นางองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีความรุนแรงใน จังหวัดภาคใต้ โดยล่าสุดในเหตการณ์ ผู้ชุมนุมที่ สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นวิกฤตของชาติ ที่ส่งผลกระทบทั้งในประเทศและต่างประเทศ นั้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ทันทีที่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ทางพรรคจะระมัดระวังในการแสดงออกทางความคิดเห็น เพื่อไม่ให้มีส่วนในการเพิ่มปัญหาให้มากขึ้นกว่าเดิม สำหรับความเห็นที่ทางพรรคได้ให้ไปแล้วนั้น ล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมทั้งสิ้น
นอกจากนี้ กรณี วิกฤตที่ สภ.อ.ตากใบ นั้นนายองอาจ ยังเรียกร้องให้รัฐบาล ควรแปรให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา
“ในวันนี้รัฐบาลควรสร้างบรรยากาศหันหน้าเข้าหากัน โดยเฉพาะรัฐบาลและฝ่ายค้าน ผมคิดว่ารัฐบาลต้องยอมรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย และพร้อมที่จะรับรู้ข้อมูลที่รอบด้าน มากกว่าที่เป็นมาในอดีต”นางองอาจกล่าว
นอกจากนี้พรรคปชป.เรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดนโยบายความรุนแรงใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ให้เป็นวาระแห่งชาติ และแสวงหาความร่วมมือจากทุกๆส่วนให้มาร่วมกันแก้ไขปัญหา
“ ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านยินดีให้ความร่วมมือ โดยไม่มีวาระซ้อนเร้นใดๆ และยังเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาชนะทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะกล่าวหาซึ่งและกัน แต่ควรเป็นเรื่องที่ร่วมมือกันหาทางออก เพื่อนำสันติสุขมาสู่พี่น้องใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้”โฆษก ปชป. กล่าว
โฆษก ปชป. ยังเรียกร้องให้ ทางรัฐบาลแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า หากมีความจริงใจในการแก้ปัญหาแล้ว ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ทุกพรรคการเมือง หรือทุกองค์กร น่าจะมีส่วนในการแก้ปัญหานี้ได้ร่วมกัน
นายองอาจยังกล่าวถึงการแถลงของนายกฯ กรณีการเสียชีวิต 85 ศพ ของผู้ชุมนุมที่สภ.อ.ตากใบ ว่า การแถลงของท่านนายกฯ อาจจะสามารถช่วยสร้างความเข้าใจ และสามารถลดกระแสความไม่พอใจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการแปรการแถลงให้เป็นการปฏิบัติที่เป็นจริง ด้วยความจริงใจมากกว่าแถลงเพื่อการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ทางพรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าถ้าแก้ไขด้วยความจริงใจแล้ว สถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายลงได้
“รัฐบาลต้องคำนึงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ รากเหง้าของปัญหาส่วนหนึ่ง คือปัญหาเรื่องความคิดรัฐบาลต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องความคิดของพี้น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ ใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ที่มีความหลากหลายในหลายระดับ รัฐบาลต้องไม่มองว่าความคิดของพี่น้องใน 3จ.ชายแดนภาคใต้เป็นความคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียงความคิดเดียว ต้องใช้วิธีที่หลากหลาย และรัฐบาลต้องเปลี่ยนความคิดเพื่อปรารถนานำสันติสุขมาสู่พี่น้อง 3 จ.ชายแดนภาคใต้ มากกว่าความคิดที่จะต้องการให้ปัญหาลุล่วงไปแต่เพียงชั่วคราวและสะสมจนก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้นไปอีก”นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นอกจากนี้ กรณี วิกฤตที่ สภ.อ.ตากใบ นั้นนายองอาจ ยังเรียกร้องให้รัฐบาล ควรแปรให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา
“ในวันนี้รัฐบาลควรสร้างบรรยากาศหันหน้าเข้าหากัน โดยเฉพาะรัฐบาลและฝ่ายค้าน ผมคิดว่ารัฐบาลต้องยอมรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย และพร้อมที่จะรับรู้ข้อมูลที่รอบด้าน มากกว่าที่เป็นมาในอดีต”นางองอาจกล่าว
นอกจากนี้พรรคปชป.เรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดนโยบายความรุนแรงใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ให้เป็นวาระแห่งชาติ และแสวงหาความร่วมมือจากทุกๆส่วนให้มาร่วมกันแก้ไขปัญหา
“ ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านยินดีให้ความร่วมมือ โดยไม่มีวาระซ้อนเร้นใดๆ และยังเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาชนะทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะกล่าวหาซึ่งและกัน แต่ควรเป็นเรื่องที่ร่วมมือกันหาทางออก เพื่อนำสันติสุขมาสู่พี่น้องใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้”โฆษก ปชป. กล่าว
โฆษก ปชป. ยังเรียกร้องให้ ทางรัฐบาลแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า หากมีความจริงใจในการแก้ปัญหาแล้ว ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ทุกพรรคการเมือง หรือทุกองค์กร น่าจะมีส่วนในการแก้ปัญหานี้ได้ร่วมกัน
นายองอาจยังกล่าวถึงการแถลงของนายกฯ กรณีการเสียชีวิต 85 ศพ ของผู้ชุมนุมที่สภ.อ.ตากใบ ว่า การแถลงของท่านนายกฯ อาจจะสามารถช่วยสร้างความเข้าใจ และสามารถลดกระแสความไม่พอใจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการแปรการแถลงให้เป็นการปฏิบัติที่เป็นจริง ด้วยความจริงใจมากกว่าแถลงเพื่อการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ทางพรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าถ้าแก้ไขด้วยความจริงใจแล้ว สถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายลงได้
“รัฐบาลต้องคำนึงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ รากเหง้าของปัญหาส่วนหนึ่ง คือปัญหาเรื่องความคิดรัฐบาลต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องความคิดของพี้น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ ใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ที่มีความหลากหลายในหลายระดับ รัฐบาลต้องไม่มองว่าความคิดของพี่น้องใน 3จ.ชายแดนภาคใต้เป็นความคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียงความคิดเดียว ต้องใช้วิธีที่หลากหลาย และรัฐบาลต้องเปลี่ยนความคิดเพื่อปรารถนานำสันติสุขมาสู่พี่น้อง 3 จ.ชายแดนภาคใต้ มากกว่าความคิดที่จะต้องการให้ปัญหาลุล่วงไปแต่เพียงชั่วคราวและสะสมจนก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้นไปอีก”นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ต.ค. 2547--จบ--
-ดท-