องอาจ คล้ามไพบูลย์ แถลง พรรคประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินมาก ระบุ กกต.ควรเข้ามาดูแลเรื่องการออกอากาศรายการของพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกพรรค
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารพรรค ว่า ที่ประชุมได้ประเมินการจัดงานคิกออฟ แคมเปญ ของพรรคไทยรักไทย ว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ แต่มองว่าเป็นการพยายามยัดเยียดให้ประชาชนได้รับความคิดของพรรคไทยรักไทย โดยมีการใช้เงินเป็นตัวตั้ง เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2544 แต่จะแตกต่างกันในส่วนของรายละเอียด ซึ่งมีการลดแลกแจกแถมในพื้นที่ ทั้งนี้ พรรคมองว่านโยบายของพรรคไทยรักไทยคงไม่สามารถเรียกคะแนนได้ เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้บริหารพรรครู้สึกเป็นห่วงและกังวลมากในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกระดับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จึงไม่มีอะไรที่เป็นหลักประกันว่า ถ้าพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง การคอร์รัปชั่นจะไม่เกิดขึ้นอีกหรือป้องกันได้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พรรคยังประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินมาก ซึ่งเห็นได้จากการจัดงานคิกออฟแคมเปญของพรรคไทยรักไทยที่สามารถใช้เวลาถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ได้อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาหลังข่าว 20.00 น. ในขณะที่ พรรคการเมืองอื่นได้ติดต่อซื้อเวลาออกอากาศในช่วงสั้นๆ แต่ถูกถอดโฆษณาออกไป ซึ่งสะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมในช่วงของการรณรงค์การใช้สื่อของรัฐในการหาเสียง ดังนั้น ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ควรเข้ามาดูแลให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกพรรค เพราะไม่ต้องการเห็นพรรคการเมืองใดใช้เงินหรืออิทธิพล เพื่อให้ได้เปรียบ
นายองอาจ กล่าวว่า ส่วนการออกอากาศรายการวิทยุ ‘นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน’ ถือว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นโดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งตนคิดว่า กกต.น่าจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย แม้นายกฯจะเคยบอกว่าในรายการไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมือง แต่ขณะนี้ก็ใกล้ช่วงเลือกตั้ง ตนไม่เชื่อว่านายกฯจะสามารถแยกแยะความเป็นนายกฯกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยออกจากกันได้ เพราะที่ผ่านมา ก็มีความพยายามทำสิ่งที่ได้เปรียบตลอดเวลา ทั้งนี้ ทันทีที่กกต.ออกระเบียบพรรคการเมือง 60 วันก่อนสภาฯครบวาระ จึงขอให้นายกฯปฏิบัติเช่นเดียวกับ ส.ส.คนอื่นๆ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารพรรค ว่า ที่ประชุมได้ประเมินการจัดงานคิกออฟ แคมเปญ ของพรรคไทยรักไทย ว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ แต่มองว่าเป็นการพยายามยัดเยียดให้ประชาชนได้รับความคิดของพรรคไทยรักไทย โดยมีการใช้เงินเป็นตัวตั้ง เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2544 แต่จะแตกต่างกันในส่วนของรายละเอียด ซึ่งมีการลดแลกแจกแถมในพื้นที่ ทั้งนี้ พรรคมองว่านโยบายของพรรคไทยรักไทยคงไม่สามารถเรียกคะแนนได้ เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้บริหารพรรครู้สึกเป็นห่วงและกังวลมากในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกระดับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จึงไม่มีอะไรที่เป็นหลักประกันว่า ถ้าพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง การคอร์รัปชั่นจะไม่เกิดขึ้นอีกหรือป้องกันได้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พรรคยังประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินมาก ซึ่งเห็นได้จากการจัดงานคิกออฟแคมเปญของพรรคไทยรักไทยที่สามารถใช้เวลาถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ได้อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาหลังข่าว 20.00 น. ในขณะที่ พรรคการเมืองอื่นได้ติดต่อซื้อเวลาออกอากาศในช่วงสั้นๆ แต่ถูกถอดโฆษณาออกไป ซึ่งสะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมในช่วงของการรณรงค์การใช้สื่อของรัฐในการหาเสียง ดังนั้น ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ควรเข้ามาดูแลให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกพรรค เพราะไม่ต้องการเห็นพรรคการเมืองใดใช้เงินหรืออิทธิพล เพื่อให้ได้เปรียบ
นายองอาจ กล่าวว่า ส่วนการออกอากาศรายการวิทยุ ‘นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน’ ถือว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นโดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งตนคิดว่า กกต.น่าจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย แม้นายกฯจะเคยบอกว่าในรายการไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมือง แต่ขณะนี้ก็ใกล้ช่วงเลือกตั้ง ตนไม่เชื่อว่านายกฯจะสามารถแยกแยะความเป็นนายกฯกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยออกจากกันได้ เพราะที่ผ่านมา ก็มีความพยายามทำสิ่งที่ได้เปรียบตลอดเวลา ทั้งนี้ ทันทีที่กกต.ออกระเบียบพรรคการเมือง 60 วันก่อนสภาฯครบวาระ จึงขอให้นายกฯปฏิบัติเช่นเดียวกับ ส.ส.คนอื่นๆ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-