‘บัญญัติ’ เผยงาน ‘โหมโรง’ ประกาศความพร้อม ย้ำบทบาทเป็นผู้ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล เตือน’ปชช.’อย่าคล้อยตามโฆษณาชวนเชื่อ นโยบายที่สวยหรู ของรัฐบาล
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 96.5 ถึงการจัดงานระดมทุนพรรคประชาธิปัตย์ “โหมโรง” ในเย็นวันนี้(18 ต.ค.47)ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีทุนใหญ่รองรับ อย่างชนิดที่ว่าไม่ต้องระดมทุนกันข้างนอก ซึ่งเราก็ได้จัดงานระดมทุนเป็นระยะๆ โดยการจัดงานจะเป็นการเชิญคนมาร่วมรับประทานอาหารในลักษณะช่วยระดมทุนกัน เมื่อได้รับการสนับสนุนมีอะไรก็บอกเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องของการพูดคุยปรับทุกข์ถึงภาวะการณ์ที่เป็นอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ว่ามีอะไรที่น่ากังวลมากน้อยขนาดไหน ซึ่งคงไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนอย่างเมื่อคืน(คิกออฟ แคมเปญ) อย่างรายการเมื่อคืนต้องเรียกว่ากระทืบโรง ไม่ใช่โหมโรง
นายบัญญัติ กล่าวว่า ในงานจะยังไม่มีการประกาศนโยบายใหญ่สำหรับการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคก็ได้ประกาศนโยบายออกมาเป็นระยะๆ แต่ที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับนโยบายในช่วงนี้เพราะ 1. ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลอยู่ และ 2. ยังมีเวลาอีกมากพอสมควรในการพูดถึงนโยบาย ‘เรายังทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบ ผมว่าวันนี้สังคมเรียกหาการตรวจสอบ เพราะว่าเค้าเริ่มเห็นอะไรหลายอย่างที่มันปราศจากการตรวจสอบและมีปัญหา สุดท้ายองค์กรตรวจสอบที่เค้าหวังไว้เป็นอันมากคือองค์กรอิสระ เค้าก็เริ่มรู้สึกว่าองค์กรตรวจสอบเวลานี้ที่ว่าอิสระนั้นอิสระจริงหรือไม่ เข้าใจว่าคนไทยในประเทศค่อนข้างจะกังวลมากเหมือนกัน’ นายบัญญัติกล่าว
ส่วนที่นายกฯบอกว่าถ้าเลือกมหาชนจะได้บัญญัติเป็นนายกฯ ‘ท่านก็ว่าของท่านไป ก็รู้กันอยู่แล้วว่าท่านนายกฯเป็นคนอย่างไร เรื่องดูหมิ่นดูแคลนคนอื่นต้องยกให้ท่านอยู่แล้ว’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว และว่า ตนคิดว่าเวลานี้อยู่ที่ประชาชนว่าจะคล้อยตามการโฆษณาชวนเชื่อขนาดไหน เพราะผลกระทบที่ได้รับตลอดช่วงเวลา 4 ปี กับนโยบายที่สวยหรู วันนี้ประชาชนคิดกันอย่างไร นโยบายของไทยรักไทยที่ประกาศไปเมื่อคืนว่า 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้างคงจะโดนใจในระดับรากหญ้าและระดับมนุษย์เงินเดือน แต่สำหรับคนที่ตามมาตลอดหรือคนรู้ทันทักษิณ ตนคิดว่าคงไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะเป็นของเดิมทั้งนั้น และขณะนี้คนไม่ชอบทักษิณเริ่มมีมากขึ้น เพราะคนเริ่มเห็นผลกระทบกันแล้วว่า ของขายยากขึ้น เงินหายากขึ้น หนี้สินมากขึ้น ซึ่งระดับรากหญ้าก็เริ่มงงๆเหมือนกันว่าจะหายจนจริงหรือ ดังนั้นเรื่องที่บอกว่าจะไม่มีคนจนคงลำบากนิดหน่อย ‘ว่าตามจริงเมื่อคืนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งแรกที่ทำอย่างเป็นทางการ เพราะว่าความคิดเรื่องลด แลก แจก แถม สำหรับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้านี้ ผมว่าไทยรักไทยก็ทำมาโดยตลอด ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ในภาวะเช่นนี้ท่านก็ต้องพยายามดึงกระแสคืนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ส่วนประกาศออกไปแล้วจะมีน้ำหนักแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะพรรคไทยรักไทยได้ต้องชนะน็อคเพียงอย่างเดียว นายบัญญัติกล่าวว่า เราไม่ได้ตั้งใจจะชนะขนาดนั้น ภารกิจของเราคือนำความจริงมาตีแผ่ให้ประชาชนได้รับรู้ รับทราบ เสนอแนวคิดประกอบการพิจารณาตามสมควร ไม่ได้คิดที่จะทำสงครามเพื่อหวังชัยชนะ ปัญหาใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้คือปัญหาการสื่อสารกับประชาชน เพราะเวลาของสื่อกว่า 95% อยู่ในมือรัฐบาลหมดแล้ว ดังนั้นพรรคจึงใช้ยุทธวิธีออกไปพบปะพี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ โดยในวันที่ 22 - 23 ต.ค. 47 นี้ ก็จะมีการออกพบปะประชาชนในภาคอีสาน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 96.5 ถึงการจัดงานระดมทุนพรรคประชาธิปัตย์ “โหมโรง” ในเย็นวันนี้(18 ต.ค.47)ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีทุนใหญ่รองรับ อย่างชนิดที่ว่าไม่ต้องระดมทุนกันข้างนอก ซึ่งเราก็ได้จัดงานระดมทุนเป็นระยะๆ โดยการจัดงานจะเป็นการเชิญคนมาร่วมรับประทานอาหารในลักษณะช่วยระดมทุนกัน เมื่อได้รับการสนับสนุนมีอะไรก็บอกเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องของการพูดคุยปรับทุกข์ถึงภาวะการณ์ที่เป็นอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ว่ามีอะไรที่น่ากังวลมากน้อยขนาดไหน ซึ่งคงไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนอย่างเมื่อคืน(คิกออฟ แคมเปญ) อย่างรายการเมื่อคืนต้องเรียกว่ากระทืบโรง ไม่ใช่โหมโรง
นายบัญญัติ กล่าวว่า ในงานจะยังไม่มีการประกาศนโยบายใหญ่สำหรับการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคก็ได้ประกาศนโยบายออกมาเป็นระยะๆ แต่ที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับนโยบายในช่วงนี้เพราะ 1. ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลอยู่ และ 2. ยังมีเวลาอีกมากพอสมควรในการพูดถึงนโยบาย ‘เรายังทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบ ผมว่าวันนี้สังคมเรียกหาการตรวจสอบ เพราะว่าเค้าเริ่มเห็นอะไรหลายอย่างที่มันปราศจากการตรวจสอบและมีปัญหา สุดท้ายองค์กรตรวจสอบที่เค้าหวังไว้เป็นอันมากคือองค์กรอิสระ เค้าก็เริ่มรู้สึกว่าองค์กรตรวจสอบเวลานี้ที่ว่าอิสระนั้นอิสระจริงหรือไม่ เข้าใจว่าคนไทยในประเทศค่อนข้างจะกังวลมากเหมือนกัน’ นายบัญญัติกล่าว
ส่วนที่นายกฯบอกว่าถ้าเลือกมหาชนจะได้บัญญัติเป็นนายกฯ ‘ท่านก็ว่าของท่านไป ก็รู้กันอยู่แล้วว่าท่านนายกฯเป็นคนอย่างไร เรื่องดูหมิ่นดูแคลนคนอื่นต้องยกให้ท่านอยู่แล้ว’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว และว่า ตนคิดว่าเวลานี้อยู่ที่ประชาชนว่าจะคล้อยตามการโฆษณาชวนเชื่อขนาดไหน เพราะผลกระทบที่ได้รับตลอดช่วงเวลา 4 ปี กับนโยบายที่สวยหรู วันนี้ประชาชนคิดกันอย่างไร นโยบายของไทยรักไทยที่ประกาศไปเมื่อคืนว่า 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้างคงจะโดนใจในระดับรากหญ้าและระดับมนุษย์เงินเดือน แต่สำหรับคนที่ตามมาตลอดหรือคนรู้ทันทักษิณ ตนคิดว่าคงไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะเป็นของเดิมทั้งนั้น และขณะนี้คนไม่ชอบทักษิณเริ่มมีมากขึ้น เพราะคนเริ่มเห็นผลกระทบกันแล้วว่า ของขายยากขึ้น เงินหายากขึ้น หนี้สินมากขึ้น ซึ่งระดับรากหญ้าก็เริ่มงงๆเหมือนกันว่าจะหายจนจริงหรือ ดังนั้นเรื่องที่บอกว่าจะไม่มีคนจนคงลำบากนิดหน่อย ‘ว่าตามจริงเมื่อคืนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งแรกที่ทำอย่างเป็นทางการ เพราะว่าความคิดเรื่องลด แลก แจก แถม สำหรับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้านี้ ผมว่าไทยรักไทยก็ทำมาโดยตลอด ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ในภาวะเช่นนี้ท่านก็ต้องพยายามดึงกระแสคืนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ส่วนประกาศออกไปแล้วจะมีน้ำหนักแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะพรรคไทยรักไทยได้ต้องชนะน็อคเพียงอย่างเดียว นายบัญญัติกล่าวว่า เราไม่ได้ตั้งใจจะชนะขนาดนั้น ภารกิจของเราคือนำความจริงมาตีแผ่ให้ประชาชนได้รับรู้ รับทราบ เสนอแนวคิดประกอบการพิจารณาตามสมควร ไม่ได้คิดที่จะทำสงครามเพื่อหวังชัยชนะ ปัญหาใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้คือปัญหาการสื่อสารกับประชาชน เพราะเวลาของสื่อกว่า 95% อยู่ในมือรัฐบาลหมดแล้ว ดังนั้นพรรคจึงใช้ยุทธวิธีออกไปพบปะพี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ โดยในวันที่ 22 - 23 ต.ค. 47 นี้ ก็จะมีการออกพบปะประชาชนในภาคอีสาน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-