วันนี้ (24 ต.ค.47) เวลา 09.00 น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำ อาทิ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยผู้สมัครรับเลือกตั้ง จ.อุดรธานี ได้เดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง บริเวณทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี
นายบัญญัติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หายตัวไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า ตนคิดว่าไม่ดี แต่ไม่ทราบว่านายกฯ มีเหตุผลอะไรถึงต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะนายกฯ เป็นตำแหน่งสำคัญของบ้านเมือง ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหา ซึ่งน่าจะได้ตอบคำถามประชาชนหลายข้อ ดังนั้นการเงียบหายไปก่อให้เกิดความไม่มั่นคงและไม่มั่นใจ ในประเทศถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเป็นคนสาธารณะ ในภาวการณ์เช่นนี้ คนที่เป็นนายกฯ ไปเที่ยวแอบซ่อนอยู่ที่ไหน ทำให้หลายฝ่ายข้องใจกันมาก ไม่ใช่เรื่องดีเลย หากเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องตั้งคนรักษาการแทน เพราะฉะนั้นตนคิดว่านายกฯ น่าจะอยูในประเทศ ดังนั้นคนเป็นนายกฯ ต้องเปิดเผย อย่างว่านายกฯ คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น
‘ส่วนที่คนใกล้ชิดนายกฯ ระบุว่า นายกฯ ต้องการพักผ่อน เนื่องจากที่ผ่านมาต้องรับภารกิจหนัก คิดว่าเรื่องพักผ่อนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ควรบอกให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน ก็บอกมาว่าไม่อยากให้ใครรบกวน ไม่อยากให้นักข่าวตามไปก็บอกกันได้ เพราะผมคิดว่าทุกคนพร้อมที่จะเคารพสิทธิของคนอื่นอยู่แล้ว แต่การเงียบหายไป แล้วมีข่าวออกมาว่าอยู่ต่างประเทศบ้าง ในประเทศบ้าง คิดว่าอย่างนี้ไม่ดี’ นายบัญญัติ กล่าว
หน.พรรคปชป.กล่าวว่า กรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้ง ตนคิดว่ารัฐบาลเตรียมการในเรื่องนี้น้อยเกินไป ซึ่งฝ่ายค้านได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่เห็นรัฐบาลเตรียมการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้มากเท่าที่ควร ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากน้ำท่วมใหญ่ทุกครั้งก็คือ ปัญหาภัยแล้ง และสินค้าขึ้นราคา ประชาชนมีปัญหาเรื่องค่าครองชีพไม่เฉพาะกทม.เท่านั้น จากการตระเวนตามตัวเมืองหลายจังหวัดบ่นถึงเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลกลับไม่ทุกข์ร้อน นอกจากนี้ ร้านโชว์ห่วยก็ได้รับผลกระทบตามมา ทั้งนี้ บรรดาพ่อค้า แม่ค้า บ่นกันมากว่าเศรษฐกิจซบเซา คนไม่ค่อยมีด้วย ดังนั้นการเกิดความแห้งแล้งซ้ำซาก แทนที่จะปลูกพืชได้ตามฤดูกาล แต่รัฐบาลขาดการเตรียมการที่ดี ก็จะกลายเป็นทุกข์ซ้ำสอง ส่งผลกระทบถึงปัญหาอื่นๆ เป็นลูกโซ่ ตามมา
‘ผมคิดว่ารัฐบาลควรเริ่มทำ แม้จะช้าไปบ้าง ก็ยังดี ประชาธิปัตย์เดินสายทั่วอีสานครั้งนี้พบว่า สถานีสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้าที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ทำไว้ในอดีตเป็นประโยชน์มากในพื้นที่ภาคอีสาน แม้จะเป็นการลงทุนมาก ทั้งนี้หากมีการปรับปรุงเครื่องส่งน้ำ คลองส่งน้ำ โดยเร็วและทุ่มเทงบประมาณจำนวนหนึ่งเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำ แต่วันนี้เท่าที่ติดตามรัฐบาลยังไม่ทำอะไร เพราะชาวบ้านบ่นกันมาก แต่รัฐบาลกลับเอาความสนใจไปที่งานคิกออฟ แคมเปญ หรือ การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมากกว่าที่จะดูแลทุกข์ สุข ประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ’ หน.พรรคปชป. กล่าว
สำหรับกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการเดินทางมาภาคอีสานควรนำเอาความจริงใจมาให้ชาวอีสานด้วย นายบัญญัติ กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง ตนคิดว่าคนอีสานวันนี้รู้แล้ววว่าใครจริงใจกับเขา ใครที่สาบานเอาไว้มาก และใครที่จริงจัง หรือไม่จริงจังอย่างไร ใครที่เอาโครงการโคกระบือมาดำเนินการในพื้นที่นี้ แต่ท้ายที่สุดก็มีปัญหาหรือใครที่ไม่เคยพูดว่าอีสานจะสีเขียว วันนี้อีสานเขียวแล้วหรือยัง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ต่างหากที่จะพิสูจน์
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคไทยรักไทยระบุว่า ขบวนคาราวานประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการสร้างภาพ และฉาบฉวยเฉพาะในการเลือกตั้ง นายบัญญัติ กล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะอะไรก็ตามที่รัฐบาลสามารถยกระดับความน่าเชื่อถือของตัวเอง หรือลดระดับความน่าเชื่อถือของคนอื่นเขาก็ต้องทำ แต่ตนคิดว่า คนไทยและคนอีสานวันนี้เขาสรุปบทเรียนได้ เพราะตามการเมืองทันแล้ว และเริ่มเข้าใจแล้วว่านโยบายหลายเรื่องที่รัฐบาลเคยบอกว่าดี แต่สุดท้ายก้มีปัญหาและหลายเรื่องก็ยังไม่ได้ทำ ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจ ตนคิดว่าคนอีสานหลอกได้ลำบากแล้ว เพราะเขาไม่เชื่อรัฐบาล
ต่อข้อถามที่ว่า อดีตพรรคการเมืองหนึ่งเคยสัญญาริมฝั่งแม่น้ำโขงพรรคประชาธิปัตย์จะทำตามเช่นนั้นหรือไม่หน.พรรคปชป. กล่าวว่า นโยบายของพรรคอาจไม่หวือหวามากมาย เหมือนบางพรรค แต่เป็นนโยบายที่พูดแล้วทำได้ ไม่เกินจริง ไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง เรื่องนี้สำคัญมากขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่า นโยบายของเรามั่นคง ยั่งยืน และไม่ทำให้ประชาชน เป็นหนี้มากขึ้น และไม่สนับสนุนให้ประชาชนฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟื่อย นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายสร้างงานให้ประชาชนมาร่วมโครงการเพื่อปลดหนี้ และล้างหนี้ไปพร้อมๆกัน นี่คือสิ่งที่เราพูดกับคนอีสานวันนี้ ซึ่งเขาก็เข้าใจ และน่ายินดีที่คนอีสานเข้าใจว่า การใช้จ่ายเงินกู้ยืมที่ได้มาง่ายๆแต่ไปใช้จ่าบฟุ่มเฟื่อยโดยไม่จำเป็น ทำให้เขามีปัญหาแล้ว เพราะ ฉะนั้นถ้ารัฐบาลมีโครงการให้เงินประชาชนในลักษณะที่ฉาบฉวยก่อให้เกิดปัญหาหนี้ขึ้นอีก เขาคงไม่พอใจ เพราะเขาต้องการที่จะล้างหนี้
ดังนั้นโครงการล้างหนี้ด้วยงานของพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เขาบอกกับตนว่า ประชาธิปัตย์ทำเมื่อไหร่ เขาก็ยินดีพร้อมเข้าร่วมโครงการ และเขาก็เริ่มพูดถึงโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะท่านทรงตระหนักว่าถ้าคนเราไม่มีความพอเพียงวันหนึ่งก็จะมีปัญหาจริงๆ ทำให้ประชาชนพร้อมที่จะนำไปเป็นแนวทางทำงานที่ถูกต้อง ‘พรรคไม่เคยคิดจะรับประกันว่าถ้าทำงานไม่ได้แล้วจะโดดน้ำโขงตาย เหมือนกับพรรคการเมืองบางพรรค เพราะพูดไปก็เหมือนไปแทงใจดำคนอื่น และไม่ใช่วิถีทางของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเรียกคะแนนนิยม โดยเฉพาะคนอีสานผิดหวังกับคำสาบานของนักการเมืองมามากแล้ว’ หน.พรรคปชป. กล่าว
นายบัญญัติ กล่าวต่อกรณีที่มีการเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลาออกจาตำแหน่งทั้งคณะจากกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับคำร้องการขึ้นค่าตอบแทนของ ป.ป.ช. ว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวคงไม่เป็นผล และเราพบว่า ป.ป.ช.ชุดนี้พยายามรักษาสถานะของท่านมาตลอด มีการยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาแล้วดิ้นรนยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ตนขอชื่นชมศาลรัฐะรรมนูญบางท่านเพราะเสียงที่/ออกมาว่าไม่ควรรับคำร้องไว้วินิจฉัยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะถ้ารับไปความน่าเชื่อถือของรัฐธรรมนูญก็คงหมดไป และหากปล่อยให้ยื่นเรื่องต่อทั้งศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฏีกา ก็จะเกิดปัญหาในอนาคตได้คือ ใครที่ถูกยื่นเรื่องต่อศาลก็ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตัดหน้าไว้ก่อน จึงถือเป็นเรื่องที่ดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องเพื่อให้กลไกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาสามารถทำงานได้ ‘ผมคงไม่เรียกร้องให้ลาออกเหมือนที่คนอื่นเขาเรียกร้องกัน เพราะถึงอย่างไรท่านก็คงไม่ลาออก และผมคิดว่าการดำเนินการให้เป็นไปตามครรลองของรัฐธรรมนูญน่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าจะทำอย่างไร ผลออกมาอย่างไรก็ยอมรับไปตามนั้น ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการยอมรับนับถือกฎหมายรัฐธรรมนูญ และน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด’ นายบัญญัติ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายบัญญัติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หายตัวไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า ตนคิดว่าไม่ดี แต่ไม่ทราบว่านายกฯ มีเหตุผลอะไรถึงต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะนายกฯ เป็นตำแหน่งสำคัญของบ้านเมือง ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหา ซึ่งน่าจะได้ตอบคำถามประชาชนหลายข้อ ดังนั้นการเงียบหายไปก่อให้เกิดความไม่มั่นคงและไม่มั่นใจ ในประเทศถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเป็นคนสาธารณะ ในภาวการณ์เช่นนี้ คนที่เป็นนายกฯ ไปเที่ยวแอบซ่อนอยู่ที่ไหน ทำให้หลายฝ่ายข้องใจกันมาก ไม่ใช่เรื่องดีเลย หากเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องตั้งคนรักษาการแทน เพราะฉะนั้นตนคิดว่านายกฯ น่าจะอยูในประเทศ ดังนั้นคนเป็นนายกฯ ต้องเปิดเผย อย่างว่านายกฯ คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น
‘ส่วนที่คนใกล้ชิดนายกฯ ระบุว่า นายกฯ ต้องการพักผ่อน เนื่องจากที่ผ่านมาต้องรับภารกิจหนัก คิดว่าเรื่องพักผ่อนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ควรบอกให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน ก็บอกมาว่าไม่อยากให้ใครรบกวน ไม่อยากให้นักข่าวตามไปก็บอกกันได้ เพราะผมคิดว่าทุกคนพร้อมที่จะเคารพสิทธิของคนอื่นอยู่แล้ว แต่การเงียบหายไป แล้วมีข่าวออกมาว่าอยู่ต่างประเทศบ้าง ในประเทศบ้าง คิดว่าอย่างนี้ไม่ดี’ นายบัญญัติ กล่าว
หน.พรรคปชป.กล่าวว่า กรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้ง ตนคิดว่ารัฐบาลเตรียมการในเรื่องนี้น้อยเกินไป ซึ่งฝ่ายค้านได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่เห็นรัฐบาลเตรียมการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้มากเท่าที่ควร ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากน้ำท่วมใหญ่ทุกครั้งก็คือ ปัญหาภัยแล้ง และสินค้าขึ้นราคา ประชาชนมีปัญหาเรื่องค่าครองชีพไม่เฉพาะกทม.เท่านั้น จากการตระเวนตามตัวเมืองหลายจังหวัดบ่นถึงเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลกลับไม่ทุกข์ร้อน นอกจากนี้ ร้านโชว์ห่วยก็ได้รับผลกระทบตามมา ทั้งนี้ บรรดาพ่อค้า แม่ค้า บ่นกันมากว่าเศรษฐกิจซบเซา คนไม่ค่อยมีด้วย ดังนั้นการเกิดความแห้งแล้งซ้ำซาก แทนที่จะปลูกพืชได้ตามฤดูกาล แต่รัฐบาลขาดการเตรียมการที่ดี ก็จะกลายเป็นทุกข์ซ้ำสอง ส่งผลกระทบถึงปัญหาอื่นๆ เป็นลูกโซ่ ตามมา
‘ผมคิดว่ารัฐบาลควรเริ่มทำ แม้จะช้าไปบ้าง ก็ยังดี ประชาธิปัตย์เดินสายทั่วอีสานครั้งนี้พบว่า สถานีสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้าที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ทำไว้ในอดีตเป็นประโยชน์มากในพื้นที่ภาคอีสาน แม้จะเป็นการลงทุนมาก ทั้งนี้หากมีการปรับปรุงเครื่องส่งน้ำ คลองส่งน้ำ โดยเร็วและทุ่มเทงบประมาณจำนวนหนึ่งเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำ แต่วันนี้เท่าที่ติดตามรัฐบาลยังไม่ทำอะไร เพราะชาวบ้านบ่นกันมาก แต่รัฐบาลกลับเอาความสนใจไปที่งานคิกออฟ แคมเปญ หรือ การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมากกว่าที่จะดูแลทุกข์ สุข ประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ’ หน.พรรคปชป. กล่าว
สำหรับกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการเดินทางมาภาคอีสานควรนำเอาความจริงใจมาให้ชาวอีสานด้วย นายบัญญัติ กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง ตนคิดว่าคนอีสานวันนี้รู้แล้ววว่าใครจริงใจกับเขา ใครที่สาบานเอาไว้มาก และใครที่จริงจัง หรือไม่จริงจังอย่างไร ใครที่เอาโครงการโคกระบือมาดำเนินการในพื้นที่นี้ แต่ท้ายที่สุดก็มีปัญหาหรือใครที่ไม่เคยพูดว่าอีสานจะสีเขียว วันนี้อีสานเขียวแล้วหรือยัง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ต่างหากที่จะพิสูจน์
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคไทยรักไทยระบุว่า ขบวนคาราวานประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการสร้างภาพ และฉาบฉวยเฉพาะในการเลือกตั้ง นายบัญญัติ กล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะอะไรก็ตามที่รัฐบาลสามารถยกระดับความน่าเชื่อถือของตัวเอง หรือลดระดับความน่าเชื่อถือของคนอื่นเขาก็ต้องทำ แต่ตนคิดว่า คนไทยและคนอีสานวันนี้เขาสรุปบทเรียนได้ เพราะตามการเมืองทันแล้ว และเริ่มเข้าใจแล้วว่านโยบายหลายเรื่องที่รัฐบาลเคยบอกว่าดี แต่สุดท้ายก้มีปัญหาและหลายเรื่องก็ยังไม่ได้ทำ ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจ ตนคิดว่าคนอีสานหลอกได้ลำบากแล้ว เพราะเขาไม่เชื่อรัฐบาล
ต่อข้อถามที่ว่า อดีตพรรคการเมืองหนึ่งเคยสัญญาริมฝั่งแม่น้ำโขงพรรคประชาธิปัตย์จะทำตามเช่นนั้นหรือไม่หน.พรรคปชป. กล่าวว่า นโยบายของพรรคอาจไม่หวือหวามากมาย เหมือนบางพรรค แต่เป็นนโยบายที่พูดแล้วทำได้ ไม่เกินจริง ไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง เรื่องนี้สำคัญมากขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่า นโยบายของเรามั่นคง ยั่งยืน และไม่ทำให้ประชาชน เป็นหนี้มากขึ้น และไม่สนับสนุนให้ประชาชนฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟื่อย นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายสร้างงานให้ประชาชนมาร่วมโครงการเพื่อปลดหนี้ และล้างหนี้ไปพร้อมๆกัน นี่คือสิ่งที่เราพูดกับคนอีสานวันนี้ ซึ่งเขาก็เข้าใจ และน่ายินดีที่คนอีสานเข้าใจว่า การใช้จ่ายเงินกู้ยืมที่ได้มาง่ายๆแต่ไปใช้จ่าบฟุ่มเฟื่อยโดยไม่จำเป็น ทำให้เขามีปัญหาแล้ว เพราะ ฉะนั้นถ้ารัฐบาลมีโครงการให้เงินประชาชนในลักษณะที่ฉาบฉวยก่อให้เกิดปัญหาหนี้ขึ้นอีก เขาคงไม่พอใจ เพราะเขาต้องการที่จะล้างหนี้
ดังนั้นโครงการล้างหนี้ด้วยงานของพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เขาบอกกับตนว่า ประชาธิปัตย์ทำเมื่อไหร่ เขาก็ยินดีพร้อมเข้าร่วมโครงการ และเขาก็เริ่มพูดถึงโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะท่านทรงตระหนักว่าถ้าคนเราไม่มีความพอเพียงวันหนึ่งก็จะมีปัญหาจริงๆ ทำให้ประชาชนพร้อมที่จะนำไปเป็นแนวทางทำงานที่ถูกต้อง ‘พรรคไม่เคยคิดจะรับประกันว่าถ้าทำงานไม่ได้แล้วจะโดดน้ำโขงตาย เหมือนกับพรรคการเมืองบางพรรค เพราะพูดไปก็เหมือนไปแทงใจดำคนอื่น และไม่ใช่วิถีทางของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเรียกคะแนนนิยม โดยเฉพาะคนอีสานผิดหวังกับคำสาบานของนักการเมืองมามากแล้ว’ หน.พรรคปชป. กล่าว
นายบัญญัติ กล่าวต่อกรณีที่มีการเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลาออกจาตำแหน่งทั้งคณะจากกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับคำร้องการขึ้นค่าตอบแทนของ ป.ป.ช. ว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวคงไม่เป็นผล และเราพบว่า ป.ป.ช.ชุดนี้พยายามรักษาสถานะของท่านมาตลอด มีการยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาแล้วดิ้นรนยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ตนขอชื่นชมศาลรัฐะรรมนูญบางท่านเพราะเสียงที่/ออกมาว่าไม่ควรรับคำร้องไว้วินิจฉัยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะถ้ารับไปความน่าเชื่อถือของรัฐธรรมนูญก็คงหมดไป และหากปล่อยให้ยื่นเรื่องต่อทั้งศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฏีกา ก็จะเกิดปัญหาในอนาคตได้คือ ใครที่ถูกยื่นเรื่องต่อศาลก็ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตัดหน้าไว้ก่อน จึงถือเป็นเรื่องที่ดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องเพื่อให้กลไกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาสามารถทำงานได้ ‘ผมคงไม่เรียกร้องให้ลาออกเหมือนที่คนอื่นเขาเรียกร้องกัน เพราะถึงอย่างไรท่านก็คงไม่ลาออก และผมคิดว่าการดำเนินการให้เป็นไปตามครรลองของรัฐธรรมนูญน่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าจะทำอย่างไร ผลออกมาอย่างไรก็ยอมรับไปตามนั้น ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการยอมรับนับถือกฎหมายรัฐธรรมนูญ และน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด’ นายบัญญัติ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-