นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองจะไม่เลือกวิธีลาออกและปฏิเสธการรับผิดชอบใดๆ นั้น พรรคประชาธิปัตย์อยากจะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตราที่ 213 ตามรัฐธรรมนูญ เปิดสภาฯ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และใช้สภาฯ เป็นเวทีเสนอแนะ ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ซึ่งทางรัฐบาลจะได้นำเอาข้อสรุปต่างๆ ไปเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ส.ส.พัทลุง กล่าวว่า มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ท่านนายกรัฐมนตรีกลับปฏิเสธทุกทางออก แม้แต่ครั้งนี้ ทั้งที่นายกฯ ควรจะรับฟัง เพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และจากการที่นายกฯ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายอื่นจึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
นอกจากนั้นนายกฯ ยังเลือกวิธีการแถลงข่าว ถือเป็นการพูดฝ่ายเดียว เป็นหนทางการแก้ไขปัญหาที่ผิด และเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคในการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
‘ในฐานะที่เป็นส.ส.มุสลิม ตนคิดว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีปฏิเสธทางออกจากทุกฝ่าย จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่เป็นมุสลิมของพรรครัฐบาล คือ ท่านวันนอร์ มูหะหมัดนอร์มะทา นายอารีย์ วงศ์อารยะ ควรทบทวนการอยู่ร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะอยู่ไปก็ไร้บทบาท อยู่ไปก็ไม่สามารถปกป้องพี่น้องมุสลิมได้ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับคนมุสลิมได้’ นายนริศ กล่า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
ส.ส.พัทลุง กล่าวว่า มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ท่านนายกรัฐมนตรีกลับปฏิเสธทุกทางออก แม้แต่ครั้งนี้ ทั้งที่นายกฯ ควรจะรับฟัง เพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และจากการที่นายกฯ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายอื่นจึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
นอกจากนั้นนายกฯ ยังเลือกวิธีการแถลงข่าว ถือเป็นการพูดฝ่ายเดียว เป็นหนทางการแก้ไขปัญหาที่ผิด และเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคในการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
‘ในฐานะที่เป็นส.ส.มุสลิม ตนคิดว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีปฏิเสธทางออกจากทุกฝ่าย จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่เป็นมุสลิมของพรรครัฐบาล คือ ท่านวันนอร์ มูหะหมัดนอร์มะทา นายอารีย์ วงศ์อารยะ ควรทบทวนการอยู่ร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะอยู่ไปก็ไร้บทบาท อยู่ไปก็ไม่สามารถปกป้องพี่น้องมุสลิมได้ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับคนมุสลิมได้’ นายนริศ กล่า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-