ปชป. ประชุม เตรียมความพร้อมผู้สมัคร ส.ส. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อดำเนินกิจกรรมของพรรคในภาคอีสาน ‘ลั่น’ เลือกตั้งครั้งหน้าได้ ส.ส. อีสานเพิ่มแน่ พร้อมระบุอย่างน้อยไทยรักไทยจะเสียที่นั่งไม่ต่ำกว่า 50 ที่นั่งให้กับพรรคการเมืองอื่น
นายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เวลาพูดถึงการต่อสู้ในทางการเมือง เราก็มีความมุ่งหมายที่จะได้ชัยชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวผู้สมัครเอง ก็มีความมุ่งหวังว่าหากเป็นไปได้ก็อยากได้ชัยชนะ แต่การได้ชัยชนะในการเลือกตั้งแต่ละเขต ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละเขตมีเจ้าของพื้นที่ มีแชมป์เก่า ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ากว่าจะได้เป็นแชมป์ก็คงต้องใช้ทรัพยากร เงินทอง ความมานะพยายามอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์ของพรรคไทยรักไทยหลายท่านมองว่าเหมือนกำลังลงลิฟต์ แต่ตนเห็นว่าตกต้นตาลมากกว่า พูดง่ายๆคืออยู่ในภาวะขาลงไม่มีขึ้น เปรียบเหมือนบั้งไฟที่ไม่มีเชื้อเพลิง ขณะนี้ข้อมูลที่เกิดขึ้นในทางการเมืองหลายเรื่องถูกบิดเบือนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ประชาชนรู้ข้อเท็จจริงไม่หมด และหลายเรื่องที่เงียบหายไปกับความสับสนของเรื่องราวทางการเมือง เพราะฉะนั้นการหาเสียงในพื้นที่พวกเราต้องสามารถนำข้อมูลข้อเท็จจริงไปพูดคุยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ‘ผมได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคว่า ความเป็นไปได้ที่พรรคจะได้เสียงจากภาคอีสานมีโอกาสสูง ซึ่งก็ตรงกับโพลฯที่มีความเห็นว่า ประชาธิปัตย์เสียงดีขึ้น อย่างโพลของช่อง 3 ที่ถามว่านโยบายของประชาธิปัตย์สู้ไทยรักไทยได้หรือไม่ ผลก็ออกมาว่าสู้ได้ เพราะฉะนั้นขอให้สู้เพื่ออนาคต เพราะอนาคตของพวกท่านทั้งหลาย ส่วนหนึ่งเป็นอนาคตของบ้านเมืองด้วย’ นายสุทัศน์กล่าว
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความพร้อมของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะไม่มีครั้งไหนที่เราจะสัมมนาพบปะพูดคุยถึงปัญหาและยุทธศาสตร์มากเท่าครั้งนี้ เรามีเวลามากกว่าทุกครั้ง มีความพร้อมมากกว่าทุกครั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจว่าหลังจบการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ส.ส.อีสานปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะท่านรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ท่านสุทัศน์ จะได้กู้หน้ากลับคืนมาว่าภาคอีสานเราไม่แพ้ใคร และขอยืนยันว่าครั้งนี้มีความมั่นใจเหลือเกินว่า ท่านสุทัศน์จะนำพาพวกเราไปสู่ความสำเร็จ และล้างตา ล้างแค้น ล้างคำสบประมาทได้ เพราะพรรคไทยรักไทยคะแนนเสียงตกมากในภาคอีสาน และเห็นว่าอย่างน้อยที่สุดไทยรักไทยน่าจะสูญเสียที่นั่งไม่ต่ำกว่า 50 ที่นั่งให้กับพรรคการเมืองอื่น ‘ผมพบ ส.ส.วิฑูรย์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง กทม. ผมบอกว่าภาคอีสานเราต้องมี ส.ส.ครั้งนี้ตัวเลข 2 หลักแน่นอน ส.ส.วิฑูรย์ก็บอกว่ามันเป็นไปได้หรือท่านเลขาฯ ผมบอกผมมั่นใจสิ เพราะว่าผมทำงานอยู่ คุยกับคนในพื้นที่ รู้ว่าสถานการณ์ของรัฐบาลเป็นอย่างไร ผมมั่นใจว่าครั้งนี้เราได้ตัวเลข 2 หลักแน่นอน จนเมื่อ 2 วันก่อนท่านวิฑูรย์มาบอกผมว่าท่านเลขาฯตัวเลข 2 หลักนี่เป็นไปได้จริงๆ แต่แม้ภาคอีสานจะดีขึ้น ผมก็ไม่เคยฝันหวานว่าเราจะได้ถึง 50 — 60 คน จู่ๆเราจะพลิกกลับเอาภาคอีสานมาได้ 30 หรือ 50 เสียง มันเป็นไปไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับความจริง เราจะแก้ปัญหาภาคอีสานได้ต่อเมื่อเราเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้นแค่ตัวเลข 2 หลักต้นๆผมก็พอใจแล้ว’ นายประดิษฐ์กล่าว และว่า ตนขอยกย่องผู้ที่ลงสมัครกับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งๆที่รู้ว่า หาเสียงในชื่อพรรคค่อนข้างยาก เงินก็ไม่มี เพราะฉะนั้นผู้ที่ลงสมัครต้องมีอุดมการณ์จริงๆ ซึ่งตนจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้สมัครทุกคนในการต่อสู้ครั้งนี้
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นมาโดยตลอด ที่ปรารถนาจะเห็นพรรคประชาธิปัตย์เติบโตในภาคอีสาน เพราะถ้าต้องการจะทำการเมืองไทยให้ดี เราต้องทำการเมืองอีสานให้ดี เพราะที่นั่นเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของการเมือง จำนวน ส.ส. มีถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด แต่ที่สำคัญคือสภาพของปัญหา ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคอีสานยังมีปัญหามากมาย แม้ว่าพรรคการเมืองหลายๆพรรคที่เข้าไปหาเสียงที่นั่นไปด้วยคำมั่นสัญญาทั้งนั้น ตนรู้สึกว่าวันนี้ภาคอีสานของพรรคประชาธิปัตย์โตขึ้น ซึ่งตนเข้าใจว่าการต่อสู้ในภาคอีสานเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหนักหนามาก แต่เราก็พบว่าคนที่ดีจริง จริงใจกับชาวบ้าน แม้จะไม่มีเงินไปทุ่มเทในพื้นที่ เค้าก็ได้รับเลือกตั้งมาทุกครั้ง เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าถ้าเราจริงใจกับชาวบ้าน เราก็น่าจะได้รับเลือกตั้ง ส่วนที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีเสียงไม่ดีในภาคอีสาน เนื่องจากมีการโจมตีว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นของคนใต้ และไม่เคยทำอะไรให้ภาคอีสาน ที่จริงแล้วไม่ใช่ความจริง แต่ผลของการโจมตีซ้ำๆซากๆ ทำให้ประชาชนซึมซับไปอย่างไม่ตั้งใจ และเชื่ออย่างที่ได้ยินได้ฟัง ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องอันตราย ‘พี่น้องอีสานอย่าไปน้อยใจว่าในพรรคประชาธิปัตย์ดูคนภาคใต้จะมีบทบาทสูง ที่มีบทบาทสูงเช่นนั้น เพราะว่าคนภาคใต้เค้าเลือกต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ความต่อเนื่องทางการเมืองทำให้นักการเมืองเติบโต ก็มีบทบาทขึ้น ถ้าพี่น้องอีสานปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นคนที่ได้รับเลือกตั้งจากอีสานมีบทบาทมากในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องเลือกเข้ามามากๆ’ นายบัญญัติกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เวลาพูดถึงการต่อสู้ในทางการเมือง เราก็มีความมุ่งหมายที่จะได้ชัยชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวผู้สมัครเอง ก็มีความมุ่งหวังว่าหากเป็นไปได้ก็อยากได้ชัยชนะ แต่การได้ชัยชนะในการเลือกตั้งแต่ละเขต ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละเขตมีเจ้าของพื้นที่ มีแชมป์เก่า ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ากว่าจะได้เป็นแชมป์ก็คงต้องใช้ทรัพยากร เงินทอง ความมานะพยายามอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์ของพรรคไทยรักไทยหลายท่านมองว่าเหมือนกำลังลงลิฟต์ แต่ตนเห็นว่าตกต้นตาลมากกว่า พูดง่ายๆคืออยู่ในภาวะขาลงไม่มีขึ้น เปรียบเหมือนบั้งไฟที่ไม่มีเชื้อเพลิง ขณะนี้ข้อมูลที่เกิดขึ้นในทางการเมืองหลายเรื่องถูกบิดเบือนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ประชาชนรู้ข้อเท็จจริงไม่หมด และหลายเรื่องที่เงียบหายไปกับความสับสนของเรื่องราวทางการเมือง เพราะฉะนั้นการหาเสียงในพื้นที่พวกเราต้องสามารถนำข้อมูลข้อเท็จจริงไปพูดคุยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ‘ผมได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคว่า ความเป็นไปได้ที่พรรคจะได้เสียงจากภาคอีสานมีโอกาสสูง ซึ่งก็ตรงกับโพลฯที่มีความเห็นว่า ประชาธิปัตย์เสียงดีขึ้น อย่างโพลของช่อง 3 ที่ถามว่านโยบายของประชาธิปัตย์สู้ไทยรักไทยได้หรือไม่ ผลก็ออกมาว่าสู้ได้ เพราะฉะนั้นขอให้สู้เพื่ออนาคต เพราะอนาคตของพวกท่านทั้งหลาย ส่วนหนึ่งเป็นอนาคตของบ้านเมืองด้วย’ นายสุทัศน์กล่าว
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความพร้อมของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะไม่มีครั้งไหนที่เราจะสัมมนาพบปะพูดคุยถึงปัญหาและยุทธศาสตร์มากเท่าครั้งนี้ เรามีเวลามากกว่าทุกครั้ง มีความพร้อมมากกว่าทุกครั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจว่าหลังจบการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ส.ส.อีสานปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะท่านรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ท่านสุทัศน์ จะได้กู้หน้ากลับคืนมาว่าภาคอีสานเราไม่แพ้ใคร และขอยืนยันว่าครั้งนี้มีความมั่นใจเหลือเกินว่า ท่านสุทัศน์จะนำพาพวกเราไปสู่ความสำเร็จ และล้างตา ล้างแค้น ล้างคำสบประมาทได้ เพราะพรรคไทยรักไทยคะแนนเสียงตกมากในภาคอีสาน และเห็นว่าอย่างน้อยที่สุดไทยรักไทยน่าจะสูญเสียที่นั่งไม่ต่ำกว่า 50 ที่นั่งให้กับพรรคการเมืองอื่น ‘ผมพบ ส.ส.วิฑูรย์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง กทม. ผมบอกว่าภาคอีสานเราต้องมี ส.ส.ครั้งนี้ตัวเลข 2 หลักแน่นอน ส.ส.วิฑูรย์ก็บอกว่ามันเป็นไปได้หรือท่านเลขาฯ ผมบอกผมมั่นใจสิ เพราะว่าผมทำงานอยู่ คุยกับคนในพื้นที่ รู้ว่าสถานการณ์ของรัฐบาลเป็นอย่างไร ผมมั่นใจว่าครั้งนี้เราได้ตัวเลข 2 หลักแน่นอน จนเมื่อ 2 วันก่อนท่านวิฑูรย์มาบอกผมว่าท่านเลขาฯตัวเลข 2 หลักนี่เป็นไปได้จริงๆ แต่แม้ภาคอีสานจะดีขึ้น ผมก็ไม่เคยฝันหวานว่าเราจะได้ถึง 50 — 60 คน จู่ๆเราจะพลิกกลับเอาภาคอีสานมาได้ 30 หรือ 50 เสียง มันเป็นไปไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับความจริง เราจะแก้ปัญหาภาคอีสานได้ต่อเมื่อเราเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้นแค่ตัวเลข 2 หลักต้นๆผมก็พอใจแล้ว’ นายประดิษฐ์กล่าว และว่า ตนขอยกย่องผู้ที่ลงสมัครกับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งๆที่รู้ว่า หาเสียงในชื่อพรรคค่อนข้างยาก เงินก็ไม่มี เพราะฉะนั้นผู้ที่ลงสมัครต้องมีอุดมการณ์จริงๆ ซึ่งตนจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้สมัครทุกคนในการต่อสู้ครั้งนี้
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นมาโดยตลอด ที่ปรารถนาจะเห็นพรรคประชาธิปัตย์เติบโตในภาคอีสาน เพราะถ้าต้องการจะทำการเมืองไทยให้ดี เราต้องทำการเมืองอีสานให้ดี เพราะที่นั่นเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของการเมือง จำนวน ส.ส. มีถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด แต่ที่สำคัญคือสภาพของปัญหา ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคอีสานยังมีปัญหามากมาย แม้ว่าพรรคการเมืองหลายๆพรรคที่เข้าไปหาเสียงที่นั่นไปด้วยคำมั่นสัญญาทั้งนั้น ตนรู้สึกว่าวันนี้ภาคอีสานของพรรคประชาธิปัตย์โตขึ้น ซึ่งตนเข้าใจว่าการต่อสู้ในภาคอีสานเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหนักหนามาก แต่เราก็พบว่าคนที่ดีจริง จริงใจกับชาวบ้าน แม้จะไม่มีเงินไปทุ่มเทในพื้นที่ เค้าก็ได้รับเลือกตั้งมาทุกครั้ง เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าถ้าเราจริงใจกับชาวบ้าน เราก็น่าจะได้รับเลือกตั้ง ส่วนที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีเสียงไม่ดีในภาคอีสาน เนื่องจากมีการโจมตีว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นของคนใต้ และไม่เคยทำอะไรให้ภาคอีสาน ที่จริงแล้วไม่ใช่ความจริง แต่ผลของการโจมตีซ้ำๆซากๆ ทำให้ประชาชนซึมซับไปอย่างไม่ตั้งใจ และเชื่ออย่างที่ได้ยินได้ฟัง ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องอันตราย ‘พี่น้องอีสานอย่าไปน้อยใจว่าในพรรคประชาธิปัตย์ดูคนภาคใต้จะมีบทบาทสูง ที่มีบทบาทสูงเช่นนั้น เพราะว่าคนภาคใต้เค้าเลือกต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ความต่อเนื่องทางการเมืองทำให้นักการเมืองเติบโต ก็มีบทบาทขึ้น ถ้าพี่น้องอีสานปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นคนที่ได้รับเลือกตั้งจากอีสานมีบทบาทมากในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องเลือกเข้ามามากๆ’ นายบัญญัติกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-