กรุงเทพ--18 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี เกี่ยวกับผลการจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Thailand : Center of Excellent Health of Asia” ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ร่วมกับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคม 2547 ณ โรงแรมเชอราตัน เมืองการาจี ดังนี้
1. การสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากชาวปากีสถาน ซึ่งเป็นผลจากการประชาสัมพันธ์ของสถานกงสุลใหญ่ฯ รวมกับสายการบินคาเธ่ย์ฯ โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณกว่า 200 คน ประกอบด้วย นายแพทย์ นักธุรกิจ สมาชิกสมาคมมิตรภาพ ปากีสถาน-ไทย ผู้บริหารการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ โดยนายประภาส จันทหาร กงสุลใหญ่ฯ และนาย Darayus Happy Minwala ผู้จัดการสายการบินคาเธ่ย์ฯ ได้เป็นผู้กล่าว เปิดงานฯ โดยสรุปความได้ว่า วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาเพื่อให้ชาวปากีสถานได้รับทราบ ถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ของไทย เพื่อเป็นทางเลือกใหม่แก่ชาวปากีสถานที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปรักษาตัวในต่างประเทศแทนที่จะมุ่งไปประเทศตะวันตกเท่านั้น โดยไทยมีจุดเด่นคือเทคโนโลยีทางการแพทย์และอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย บุคลากรทางการแพทย์มีคุณภาพสูง แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าหลายประเทศ รวมทั้งการมีอัธยาศัยไมตรีและเอาใจใส่ต่อผู้ป่วย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการที่ไทยอยู่ไม่ไกลจากปากีสถาน
2. ในการสัมมนาฯ คณะผู้บรรยายจากประเทศไทยได้บรรยายในหัวข้อต่างๆ เช่น (1) ภาพรวมความก้าวหน้าทางวิทยาการการแพทย์ไทย โดย นพ. สุรพงษ์ อำพันวงษ์ ประธานคณะที่ปรึกษาของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทย (2) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเครื่องมือของศัลยกรรมหัวใจ โดย นพ. สันห์ ไชยยศศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ (3) หนทางสู่ความสวยงามด้วยศัลยกรรมความงาม โดย นพ. สมศักดิ์ คุณะชาติ ผู้อำนวยการศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ (4) ยุทธศาสตร์ของไทย ต่อศูนย์กลางความเป็นเลิศทางแพทย์ในภูมิภาคเอเชีย โดย นพ. ทรงยศ ชัยชนะ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และ (5) นโยบายของรัฐบาลในการบริการแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดยนายศุภวิทย์ ถาวรบุตร ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้กล่าวถึงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการตรวจลงตราแก่ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยให้ได้รับความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยในกรณีเร่งด่วนจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
3. สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประเมินการจัดสัมมนาฯ ครั้งนี้ว่า ประสบผลสำเร็จ เป็นที่น่าพอใจ โดยนอกจากการมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนมากแล้ว ภายหลังการสัมมนาได้มี ผู้เข้าร่วมที่เป็นแพทย์และนักธุรกิจหลายคนแสดงความสนใจและได้พบปะหารือกับคณะแพทย์ไทยเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจ โดยในขณะนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับแจ้งว่า โรงพยาบาลเกษมราษฎร์สามารถตกลงกับแพทย์ปากีสถานจำนวน 5 รายในการเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อจัดส่งผู้ป่วยจากปากีสถานมารับการรักษาในไทยแล้ว รวมทั้งสายการบินคาเธ่ย์ฯ ยังได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทย จัดทำข้อเสนอรักษาพยาบาลพร้อมราคาในลักษณะ package โดยนำเสนอบริการภายใต้ชื่อ “We care” แก่ลูกค้า ชาวปากีสถานด้วย รวมทั้งสนใจที่จะจัดคณะแพทย์ปากีสถานเดินทางมาทัศนศึกษาในไทย เป็นหมู่คณะ โดยจะจัดให้ดูงานในโรงพยาบาลเอกชนไทยเพื่อให้เห็นศักยภาพทางการแพทย์ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี เกี่ยวกับผลการจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Thailand : Center of Excellent Health of Asia” ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ร่วมกับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคม 2547 ณ โรงแรมเชอราตัน เมืองการาจี ดังนี้
1. การสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากชาวปากีสถาน ซึ่งเป็นผลจากการประชาสัมพันธ์ของสถานกงสุลใหญ่ฯ รวมกับสายการบินคาเธ่ย์ฯ โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณกว่า 200 คน ประกอบด้วย นายแพทย์ นักธุรกิจ สมาชิกสมาคมมิตรภาพ ปากีสถาน-ไทย ผู้บริหารการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ โดยนายประภาส จันทหาร กงสุลใหญ่ฯ และนาย Darayus Happy Minwala ผู้จัดการสายการบินคาเธ่ย์ฯ ได้เป็นผู้กล่าว เปิดงานฯ โดยสรุปความได้ว่า วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาเพื่อให้ชาวปากีสถานได้รับทราบ ถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ของไทย เพื่อเป็นทางเลือกใหม่แก่ชาวปากีสถานที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปรักษาตัวในต่างประเทศแทนที่จะมุ่งไปประเทศตะวันตกเท่านั้น โดยไทยมีจุดเด่นคือเทคโนโลยีทางการแพทย์และอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย บุคลากรทางการแพทย์มีคุณภาพสูง แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าหลายประเทศ รวมทั้งการมีอัธยาศัยไมตรีและเอาใจใส่ต่อผู้ป่วย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการที่ไทยอยู่ไม่ไกลจากปากีสถาน
2. ในการสัมมนาฯ คณะผู้บรรยายจากประเทศไทยได้บรรยายในหัวข้อต่างๆ เช่น (1) ภาพรวมความก้าวหน้าทางวิทยาการการแพทย์ไทย โดย นพ. สุรพงษ์ อำพันวงษ์ ประธานคณะที่ปรึกษาของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทย (2) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเครื่องมือของศัลยกรรมหัวใจ โดย นพ. สันห์ ไชยยศศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ (3) หนทางสู่ความสวยงามด้วยศัลยกรรมความงาม โดย นพ. สมศักดิ์ คุณะชาติ ผู้อำนวยการศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ (4) ยุทธศาสตร์ของไทย ต่อศูนย์กลางความเป็นเลิศทางแพทย์ในภูมิภาคเอเชีย โดย นพ. ทรงยศ ชัยชนะ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และ (5) นโยบายของรัฐบาลในการบริการแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดยนายศุภวิทย์ ถาวรบุตร ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้กล่าวถึงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการตรวจลงตราแก่ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยให้ได้รับความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยในกรณีเร่งด่วนจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
3. สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประเมินการจัดสัมมนาฯ ครั้งนี้ว่า ประสบผลสำเร็จ เป็นที่น่าพอใจ โดยนอกจากการมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนมากแล้ว ภายหลังการสัมมนาได้มี ผู้เข้าร่วมที่เป็นแพทย์และนักธุรกิจหลายคนแสดงความสนใจและได้พบปะหารือกับคณะแพทย์ไทยเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจ โดยในขณะนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับแจ้งว่า โรงพยาบาลเกษมราษฎร์สามารถตกลงกับแพทย์ปากีสถานจำนวน 5 รายในการเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อจัดส่งผู้ป่วยจากปากีสถานมารับการรักษาในไทยแล้ว รวมทั้งสายการบินคาเธ่ย์ฯ ยังได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทย จัดทำข้อเสนอรักษาพยาบาลพร้อมราคาในลักษณะ package โดยนำเสนอบริการภายใต้ชื่อ “We care” แก่ลูกค้า ชาวปากีสถานด้วย รวมทั้งสนใจที่จะจัดคณะแพทย์ปากีสถานเดินทางมาทัศนศึกษาในไทย เป็นหมู่คณะ โดยจะจัดให้ดูงานในโรงพยาบาลเอกชนไทยเพื่อให้เห็นศักยภาพทางการแพทย์ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-