กรุงเทพ--20 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองในพม่า ดังมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองของพม่ามีความชัดเจนแล้ว โดยพม่าได้แถลงอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้กราบเรียน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นระยะๆ โดยตลอด
2. ตามคำแถลงของฝ่ายพม่าเมื่อค่ำวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ว่า พล.อ. ขิ่น ยุ้น ได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเหตุผลทางสุขภาพ และได้แต่งตั้ง พล.ท โซ วิน เลขาธิการ 1 ของสภาสันติภาพเพื่อการพัฒนาแห่งรัฐ (SPDC) ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน และแต่งตั้ง พล.ท เต็ง เส่ง เลขาธิการ 2 ของ SPDC ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการ 1 แทน
3. การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่าดังกล่าวถือเป็นกิจการภายในของพม่า ซึ่งไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของพม่าก็ปรารถนาที่จะเห็นเสถียรภาพภายในพม่า และอยากจะเห็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศที่ดำเนินมาจะดำเนินต่อไป โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ อาทิ ปัญหายาเสพติด และแรงงานต่างด้าวในไทย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายพม่าได้ให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่
4. นอกจากนี้ ไทยยังปรารถนาที่จะให้พม่าดำเนินการอย่างต่อเนื่องในเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติในพม่าและแนวการดำเนินการไปสู่ประชาธิปไตย 7 ขั้นตอนของพม่า ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับพม่าและนานาชาติก็ติดตามเรื่องนี้อยู่
5. พล.ท โซ วิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ก็มีความคุ้นเคยกับฝ่ายไทย เนื่องจากได้เคยติดตามพล.อ หม่อง เอ มาเยือนไทย และได้ร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ เมื่อมีการประชุม ACMECS ที่พุกาม พล.ท โซ วิน ก็ได้พบกับนายกรัฐมนตรีด้วย รวมทั้งได้มีการประสานงานกับไทยมาตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเจ้ากรมป้องกันภัยทางอากาศจนกระทั่งเป็นเลขาธิการ 1 จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกันทั้งนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการคนใหม่ สำหรับเลขาธิการคนที่ 1 คนใหม่ คือ พล.ท เต็ง เส่ง ก็คุ้นเคยกับไทยตั้งแต่เป็น ผู้บัญชาการกองกำลังสามเหลี่ยมทองคำ จนมาเป็นเลขาธิการคนที่ 2 และเป็นเลขาธิการคนที่ 1 สำหรับ พล.อ ขิ่น ยุ้น นั้น เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากและเป็นที่คุ้นเคยในประชาคมโลกเป็นอย่างดี แต่การสับเปลี่ยนตำแหน่ง ดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของพม่า
6. เกี่ยวกับเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติในพม่านั้น แม้ว่าในขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินไปในลักษณะใด แต่หากพิจารณาตามที่ พล.อ อาวุโส ตัน ฉ่วย ได้เคยพูดกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไว้ว่า ตนเองเป็นทหาร และสิ่งที่ตัดสินไปแล้ว ก็จะไม่กลับคำ ซึ่งหมายถึงการนำประเทศสู่ประชาธิปไตย การประชุมสมัชชาแห่งชาติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ และนำไปสู่การเลือกตั้ง เป็นต้น ดังนั้น ก็เชื่อว่าการปรองดองแห่งชาติ การร่างรัฐธรรมนูญ และการไปสู่การเลือกตั้ง ก็น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่จะใช้เวลาเร็วหรือช้า ก็ต้องดูว่าคณะผู้บริหารชุดใหม่จะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองในพม่า ดังมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองของพม่ามีความชัดเจนแล้ว โดยพม่าได้แถลงอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้กราบเรียน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นระยะๆ โดยตลอด
2. ตามคำแถลงของฝ่ายพม่าเมื่อค่ำวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ว่า พล.อ. ขิ่น ยุ้น ได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเหตุผลทางสุขภาพ และได้แต่งตั้ง พล.ท โซ วิน เลขาธิการ 1 ของสภาสันติภาพเพื่อการพัฒนาแห่งรัฐ (SPDC) ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน และแต่งตั้ง พล.ท เต็ง เส่ง เลขาธิการ 2 ของ SPDC ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการ 1 แทน
3. การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่าดังกล่าวถือเป็นกิจการภายในของพม่า ซึ่งไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของพม่าก็ปรารถนาที่จะเห็นเสถียรภาพภายในพม่า และอยากจะเห็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศที่ดำเนินมาจะดำเนินต่อไป โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ อาทิ ปัญหายาเสพติด และแรงงานต่างด้าวในไทย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายพม่าได้ให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่
4. นอกจากนี้ ไทยยังปรารถนาที่จะให้พม่าดำเนินการอย่างต่อเนื่องในเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติในพม่าและแนวการดำเนินการไปสู่ประชาธิปไตย 7 ขั้นตอนของพม่า ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับพม่าและนานาชาติก็ติดตามเรื่องนี้อยู่
5. พล.ท โซ วิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ก็มีความคุ้นเคยกับฝ่ายไทย เนื่องจากได้เคยติดตามพล.อ หม่อง เอ มาเยือนไทย และได้ร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ เมื่อมีการประชุม ACMECS ที่พุกาม พล.ท โซ วิน ก็ได้พบกับนายกรัฐมนตรีด้วย รวมทั้งได้มีการประสานงานกับไทยมาตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเจ้ากรมป้องกันภัยทางอากาศจนกระทั่งเป็นเลขาธิการ 1 จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกันทั้งนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการคนใหม่ สำหรับเลขาธิการคนที่ 1 คนใหม่ คือ พล.ท เต็ง เส่ง ก็คุ้นเคยกับไทยตั้งแต่เป็น ผู้บัญชาการกองกำลังสามเหลี่ยมทองคำ จนมาเป็นเลขาธิการคนที่ 2 และเป็นเลขาธิการคนที่ 1 สำหรับ พล.อ ขิ่น ยุ้น นั้น เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากและเป็นที่คุ้นเคยในประชาคมโลกเป็นอย่างดี แต่การสับเปลี่ยนตำแหน่ง ดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของพม่า
6. เกี่ยวกับเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติในพม่านั้น แม้ว่าในขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินไปในลักษณะใด แต่หากพิจารณาตามที่ พล.อ อาวุโส ตัน ฉ่วย ได้เคยพูดกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไว้ว่า ตนเองเป็นทหาร และสิ่งที่ตัดสินไปแล้ว ก็จะไม่กลับคำ ซึ่งหมายถึงการนำประเทศสู่ประชาธิปไตย การประชุมสมัชชาแห่งชาติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ และนำไปสู่การเลือกตั้ง เป็นต้น ดังนั้น ก็เชื่อว่าการปรองดองแห่งชาติ การร่างรัฐธรรมนูญ และการไปสู่การเลือกตั้ง ก็น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่จะใช้เวลาเร็วหรือช้า ก็ต้องดูว่าคณะผู้บริหารชุดใหม่จะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-