนโยบายการเงินแบบคลายตัวภายในปี
งบประมาณหน้าที่จะเริ่มในเดือนเมษายน 2549 สะท้อนสัญญาณการสิ้นสุดของภาวะเงินฝืดที่ญี่ปุ่นเผชิญมาเป็นเวลา
นานกว่า 7 ปี นอกจากนี้บีโอเจยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี งบประมาณ 2548
ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2549 ไปอยู่ที่ 2.2% จากเดิมที่คาดไว้ที่ประมาณ 1.3% และคาดว่าอัตราการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในปี 2549 จะอยู่ที่ประมาณ 1.8%
รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น นายซาดาคาซึ ทานิกาคิ แสดงความหวั่นเกรงว่าหากบีโอเจปรับเพิ่มดอกเบี้ย
ในอนาคตอาจส่งผลให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรเพื่อทำกำไร รวมถึงหนี้ที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 264 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วน 151% ของ
ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ภายในประเทศในเดือนมีนาคม 2549
ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพ) นายคุโรดะ อะซึโอะ
กล่าวว่าปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากร้านอาหารญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นใน
กรุงเทพฯ กว่า 400 ร้าน ส่วนหนึ่งเนื่องจากอาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความหลากหลาย ด้วยเหตุนี้
กระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงของญี่ปุ่นจึงได้มอบหมายให้เจโทรจัดงานส่งเสริมสินค้าเกษตรของญี่ปุ่น
"Japan Food Fair 2005" ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-11 ธันวาคม 2548 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เพื่อผลักดันให้เกิดการบริโภคอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้งานดังกล่าวถือเป็นงานใหญ่ที่กระทรวงเกษตรฯ
จัดขึ้นใน 5 ประเทศทั่วโลก
ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ เกาหลีใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีน และไทย โดยปัจจุบันญี่ปุ่นถือว่า
ไทยเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 6 ซึ่งสินค้าที่ทำรายได้ให้กับญี่ปุ่นมากที่สุดคือ ปลาทูน่า แป้งข้าว-สาลี ไข่มุก
(เครื่องประดับ) และปลาป่น ในขณะที่ไทยส่งออก ไก่แปรรูป ผัก ผลไม้ และกุ้ง เป็นสินค้าหลัก ไปญี่ปุ่น
ผู้แทนการค้าไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เปิดเผยว่าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2548
จะนำคณะเจ้าหน้าที่ไทย ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เดินทาง
ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อพบกับบริษัทเอกชนหลายรายของญี่ปุ่น อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า ฯลฯ เพื่อชักชวนให้มาลงทุน
ในประเทศไทย ภายหลังจากที่ไทยกำหนดจะขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ฮับ) โดยจะเน้นการ
ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ไฮบริค ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ อุปกรณ์ในรถยนต์ และเครื่องยนต์ไฮบริค ที่ต้องใช้การผลิต
เฉพาะ นอกจากนี้ยังจะมีการหารือกับภาคเอกชนเกี่ยวกับสินค้าเกษตร โดยจะเน้นการดึงเข้ามาลงทุนในสินค้า
เกษตรร่วมกัน เพื่อพัฒนา ศักยภาพการผลิตของไทยให้เข้าตลาดสินค้าเกษตรญี่ปุ่นได้ ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี
(เอฟทีเอ) ของสองประเทศที่กำลังจะมีผลบังคับใช้
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เปิดเผยถึงความ
ร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นในการพัฒนาสินค้าโอทอป โดยญี่ปุ่นต้องการจะยกระดับกลุ่มสมาชิกให้เป็นสถาบันการพัฒนา
สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งเอเซีย โดยคาดว่าจะจัดตั้งได้ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีประเทศไทยคอย
ให้ความช่วยเหลือ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายกระจายสินค้า ของกลุ่มเอเซีย ด้วยการจัดตั้งเป็นศูนย์จัดจำหน่าย
สินค้า (เอเซียชอป) นอกจากนี้ในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงโครงการเอสเอ็มแอลเข้ากับโอทอปและการท่องเที่ยว
เข้าด้วยกันอีกด้วย
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ