การประชุมสภาผู้แทนราษฎร
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๗
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๒ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๓.๔๕ นาฬิกา โดยมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอหารือในเรื่องต่าง ๆ แล้ว เมื่อครบองค์ประชุม ได้ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ ดังนี้
๑. กระทู้ถาม (ไม่มี)
๒. เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม
ประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
๑. รับทราบประกาศสภาผู้แทนราษฎรเรื่องให้ผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรค
การเมืองในลำดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้นประธานได้ขอให้นายบุรณัชย์ สมุทรักษ์ ซึ่งเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ ๓๙ ของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนขึ้นเพื่อปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๕๐
๒. รับทราบเรื่องนายกรัฐมนตรีได้รับร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินไว้พิจารณาให้คำรับรอง คือ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษานอกโรงเรียน พ.ศ. …. ซึ่งนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ
๓. รับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ….
โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎรแก้ไข เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป
๔. รับทราบเรื่องวุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติจำนวน ๓ ฉบับ ดังนี้
๔.๑ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัด
กาญจนบุรี พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว
๔.๒ ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบแล้ว
๔.๓ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พ.ศ. …. ซึ่ง คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมรับทราบ
๓. รับรองรายงานการประชุม (ไม่มี)
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่มีมติให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ตามลำดับดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่ง คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณารายงานฉบับนี้ โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า การที่กรรมาธิการได้แก้ไขถ้อยคำในบางมาตราให้สอดคล้องกันเพื่อที่จะให้ข้าราชการในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาสามารถ ที่จะมีเวลาราชการได้เกินกว่าหกสิบปีนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง และเห็นด้วยกับการแก้ไขถ้อยคำของกรรมาธิการร่วมกัน เมื่อสมาชิกได้อภิปรายพอสมควรแล้วได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ตามที่คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณา ด้วยคะแนน ๒๔๒ เสียง
๒. ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. ซึ่งคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ และมีร่างพระราชบัญญัติที่มีลักษณะทำนองเดียวกันได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. ซึ่งนายวัฒนา เซ่งไพเราะ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
ที่ประชุมจึงได้มีมติให้รวมพิจารณาในคราวเดียวกัน
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงว่า ตามที่ได้มีการแก้ไข พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ โดยมีสาระสำคัญคือให้นำเงินบำเหน็จ ตกทอดซึ่งปกติจะต้องจ่ายให้แก่ทายาทของข้าราชการพลเรือนผู้รับบำนาญ เมื่อข้าราชการพลเรือน ผู้รับบำนาญผู้นั้นถึงแก่กรรมเป็นจำนวนสามสิบเท่าของเงินบำนาญ โดยให้นำมาจ่ายให้ผู้รับบำนาญก่อนจำนวนสิบห้าเท่าของเงินบำนาญ ซึ่งเรียกว่าเงินบำเหน็จดำรงชีพประกอบกับพระราชบัญญัติ ดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๖ แล้ว โดยการที่การจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่นยึดหลักการเดียวกับการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการพลเรือน ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงได้แก้ไขพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกับข้าราชการพลเรือน โดยมีสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่แก้ไขดังนี้
๑. เพิ่มหลักการในเรื่องบำเหน็จดำรงชีพโดยให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ได้รับบำนาญสามารถนำเงินบำเหน็จตกทอดมาใช้ได้ไม่เกิน ๑๕ เท่าของเงินบำนาญเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน
๒. ปรับโครงสร้างคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่มี
หน้าที่กำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับ การปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พร้อมทั้งให้เพิ่มผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกองทุนด้วย หลังจากผู้เสนอกฎหมายได้แถลงหลักการและเหตุผล ตามลำดับ แล้ว มีสมาชิกได้อภิปรายในประเด็นต่าง ๆ ว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นมีชื่อย่อว่าอย่างไร และในเรื่ององค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนฯ จะมีตัวแทนของกรุงเทพมหานคร หรือเมืองพัทยาหรือไม่ เรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง พร้อมกันนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้วขอให้มีการจัดสรรเงินให้แก่คณะครูอาจารย์ซึ่งสังกัดกรุงเทพมหานครโดยตรงและหากจำนวนเงินที่จัดสรรมีจำนวนมากขอให้ได้รับในคราวเดียวกัน และขอเร่งรัดให้ทันในปีงบประมาณนี้ด้วย หลังจากที่สมาชิกได้อภิปราย พอสมควรแล้วที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนน ๒๔๐ เสียง ในวาระที่ ๑ รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๒ ฉบับ พร้อมกันไป และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา โดยถือเอาร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา กำหนดแปรญัตติภายใน ๒ วัน
๓. ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ผู้รักษาการตามกฎหมาย) ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า ในเรื่องการ ที่ให้ประธานศาลฎีกาสามารถออกข้อบังคับเพื่อให้การดำเนินคดีอาญาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้ โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมก่อนนั้นมีเหตุผลอย่างไร ซึ่ง คณะกรรมาธิการได้ชี้แจงว่า เนื่องจากคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีหน้าที่ความรับผิดชอบในส่วนของงานบริหารหรืองานธุรการเท่านั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของการดำเนินการออกข้อบังคับเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดีของศาลซึ่งที่เคยปฏิบัติมาก็ไม่ต้องขอให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมให้ความ เห็นชอบก่อนแต่อย่างใด จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย ๒๑๙ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๔. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วย คะแนนเสียง เห็นด้วย ๒๒๙ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๕. ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่..) พ.ศ. ….
ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า เรื่องของการเพิ่มโทษจำคุกซึ่งแต่เดิมลงโทษปรับอย่างเดียวแก่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตนำเอาเครื่องหมายมาตรฐาน อุตสาหกรรมไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งผู้ที่เลียนแบบเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยเพิ่มโทษจำคุกสามเดือนนั้นมีเจตนารมณ์อย่างไรถึงเพิ่มโทษจำคุกและเห็นว่าไม่จำเป็นเนื่องจากลงโทษปรับสูงอยู่แล้ว เรื่องการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่นำใบอนุญาตไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งกรรมาธิการแก้ไขกำหนดให้มีแต่โทษปรับขั้นสูงไว้แต่ไม่กำหนดโทษขั้นต่ำเห็นว่าควรคงไว้ตามร่างเดิมที่มีการกำหนดโทษปรับขั้นต่ำไว้ด้วยจะเหมาะสมกว่า ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ผลัดเปลี่ยนกันชี้แจงว่า เรื่องการนำเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมไปใช้โดยไม่รับอนุญาตและการลอกเลียนเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมนั้นถือเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและเพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อการกระทำผิดตลอดจนเป็นการคุ้มครองสังคมและสุจริตชนด้วย เรื่องการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่นำใบอนุญาตไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน กรรมาธิการเห็นว่าเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการกำหนดโทษในกรณีอื่น ซึ่งบัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับนี้ จึงเห็นสมควรกำหนดไว้เฉพาะโทษปรับขั้นสูงเท่านั้น และเพื่อให้เป็นดุลยพินิจของศาลในการตัดสินกำหนดโทษด้วย จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย ๒๔๖ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๖. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย ๒๒๙ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
จากนั้นได้มีสมาชิกเสนอขอเปลี่ยนระเบียบวาระโดยเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติต่าง ๆ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. …. ซึ่ง คณะรัฐมนตรี
เป็นผู้เสนอ
๒. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. …. ซึ่ง คณะรัฐมนตรี
เป็นผู้เสนอ
๓. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ
๔. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง นางผ่องศรี แซ่จึง
และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ
เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติทั้งสี่ฉบับมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ที่ประชุมจึงได้มีมติให้พิจารณาพร้อมกันไปในคราวเดียวกัน
ต่อจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แถลงถึงหลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับตามลำดับว่าโดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับแนวนโยบายของรัฐบาลได้ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยของรัฐพัฒนาไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการที่เป็นอิสระและมีความคล่องตัวสามารถจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะต้องคำนึงถึงความเป็นอิสระและความเป็นเลิศทางวิชาการสมควรปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยให้เป็นไปในแนวทางดังกล่าว โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า ในเรื่องของการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยกฎหมายฉบับนี้ให้ความสำคัญกับ ส่วนงานด้านวิชาการน้อยมาก เรื่องของสถานะของภาพของข้าราชการมหาวิทยาลัยภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้อยากให้ดูแลด้วยเรื่องรายได้ของมหาวิทยาลัยกรณีการใช้ประโยชน์ในที่ดินควรกำหนดการจัดประโยชน์และระเบียบการใช้ที่ดินให้เป็นระบบเดียวกันทุกมหาวิทยาลัย เรื่องของการเรียกเก็บ ค่าบำรุงและค่าธรรมเนียม ยังไม่ควรปรับขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนักศึกษาและผู้ปกครอง ควรกำหนดให้มีกฎหมายกลางสำหรับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐเพื่อเป็นกรอบกำหนดทิศทาง ของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปในแนวเดียวกัน ควรกำหนดกรอบขอบเขตผลประโยชน์ที่บริษัทเอกชน หรือหน่วยงานภาครัฐจะได้รับในการให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยไว้ด้วย อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงข้อดีและข้อเสียของการที่มหาวิทยาลัยจะออกนอกระบบให้แก่นักศึกษาและประชาชนทราบด้วย โดยเฉพาะในเรื่องค่าเล่าเรียนและในเรื่องที่ระบุให้มหาวิทยาลัยมีอำนาจจำหน่ายจ่าย โอนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มาจากการอุทิศให้ของผู้มีจิตศรัทธาควรกำหนดในเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตาม เจตนารมณ์ของผู้บริจาคเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต เมื่อสมาชิกได้อภิปรายพอ สมควรแล้ว จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่ ๑
รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนน ๒๐๐ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดแปรญัติภายใน ๗ วัน
รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนน ๒๕๐ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดแปรญัติภายใน ๗ วัน
รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ และ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง นางผ่องศรี แซ่จึง และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนนเสียง ๒๓๓ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดแปรญัติภายใน ๗ วัน โดยถือเอาร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา
๕. ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็น
ผู้เสนอ และมีร่างพระราชบัญญัติที่มีลักษณะทำนองเดียวกันได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่งนายประสิทธิ์
ชัยวิรัตนะ และนายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นผู้เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่ง พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์ เป็นผู้เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่งนางนิภา พริ้งศุลกะ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ
ที่ประชุมจึงได้มีมติให้รวมพิจารณาในคราวเดียวกัน
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงว่า โดยที่กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติกำหนดให้จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย สถาบัน วิทยาลัย หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นและให้สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาเป็นนิติบุคคล สามารถดำเนินกิจการได้ โดยอิสระพัฒนาระบบบริหารและการจัดการที่เป็นของตนเองมีความคล่องตัว มีเสรีภาพทางวิชาการ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภาสถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานศึกษานั้น ๆ และเพื่อสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์และการสาธารณสุขไทย และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี พระมารดาแห่งการสาธารณสุขไทย ในการอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยทรงมุ่งหวังให้ประชาชนไทยทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพถ้วนหน้า โดยยึดถือประโยชน์ส่วนรวมและความ ผาสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐานและ มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องส่งเสริมการศึกษาวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้เพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบสุขภาพและการให้บริการวิชาการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งการทำนุบำรุง ศิลปะ วัฒนธรรม สมควรจัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนกให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ หลังจากที่ผู้เสนอกฎหมายได้แถลงหลักการและเหตุผล ของร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับแล้ว ได้มีสมาชิกอภิปรายว่า กฎหมายฉบับนี้ได้มีการยกฐานะสถาบัน ซึ่งเป็นส่วนงาน ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นนิติบุคคล และสามารถเปิดสอนถึงระดับปริญญาเอกได้ ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้จึงควรมีการกำหนดกลไกเพื่อส่งเสริมให้สามารถปฏิบัติได้จริง และเนื่องจากสถาบันนี้มีความแตกต่างจากสถาบันอื่น เนื่องจากเป็นการศึกษาเฉพาะทางที่ไม่ได้สังกัดในกระทรวงศึกษาธิการและเนื่องจากมีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับซึ่งมีประสบการณ์ในการเป็นมหาวิทยาลัยไม่มากนักแม้จะจัดการศึกษาเทียบเท่าปริญญามาแล้วก็ตาม ดังนั้นหากจะให้กฎหมายฉบับนี้เอื้ออำนวยและส่งเสริมให้สถาบันดำเนินไปได้โดยสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์จึงควรที่จะพิจารณาสารบัญญัติบางประการในกฎหมายฉบับนี้เป็นพิเศษ ในเรื่องของสภาสถาบันควรให้มีตัวแทนของท้องถิ่นรวมอยู่ด้วยและควรให้สถาบันจัดหลักสูตรที่จะผลิตบุคลากรให้ออกมาช่วยเหลือดูแล ประชาชนในการป้องกันรักษาสุขภาพของตนเองให้มากที่สุดซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่ามุ่งเน้นในด้านการรักษา ในเรื่องบทเฉพาะกาลเรื่องสภาสถาบันในระยะเริ่มแรกควรกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นนายกสภาสถาบันจะเหมาะสมกว่า ในเรื่องสิทธิประโยชน์ของบุคคลากรของสถาบันและการดำเนินการทางวินัยต่าง ๆ ให้ชัดเจน จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่าจะนำข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ควรกำหนดไปพิจารณาในขั้นกรรมาธิการด้วย เมื่อสมาชิกได้อภิปราย พอสมควรแล้วได้ลงมติในวาระที่ ๑ รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับ พร้อมกันไป ด้วยคะแนน ๒๗๕ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดการแปรญัตติภายใน ๗ วัน โดยถือเอาร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา
ก่อนปิดประชุม ที่ประชุมได้เห็นชอบให้นำเรื่องการ ตั้งซ่อมกรรมาธิการสามัญประจำสภาคณะต่าง ๆ ขึ้นมาพิจารณาดังนี้
คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สภาผู้แทนราษฎร
ที่ประชุมได้ลงมติเลือกนายธีระ สลักเพชร เป็นกรรมาธิการแทน นางประไพพรรณ เส็งประเสริฐ
คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้ลงมติเลือก
นายยงยุทธ สุวภาพ เป็นกรรมาธิการแทน นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร
คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้ลงมติเลือก นายสมพงษ์ หริกุล เป็นกรรมาธิการแทน นายจินดา
วงศ์สวัสดิ์
คณะกรรมาธิการการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้
ลงมติเลือกนายบุรณัชย์ สมุทรักษ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายยงยุทธ สุวภาพ และนายประสิทธิ ภักดีณิชพงศ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ
คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้
ลงมติเลือกนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายเจริญ คันธวงศ์
ปิดประชุมเวลา ๑๗.๕๕ นาฬิกา
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๗
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๓ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๐.๑๐ นาฬิกา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เมื่อครบองค์ประชุมประธาน การประชุมได้ดำเนินการพิจารณาตามระเบียบวาระ คือ ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม ไม่มี และ ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ซึ่งประธานการประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งข้อสังเกตว่า ภารกิจในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของพนักงาน ป.ป.ส. ที่ผ่านมานั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการกำจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยอย่างเต็มที่ตามนโยบายของ รัฐบาล และได้จัดทำรายงาน โดยแยกเป็นหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์ ซึ่งจากรายงานจะเห็นได้ว่า ป.ป.ส. มีผลการดำเนินการที่ดีเยี่ยมและสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามปัญหายาเสพติดก็ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการปราบปรามยาเสพติดและการป้องกันผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับความเสียหายนั้นยัง ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และสถิติของการจับกุมในคดียาเสพติดตั้งแต่ปี ๒๕๔๒-๒๕๔๖ นั้น ยังไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ซึ่งผู้ต้องหารายใหญ่ที่ถูกจับกุมก็มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้น อีกทั้ง ในรายงานไม่ได้นำเสนอแนวนโยบายในการแก้ไขปัญหาและวิธีการค้นหาต้นตอของปัญหาเพื่อการ แก้ไขที่ยั่งยืน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ป.ป.ส. ควรจัดอบรม และให้ความรู้แก่อาสาสมัครประจำชุมชนให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรให้ความคุ้มครองความปลอดภัย ตลอดจนเร่งรัดให้รางวัลการจับกุมแก่อาสาสมัครด้วย
จากนั้น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงว่า ปัญหายาเสพติดนั้นเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว และไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาของโลกอีกด้วย ซึ่งทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องมา โดยตลอด ทั้งนี้หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศสงครามกับยาเสพติดแล้ว ทำให้สามารถขจัดปัญหาไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการปราบปราม การลดสารที่ใช้ในการผลิตยา การลดจำนวนผู้ติดยา และการป้องกัน กลุ่มเสี่ยง โดยไม่เลือกปฏิบัติและยึดมั่นในหลักของกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับการสกัดกั้น ตามแนวชายแดนนั้น รัฐบาลได้พยายามสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และถึงแม้ว่าประเทศพม่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ในด้านของความ ร่วมมือและสัญญาต่าง ๆ นั้น ก็ยังคงอยู่ อีกทั้งในส่วนของการให้ข่าวแก่สื่อมวลชนนั้น ทาง ป.ป.ส. จะพยายามให้เกิดผลกระทบกับบุคคลอื่นน้อยที่สุด และในกรณีของการใช้อาสาสมัครประจำชุมชนนั้นเป็นกลไกของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ โดยการส่งเสริมให้มีการสร้าง พลังชุมชนทั่วประเทศเพื่อแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูผู้ติดยา เสพติดด้วย โดยการบำบัดผู้ติดยาแล้วจัดให้อยู่ในชุมชนใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทดลองปฏิบัติแล้วประสบความสำเร็จ และผู้ได้รับการบำบัดสามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ สำหรับการให้รางวัลการจับกุมนั้นจะจ่ายรางวัล ๒ ครั้ง คือ ก่อนที่ศาลจะพิพากษาและหลังจากที่ศาลพิพากษาแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะอื่น ๆ นั้น ทาง ป.ป.ส. พร้อมที่จะรับไปพิจารณาและดำเนินการต่อไป
พักการประชุมเวลา ๑๓.๒๕ นาฬิกา
ต่อจากนั้นในเวลา ๑๓.๔๐ นาฬิกา ได้มีการพิจารณากระทู้ต่าง ๆ คือ
กระทู้ถามสด จำนวน ๓ เรื่อง
๑. กระทู้ถามสดของนายสนั่น สุธากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล พรรค
ประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบ ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นผู้ตอบกระทู้ว่า หลักการวิธีประพฤติปฏิบัติตนของข้าราชการประจำนั้น ได้มี กฎระเบียบของข้าราชการพลเรือนกำหนดไว้ว่า ข้าราชการพลเรือนต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ประชาชน หรือส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตนซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชน ถ้าผู้ใดละเมิดจะเป็นความผิดทางวินัยหรือผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามแต่พฤติกรรมหรือการกระทำนั้น ๆ สำหรับกรณีที่ข้าราชการได้ประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้องนั้น ในส่วนของข้าราชการประจำถ้าปรากฏหลักฐานชัด สามารถร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาได้ และในส่วนของข้าราชการการเมืองมีวิธีปฏิบัติตามเกณฑ์ มาตรฐานหรือแนวปฏิบัติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งข้าราชการการเมืองต่างจากข้าราชการประจำ คือ ไม่มีการกำหนดเรื่องของวินัย จึงทำให้มีปัญหาในการกำกับดูแล อย่างไรก็ตามข้าราชการการเมืองอาจมีโอกาสลงสมัครรับเลือกตั้งในขณะที่ตนยังมีสถานะเป็นข้าราชการการเมืองได้โดยไม่ต้องลาออก แต่ต้องไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด และอย่าใช้ของทางราชการในทางที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวหรือประโยชน์ของพรรคการเมือง และถ้ามีความผิดสามารถดำเนินการตามกฎหมายอื่นได้ที่ไม่ใช่กฎหมายที่เกี่ยวกับวินัย
๒. กระทู้ถามสดของนายตรีพล เจาะจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกรอบสอง ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุข (นายแพทย์สุชัย จรัญรัตนกุล) ได้ร่วมตอบกระทู้ว่า รัฐบาลได้มีการประชุมอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการดำเนินการเชิงรุกในการควบคุม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากสัตว์ปีกมาสู่คน โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สามารถยืนยันได้จากห้องแล็บวิทยาศาสตร์ว่า ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกจากสัตว์ปีกเลย สำหรับประชาชนที่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งคาดว่าจะติดเชื้อไข้หวัดนกนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่าง แน่นอนในรอบสองนี้ เพราะได้มีการพิสูจน์แล้ว แต่ในการระบาดรอบที่ ๑ นั้นไม่แน่ใจ
นอกจากนโยบายเชิงรุกดังกล่าวแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการแบบสากล โดยเน้นที่ผลลัพธ์ ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ เพราะในเชิงรุกนั้นได้ใช้สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ โรงพยาบาลศูนย์ รวมทั้งโรงพยาบาลทั่วไป ในการให้ความรู้แก่ประชาชน การป้องกัน รวมทั้งได้มีอาสาสมัครทั่วประเทศครอบคลุมพื้นที่ ๗๕,๐๐๐ หมู่บ้าน ในการดูแลโดยการให้เจ้าหน้าที่ ไปแจ้งให้ประชาชนทราบว่า กลุ่มเสี่ยงจะติดไข้หวัดนกได้อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสัมผัสสัตว์ปีก ที่เสียชีวิตหรือจูบปากสัตว์ปีกที่มีเชื้อ ในนโยบายดังกล่าวนี้สามารถทำให้ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนขึ้น ตลอดจนได้มีนโยบายคัดกรอง คือ ได้นำผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดนกมาคัดกรองว่า มีจำนวนมากน้อยเพียงใด ซึ่งในการใช้นโยบายคัดกรองนี้ผลปรากฏว่า ไม่มีผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดนกเลย
๓. กระทู้ถามสดของนายวัฒนา เซ่งไพเราะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ผลกระทบจากการปล่อยราคาน้ำมันเบนซินลอยตัว ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช) ได้ตอบกระทู้ว่า นโยบายในการดูแลการปล่อยราคาน้ำมันเบนซินลอยตัวนั้น รัฐบาลได้พยายามตรึงราคามาอย่าง ต่อเนื่อง และจะตรึงราคาไปจนหมดฤดูหนาว เพราะฤดูหนาวนั้นภาวะของโลกต้องใช้น้ำมันดีเซล ในการผลิตความร้อนในแถบประเทศยุโรปมาก แต่แนวโน้มในอนาคตของราคาน้ำมันจะลดราคาลงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้มากที่สุด สำหรับน้ำมันเบนซินนั้นในขณะนี้ได้มีการปล่อยลอยตัว ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาที่เกิดขึ้นในตลาดโลก และถ้ามีราคาสูงมากเกินไปรัฐบาลจะเข้าไปช่วยพยุงราคาน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัด น้ำมันด้วยเช่นกัน
กระทู้ถามทั่วไป จำนวน ๘ เรื่อง
๑. กระทู้ถามของนายประกอบ รัตนพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการรับสัญญาณถ่ายทอดของสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ ในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่ง รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้ตอบกระทู้ว่า เขตทุ่งสงในช่วงที่ผ่านมานั้นมีปัญหาในเรื่องเครือข่ายชำรุด เครื่องเสีย จึงทำให้พื้นที่ของการออกอากาศสามารถครอบคลุมได้เพียง ๒๐% และ ในปัจจุบันได้ดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว และสามารถครอบคลุมพื้นที่ทุ่งสงได้ ๗๐% แต่ยังมี บางจุดที่เป็นจุดอับ ซึ่งสัญญาณไปไม่ถึงเพราะมีภูเขามาก อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในระยะยาว คือ การตั้งเสาอากาศ โดยเฉพาะในเขตทุ่งสงนั้นขณะนี้ได้ดำเนินการสำรวจและจัดสรรงบประมาณลงไป เพื่อให้มีการติดตั้งเสาอากาศให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
๒. กระทู้ถามของนายเชน เทือกสุบรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายแพทย์สุชัย เจริญรัตนกุล) ได้ตอบกระทู้ว่า โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ๓๐ บาท รักษาทุกโรค เป็นระบบที่ดีในการดูแลประชาชนผู้ยากไร้อย่างเป็นระบบชัดเจนและแท้จริง สำหรับพระสงฆ์นั้นรัฐบาลได้มีนโยบายในการใช้สิทธิเหมือนประชาชนทั่วไป คือ พระสงฆ์ที่มีบัตรประจำตัวประชาชนและมีหมายเลขบัตร ๑๓ หลัก สามารถใช้บริการ ๓๐ บาท รักษาทุกโรคได้ แต่กรณีที่พระสงฆ์ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือบวชนาน พระสงฆ์ดังกล่าวนี้สามารถใช้ใบสุทธิของสงฆ์ได้ และรัฐบาลได้ประสานงานกับกรมการปกครองให้มีเลข ๑๓ หลัก ในใบสุทธิด้วย เพื่อสามารถนำไปใช้ในโครงการ ๓๐ บาท รักษาทุกโรคได้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ส่วนกรณีที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและใบสุทธิก็สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ โดยให้ โรงพยาบาลใช้งบประมาณบำรุงโรงพยาบาลไปก่อนและแจ้งไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะได้ ทดแทนค่าใช้จ่ายเป็นองค์ ๆ ไป
๓. กระทู้ถามของพันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ขอให้ขยายขนาดโรงพยาบาลปากช่องนานา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายแพทย์สุชัย เจริญรัตนกุล) ได้ตอบกระทู้ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีโครงการขยายขนาดของเตียงจำนวน ๒๐๐ เตียง และรัฐบาลได้มีการนำเสนอแผนการลงทุนให้โรงพยาบาลปากช่อง ขยายเป็น ๒๐๐ เตียง แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นของการพิจารณา และคาดว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก รัฐบาลอย่างแน่นอนในอนาคต
๔. กระทู้ถามของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการห้ามแพทย์จ่ายยาในคลินิค ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
๕. กระทู้ถามของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การรับสมัครและคัดเลือกอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และบุตรของอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อเข้าศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข
๖. กระทู้ถามของนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การใช้แรงงานเด็กและเยาวชน ถามนายกรัฐมนตรี
๗. กระทู้ถามของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรค
ไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง มาตรการยกเลิกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ตลอดชีพ ถามนายกรัฐมนตรี
๘. กระทู้ถามของนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาความเสื่อมศีลธรรมของบุคลากรในสถานศึกษา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ซึ่งทั้ง ๕ กระทู้ถาม (ข้อ ๔ - ข้อ ๘) ผู้ตั้งกระทู้ถามขอถอนกระทู้ถามออกไป ดังนั้นกระทู้ถามดังกล่าวจึงตกไปตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๓๕
ปิดประชุมเวลา ๑๖.๑๕ นาฬิกา
--------------------------------------------------------
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๗
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๒ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๓.๔๕ นาฬิกา โดยมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอหารือในเรื่องต่าง ๆ แล้ว เมื่อครบองค์ประชุม ได้ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ ดังนี้
๑. กระทู้ถาม (ไม่มี)
๒. เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม
ประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
๑. รับทราบประกาศสภาผู้แทนราษฎรเรื่องให้ผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรค
การเมืองในลำดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้นประธานได้ขอให้นายบุรณัชย์ สมุทรักษ์ ซึ่งเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ ๓๙ ของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนขึ้นเพื่อปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๕๐
๒. รับทราบเรื่องนายกรัฐมนตรีได้รับร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินไว้พิจารณาให้คำรับรอง คือ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษานอกโรงเรียน พ.ศ. …. ซึ่งนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ
๓. รับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ….
โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎรแก้ไข เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป
๔. รับทราบเรื่องวุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติจำนวน ๓ ฉบับ ดังนี้
๔.๑ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัด
กาญจนบุรี พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว
๔.๒ ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบแล้ว
๔.๓ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พ.ศ. …. ซึ่ง คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมรับทราบ
๓. รับรองรายงานการประชุม (ไม่มี)
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่มีมติให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ตามลำดับดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่ง คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณารายงานฉบับนี้ โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า การที่กรรมาธิการได้แก้ไขถ้อยคำในบางมาตราให้สอดคล้องกันเพื่อที่จะให้ข้าราชการในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาสามารถ ที่จะมีเวลาราชการได้เกินกว่าหกสิบปีนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง และเห็นด้วยกับการแก้ไขถ้อยคำของกรรมาธิการร่วมกัน เมื่อสมาชิกได้อภิปรายพอสมควรแล้วได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ตามที่คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณา ด้วยคะแนน ๒๔๒ เสียง
๒. ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. ซึ่งคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ และมีร่างพระราชบัญญัติที่มีลักษณะทำนองเดียวกันได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. ซึ่งนายวัฒนา เซ่งไพเราะ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
ที่ประชุมจึงได้มีมติให้รวมพิจารณาในคราวเดียวกัน
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงว่า ตามที่ได้มีการแก้ไข พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ โดยมีสาระสำคัญคือให้นำเงินบำเหน็จ ตกทอดซึ่งปกติจะต้องจ่ายให้แก่ทายาทของข้าราชการพลเรือนผู้รับบำนาญ เมื่อข้าราชการพลเรือน ผู้รับบำนาญผู้นั้นถึงแก่กรรมเป็นจำนวนสามสิบเท่าของเงินบำนาญ โดยให้นำมาจ่ายให้ผู้รับบำนาญก่อนจำนวนสิบห้าเท่าของเงินบำนาญ ซึ่งเรียกว่าเงินบำเหน็จดำรงชีพประกอบกับพระราชบัญญัติ ดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๖ แล้ว โดยการที่การจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่นยึดหลักการเดียวกับการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการพลเรือน ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงได้แก้ไขพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกับข้าราชการพลเรือน โดยมีสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่แก้ไขดังนี้
๑. เพิ่มหลักการในเรื่องบำเหน็จดำรงชีพโดยให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ได้รับบำนาญสามารถนำเงินบำเหน็จตกทอดมาใช้ได้ไม่เกิน ๑๕ เท่าของเงินบำนาญเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน
๒. ปรับโครงสร้างคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่มี
หน้าที่กำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับ การปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พร้อมทั้งให้เพิ่มผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกองทุนด้วย หลังจากผู้เสนอกฎหมายได้แถลงหลักการและเหตุผล ตามลำดับ แล้ว มีสมาชิกได้อภิปรายในประเด็นต่าง ๆ ว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นมีชื่อย่อว่าอย่างไร และในเรื่ององค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนฯ จะมีตัวแทนของกรุงเทพมหานคร หรือเมืองพัทยาหรือไม่ เรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง พร้อมกันนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้วขอให้มีการจัดสรรเงินให้แก่คณะครูอาจารย์ซึ่งสังกัดกรุงเทพมหานครโดยตรงและหากจำนวนเงินที่จัดสรรมีจำนวนมากขอให้ได้รับในคราวเดียวกัน และขอเร่งรัดให้ทันในปีงบประมาณนี้ด้วย หลังจากที่สมาชิกได้อภิปราย พอสมควรแล้วที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนน ๒๔๐ เสียง ในวาระที่ ๑ รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๒ ฉบับ พร้อมกันไป และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา โดยถือเอาร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา กำหนดแปรญัตติภายใน ๒ วัน
๓. ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ผู้รักษาการตามกฎหมาย) ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า ในเรื่องการ ที่ให้ประธานศาลฎีกาสามารถออกข้อบังคับเพื่อให้การดำเนินคดีอาญาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้ โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมก่อนนั้นมีเหตุผลอย่างไร ซึ่ง คณะกรรมาธิการได้ชี้แจงว่า เนื่องจากคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีหน้าที่ความรับผิดชอบในส่วนของงานบริหารหรืองานธุรการเท่านั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของการดำเนินการออกข้อบังคับเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดีของศาลซึ่งที่เคยปฏิบัติมาก็ไม่ต้องขอให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมให้ความ เห็นชอบก่อนแต่อย่างใด จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย ๒๑๙ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๔. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วย คะแนนเสียง เห็นด้วย ๒๒๙ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๕. ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่..) พ.ศ. ….
ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า เรื่องของการเพิ่มโทษจำคุกซึ่งแต่เดิมลงโทษปรับอย่างเดียวแก่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตนำเอาเครื่องหมายมาตรฐาน อุตสาหกรรมไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งผู้ที่เลียนแบบเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยเพิ่มโทษจำคุกสามเดือนนั้นมีเจตนารมณ์อย่างไรถึงเพิ่มโทษจำคุกและเห็นว่าไม่จำเป็นเนื่องจากลงโทษปรับสูงอยู่แล้ว เรื่องการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่นำใบอนุญาตไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งกรรมาธิการแก้ไขกำหนดให้มีแต่โทษปรับขั้นสูงไว้แต่ไม่กำหนดโทษขั้นต่ำเห็นว่าควรคงไว้ตามร่างเดิมที่มีการกำหนดโทษปรับขั้นต่ำไว้ด้วยจะเหมาะสมกว่า ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ผลัดเปลี่ยนกันชี้แจงว่า เรื่องการนำเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมไปใช้โดยไม่รับอนุญาตและการลอกเลียนเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมนั้นถือเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและเพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อการกระทำผิดตลอดจนเป็นการคุ้มครองสังคมและสุจริตชนด้วย เรื่องการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่นำใบอนุญาตไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน กรรมาธิการเห็นว่าเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการกำหนดโทษในกรณีอื่น ซึ่งบัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับนี้ จึงเห็นสมควรกำหนดไว้เฉพาะโทษปรับขั้นสูงเท่านั้น และเพื่อให้เป็นดุลยพินิจของศาลในการตัดสินกำหนดโทษด้วย จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย ๒๔๖ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
๖. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว
ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในวาระที่ ๒ โดย เริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ และเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่าง จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ ๓ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย ๒๒๙ เสียง เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปตามรัฐธรรมนูญ
จากนั้นได้มีสมาชิกเสนอขอเปลี่ยนระเบียบวาระโดยเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติต่าง ๆ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. …. ซึ่ง คณะรัฐมนตรี
เป็นผู้เสนอ
๒. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. …. ซึ่ง คณะรัฐมนตรี
เป็นผู้เสนอ
๓. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ
๔. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง นางผ่องศรี แซ่จึง
และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ
เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติทั้งสี่ฉบับมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ที่ประชุมจึงได้มีมติให้พิจารณาพร้อมกันไปในคราวเดียวกัน
ต่อจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แถลงถึงหลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับตามลำดับว่าโดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับแนวนโยบายของรัฐบาลได้ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยของรัฐพัฒนาไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการที่เป็นอิสระและมีความคล่องตัวสามารถจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะต้องคำนึงถึงความเป็นอิสระและความเป็นเลิศทางวิชาการสมควรปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยให้เป็นไปในแนวทางดังกล่าว โดยสมาชิกได้อภิปรายว่า ในเรื่องของการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัยกฎหมายฉบับนี้ให้ความสำคัญกับ ส่วนงานด้านวิชาการน้อยมาก เรื่องของสถานะของภาพของข้าราชการมหาวิทยาลัยภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้อยากให้ดูแลด้วยเรื่องรายได้ของมหาวิทยาลัยกรณีการใช้ประโยชน์ในที่ดินควรกำหนดการจัดประโยชน์และระเบียบการใช้ที่ดินให้เป็นระบบเดียวกันทุกมหาวิทยาลัย เรื่องของการเรียกเก็บ ค่าบำรุงและค่าธรรมเนียม ยังไม่ควรปรับขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนักศึกษาและผู้ปกครอง ควรกำหนดให้มีกฎหมายกลางสำหรับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐเพื่อเป็นกรอบกำหนดทิศทาง ของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปในแนวเดียวกัน ควรกำหนดกรอบขอบเขตผลประโยชน์ที่บริษัทเอกชน หรือหน่วยงานภาครัฐจะได้รับในการให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยไว้ด้วย อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงข้อดีและข้อเสียของการที่มหาวิทยาลัยจะออกนอกระบบให้แก่นักศึกษาและประชาชนทราบด้วย โดยเฉพาะในเรื่องค่าเล่าเรียนและในเรื่องที่ระบุให้มหาวิทยาลัยมีอำนาจจำหน่ายจ่าย โอนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มาจากการอุทิศให้ของผู้มีจิตศรัทธาควรกำหนดในเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตาม เจตนารมณ์ของผู้บริจาคเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต เมื่อสมาชิกได้อภิปรายพอ สมควรแล้ว จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่ ๑
รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนน ๒๐๐ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดแปรญัติภายใน ๗ วัน
รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนน ๒๕๐ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดแปรญัติภายใน ๗ วัน
รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง
คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ และ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. …. ซึ่ง นางผ่องศรี แซ่จึง และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนนเสียง ๒๓๓ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดแปรญัติภายใน ๗ วัน โดยถือเอาร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา
๕. ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็น
ผู้เสนอ และมีร่างพระราชบัญญัติที่มีลักษณะทำนองเดียวกันได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่งนายประสิทธิ์
ชัยวิรัตนะ และนายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นผู้เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่ง พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์ เป็นผู้เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. …. ซึ่งนางนิภา พริ้งศุลกะ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ
ที่ประชุมจึงได้มีมติให้รวมพิจารณาในคราวเดียวกัน
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงว่า โดยที่กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติกำหนดให้จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย สถาบัน วิทยาลัย หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นและให้สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาเป็นนิติบุคคล สามารถดำเนินกิจการได้ โดยอิสระพัฒนาระบบบริหารและการจัดการที่เป็นของตนเองมีความคล่องตัว มีเสรีภาพทางวิชาการ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภาสถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานศึกษานั้น ๆ และเพื่อสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์และการสาธารณสุขไทย และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี พระมารดาแห่งการสาธารณสุขไทย ในการอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยทรงมุ่งหวังให้ประชาชนไทยทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพถ้วนหน้า โดยยึดถือประโยชน์ส่วนรวมและความ ผาสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐานและ มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องส่งเสริมการศึกษาวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้เพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบสุขภาพและการให้บริการวิชาการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งการทำนุบำรุง ศิลปะ วัฒนธรรม สมควรจัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนกให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ หลังจากที่ผู้เสนอกฎหมายได้แถลงหลักการและเหตุผล ของร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับแล้ว ได้มีสมาชิกอภิปรายว่า กฎหมายฉบับนี้ได้มีการยกฐานะสถาบัน ซึ่งเป็นส่วนงาน ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นนิติบุคคล และสามารถเปิดสอนถึงระดับปริญญาเอกได้ ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้จึงควรมีการกำหนดกลไกเพื่อส่งเสริมให้สามารถปฏิบัติได้จริง และเนื่องจากสถาบันนี้มีความแตกต่างจากสถาบันอื่น เนื่องจากเป็นการศึกษาเฉพาะทางที่ไม่ได้สังกัดในกระทรวงศึกษาธิการและเนื่องจากมีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับซึ่งมีประสบการณ์ในการเป็นมหาวิทยาลัยไม่มากนักแม้จะจัดการศึกษาเทียบเท่าปริญญามาแล้วก็ตาม ดังนั้นหากจะให้กฎหมายฉบับนี้เอื้ออำนวยและส่งเสริมให้สถาบันดำเนินไปได้โดยสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์จึงควรที่จะพิจารณาสารบัญญัติบางประการในกฎหมายฉบับนี้เป็นพิเศษ ในเรื่องของสภาสถาบันควรให้มีตัวแทนของท้องถิ่นรวมอยู่ด้วยและควรให้สถาบันจัดหลักสูตรที่จะผลิตบุคลากรให้ออกมาช่วยเหลือดูแล ประชาชนในการป้องกันรักษาสุขภาพของตนเองให้มากที่สุดซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่ามุ่งเน้นในด้านการรักษา ในเรื่องบทเฉพาะกาลเรื่องสภาสถาบันในระยะเริ่มแรกควรกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นนายกสภาสถาบันจะเหมาะสมกว่า ในเรื่องสิทธิประโยชน์ของบุคคลากรของสถาบันและการดำเนินการทางวินัยต่าง ๆ ให้ชัดเจน จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่าจะนำข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ควรกำหนดไปพิจารณาในขั้นกรรมาธิการด้วย เมื่อสมาชิกได้อภิปราย พอสมควรแล้วได้ลงมติในวาระที่ ๑ รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับ พร้อมกันไป ด้วยคะแนน ๒๗๕ เสียง และมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๕ คน เพื่อพิจารณา กำหนดการแปรญัตติภายใน ๗ วัน โดยถือเอาร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา
ก่อนปิดประชุม ที่ประชุมได้เห็นชอบให้นำเรื่องการ ตั้งซ่อมกรรมาธิการสามัญประจำสภาคณะต่าง ๆ ขึ้นมาพิจารณาดังนี้
คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สภาผู้แทนราษฎร
ที่ประชุมได้ลงมติเลือกนายธีระ สลักเพชร เป็นกรรมาธิการแทน นางประไพพรรณ เส็งประเสริฐ
คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้ลงมติเลือก
นายยงยุทธ สุวภาพ เป็นกรรมาธิการแทน นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร
คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้ลงมติเลือก นายสมพงษ์ หริกุล เป็นกรรมาธิการแทน นายจินดา
วงศ์สวัสดิ์
คณะกรรมาธิการการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้
ลงมติเลือกนายบุรณัชย์ สมุทรักษ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายยงยุทธ สุวภาพ และนายประสิทธิ ภักดีณิชพงศ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ
คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้
ลงมติเลือกนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายเจริญ คันธวงศ์
ปิดประชุมเวลา ๑๗.๕๕ นาฬิกา
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๗
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๓ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๐.๑๐ นาฬิกา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เมื่อครบองค์ประชุมประธาน การประชุมได้ดำเนินการพิจารณาตามระเบียบวาระ คือ ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม ไม่มี และ ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ซึ่งประธานการประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งข้อสังเกตว่า ภารกิจในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของพนักงาน ป.ป.ส. ที่ผ่านมานั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการกำจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยอย่างเต็มที่ตามนโยบายของ รัฐบาล และได้จัดทำรายงาน โดยแยกเป็นหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์ ซึ่งจากรายงานจะเห็นได้ว่า ป.ป.ส. มีผลการดำเนินการที่ดีเยี่ยมและสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามปัญหายาเสพติดก็ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการปราบปรามยาเสพติดและการป้องกันผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับความเสียหายนั้นยัง ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และสถิติของการจับกุมในคดียาเสพติดตั้งแต่ปี ๒๕๔๒-๒๕๔๖ นั้น ยังไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ซึ่งผู้ต้องหารายใหญ่ที่ถูกจับกุมก็มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้น อีกทั้ง ในรายงานไม่ได้นำเสนอแนวนโยบายในการแก้ไขปัญหาและวิธีการค้นหาต้นตอของปัญหาเพื่อการ แก้ไขที่ยั่งยืน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ป.ป.ส. ควรจัดอบรม และให้ความรู้แก่อาสาสมัครประจำชุมชนให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรให้ความคุ้มครองความปลอดภัย ตลอดจนเร่งรัดให้รางวัลการจับกุมแก่อาสาสมัครด้วย
จากนั้น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงว่า ปัญหายาเสพติดนั้นเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว และไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาของโลกอีกด้วย ซึ่งทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องมา โดยตลอด ทั้งนี้หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศสงครามกับยาเสพติดแล้ว ทำให้สามารถขจัดปัญหาไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการปราบปราม การลดสารที่ใช้ในการผลิตยา การลดจำนวนผู้ติดยา และการป้องกัน กลุ่มเสี่ยง โดยไม่เลือกปฏิบัติและยึดมั่นในหลักของกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับการสกัดกั้น ตามแนวชายแดนนั้น รัฐบาลได้พยายามสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และถึงแม้ว่าประเทศพม่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ในด้านของความ ร่วมมือและสัญญาต่าง ๆ นั้น ก็ยังคงอยู่ อีกทั้งในส่วนของการให้ข่าวแก่สื่อมวลชนนั้น ทาง ป.ป.ส. จะพยายามให้เกิดผลกระทบกับบุคคลอื่นน้อยที่สุด และในกรณีของการใช้อาสาสมัครประจำชุมชนนั้นเป็นกลไกของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ โดยการส่งเสริมให้มีการสร้าง พลังชุมชนทั่วประเทศเพื่อแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูผู้ติดยา เสพติดด้วย โดยการบำบัดผู้ติดยาแล้วจัดให้อยู่ในชุมชนใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทดลองปฏิบัติแล้วประสบความสำเร็จ และผู้ได้รับการบำบัดสามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ สำหรับการให้รางวัลการจับกุมนั้นจะจ่ายรางวัล ๒ ครั้ง คือ ก่อนที่ศาลจะพิพากษาและหลังจากที่ศาลพิพากษาแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะอื่น ๆ นั้น ทาง ป.ป.ส. พร้อมที่จะรับไปพิจารณาและดำเนินการต่อไป
พักการประชุมเวลา ๑๓.๒๕ นาฬิกา
ต่อจากนั้นในเวลา ๑๓.๔๐ นาฬิกา ได้มีการพิจารณากระทู้ต่าง ๆ คือ
กระทู้ถามสด จำนวน ๓ เรื่อง
๑. กระทู้ถามสดของนายสนั่น สุธากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล พรรค
ประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบ ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นผู้ตอบกระทู้ว่า หลักการวิธีประพฤติปฏิบัติตนของข้าราชการประจำนั้น ได้มี กฎระเบียบของข้าราชการพลเรือนกำหนดไว้ว่า ข้าราชการพลเรือนต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ประชาชน หรือส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตนซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชน ถ้าผู้ใดละเมิดจะเป็นความผิดทางวินัยหรือผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามแต่พฤติกรรมหรือการกระทำนั้น ๆ สำหรับกรณีที่ข้าราชการได้ประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้องนั้น ในส่วนของข้าราชการประจำถ้าปรากฏหลักฐานชัด สามารถร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาได้ และในส่วนของข้าราชการการเมืองมีวิธีปฏิบัติตามเกณฑ์ มาตรฐานหรือแนวปฏิบัติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งข้าราชการการเมืองต่างจากข้าราชการประจำ คือ ไม่มีการกำหนดเรื่องของวินัย จึงทำให้มีปัญหาในการกำกับดูแล อย่างไรก็ตามข้าราชการการเมืองอาจมีโอกาสลงสมัครรับเลือกตั้งในขณะที่ตนยังมีสถานะเป็นข้าราชการการเมืองได้โดยไม่ต้องลาออก แต่ต้องไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด และอย่าใช้ของทางราชการในทางที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวหรือประโยชน์ของพรรคการเมือง และถ้ามีความผิดสามารถดำเนินการตามกฎหมายอื่นได้ที่ไม่ใช่กฎหมายที่เกี่ยวกับวินัย
๒. กระทู้ถามสดของนายตรีพล เจาะจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกรอบสอง ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุข (นายแพทย์สุชัย จรัญรัตนกุล) ได้ร่วมตอบกระทู้ว่า รัฐบาลได้มีการประชุมอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการดำเนินการเชิงรุกในการควบคุม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากสัตว์ปีกมาสู่คน โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สามารถยืนยันได้จากห้องแล็บวิทยาศาสตร์ว่า ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกจากสัตว์ปีกเลย สำหรับประชาชนที่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งคาดว่าจะติดเชื้อไข้หวัดนกนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่าง แน่นอนในรอบสองนี้ เพราะได้มีการพิสูจน์แล้ว แต่ในการระบาดรอบที่ ๑ นั้นไม่แน่ใจ
นอกจากนโยบายเชิงรุกดังกล่าวแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการแบบสากล โดยเน้นที่ผลลัพธ์ ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ เพราะในเชิงรุกนั้นได้ใช้สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ โรงพยาบาลศูนย์ รวมทั้งโรงพยาบาลทั่วไป ในการให้ความรู้แก่ประชาชน การป้องกัน รวมทั้งได้มีอาสาสมัครทั่วประเทศครอบคลุมพื้นที่ ๗๕,๐๐๐ หมู่บ้าน ในการดูแลโดยการให้เจ้าหน้าที่ ไปแจ้งให้ประชาชนทราบว่า กลุ่มเสี่ยงจะติดไข้หวัดนกได้อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสัมผัสสัตว์ปีก ที่เสียชีวิตหรือจูบปากสัตว์ปีกที่มีเชื้อ ในนโยบายดังกล่าวนี้สามารถทำให้ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนขึ้น ตลอดจนได้มีนโยบายคัดกรอง คือ ได้นำผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดนกมาคัดกรองว่า มีจำนวนมากน้อยเพียงใด ซึ่งในการใช้นโยบายคัดกรองนี้ผลปรากฏว่า ไม่มีผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดนกเลย
๓. กระทู้ถามสดของนายวัฒนา เซ่งไพเราะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ผลกระทบจากการปล่อยราคาน้ำมันเบนซินลอยตัว ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช) ได้ตอบกระทู้ว่า นโยบายในการดูแลการปล่อยราคาน้ำมันเบนซินลอยตัวนั้น รัฐบาลได้พยายามตรึงราคามาอย่าง ต่อเนื่อง และจะตรึงราคาไปจนหมดฤดูหนาว เพราะฤดูหนาวนั้นภาวะของโลกต้องใช้น้ำมันดีเซล ในการผลิตความร้อนในแถบประเทศยุโรปมาก แต่แนวโน้มในอนาคตของราคาน้ำมันจะลดราคาลงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้มากที่สุด สำหรับน้ำมันเบนซินนั้นในขณะนี้ได้มีการปล่อยลอยตัว ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาที่เกิดขึ้นในตลาดโลก และถ้ามีราคาสูงมากเกินไปรัฐบาลจะเข้าไปช่วยพยุงราคาน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัด น้ำมันด้วยเช่นกัน
กระทู้ถามทั่วไป จำนวน ๘ เรื่อง
๑. กระทู้ถามของนายประกอบ รัตนพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการรับสัญญาณถ่ายทอดของสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ ในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่ง รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้ตอบกระทู้ว่า เขตทุ่งสงในช่วงที่ผ่านมานั้นมีปัญหาในเรื่องเครือข่ายชำรุด เครื่องเสีย จึงทำให้พื้นที่ของการออกอากาศสามารถครอบคลุมได้เพียง ๒๐% และ ในปัจจุบันได้ดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว และสามารถครอบคลุมพื้นที่ทุ่งสงได้ ๗๐% แต่ยังมี บางจุดที่เป็นจุดอับ ซึ่งสัญญาณไปไม่ถึงเพราะมีภูเขามาก อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในระยะยาว คือ การตั้งเสาอากาศ โดยเฉพาะในเขตทุ่งสงนั้นขณะนี้ได้ดำเนินการสำรวจและจัดสรรงบประมาณลงไป เพื่อให้มีการติดตั้งเสาอากาศให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
๒. กระทู้ถามของนายเชน เทือกสุบรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายแพทย์สุชัย เจริญรัตนกุล) ได้ตอบกระทู้ว่า โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ๓๐ บาท รักษาทุกโรค เป็นระบบที่ดีในการดูแลประชาชนผู้ยากไร้อย่างเป็นระบบชัดเจนและแท้จริง สำหรับพระสงฆ์นั้นรัฐบาลได้มีนโยบายในการใช้สิทธิเหมือนประชาชนทั่วไป คือ พระสงฆ์ที่มีบัตรประจำตัวประชาชนและมีหมายเลขบัตร ๑๓ หลัก สามารถใช้บริการ ๓๐ บาท รักษาทุกโรคได้ แต่กรณีที่พระสงฆ์ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือบวชนาน พระสงฆ์ดังกล่าวนี้สามารถใช้ใบสุทธิของสงฆ์ได้ และรัฐบาลได้ประสานงานกับกรมการปกครองให้มีเลข ๑๓ หลัก ในใบสุทธิด้วย เพื่อสามารถนำไปใช้ในโครงการ ๓๐ บาท รักษาทุกโรคได้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ส่วนกรณีที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและใบสุทธิก็สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ โดยให้ โรงพยาบาลใช้งบประมาณบำรุงโรงพยาบาลไปก่อนและแจ้งไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะได้ ทดแทนค่าใช้จ่ายเป็นองค์ ๆ ไป
๓. กระทู้ถามของพันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ขอให้ขยายขนาดโรงพยาบาลปากช่องนานา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายแพทย์สุชัย เจริญรัตนกุล) ได้ตอบกระทู้ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีโครงการขยายขนาดของเตียงจำนวน ๒๐๐ เตียง และรัฐบาลได้มีการนำเสนอแผนการลงทุนให้โรงพยาบาลปากช่อง ขยายเป็น ๒๐๐ เตียง แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นของการพิจารณา และคาดว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก รัฐบาลอย่างแน่นอนในอนาคต
๔. กระทู้ถามของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาการห้ามแพทย์จ่ายยาในคลินิค ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
๕. กระทู้ถามของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การรับสมัครและคัดเลือกอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และบุตรของอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อเข้าศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข
๖. กระทู้ถามของนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การใช้แรงงานเด็กและเยาวชน ถามนายกรัฐมนตรี
๗. กระทู้ถามของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรค
ไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง มาตรการยกเลิกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ตลอดชีพ ถามนายกรัฐมนตรี
๘. กระทู้ถามของนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ
พรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาความเสื่อมศีลธรรมของบุคลากรในสถานศึกษา ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ซึ่งทั้ง ๕ กระทู้ถาม (ข้อ ๔ - ข้อ ๘) ผู้ตั้งกระทู้ถามขอถอนกระทู้ถามออกไป ดังนั้นกระทู้ถามดังกล่าวจึงตกไปตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๓๕
ปิดประชุมเวลา ๑๖.๑๕ นาฬิกา
--------------------------------------------------------