นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดงาน จากรากหญ้าสู่รากแก้ว ของรัฐบาลว่า ตนสงสัยว่าเป็นการจัดงานของรัฐบาลหรือของพรรคไทยรักไทย ดังนั้นอยากจะให้ผู้ที่มีอำนาจรัฐในขณะนี้ได้ตระหนักว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องหนึ่ง การแข่งขันทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ก็ต้องใช้อำนาจรัฐอย่างเป็นธรรม และทำให้กระบวนการต่างๆในบ้านเมืองมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ขณะนี้ความพยายามที่จะใช้กลไกรัฐ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง ค่อนข้างจะล้ำเส้นความพอดี ‘ผมว่าเอาพอดีๆเถอะครับ เห็นว่าจะมีการชิงโชคด้วย แต่เดิมทีงานนี้จะจัดขึ้นเพราะจะครบ 4 ปี ซึ่งปกติรัฐบาลต้องแถลงผลงานต่อสภา แต่พอครบปีที่ 4 มันแถลงไม่ได้แล้ว เพราะสภาครบวาระ แต่ผมดูแล้วรูปแบบงานไม่เหมือนจะแถลงต่อสภาเลย เพราะว่าไม่ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนของประชาชนได้มาซักถาม หรือวิจารณ์ว่าการดำเนินงานของรัฐบาลผลมันเป็นอย่างไร’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำงานเพื่อประชาชน เพื่อให้ได้รับคะแนนนิยมไม่ใช่สิ่งผิด แต่ขอให้อยู่บนความพอดี ไม่ใช่เพียงแต่มุ่งหวังเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้าในทางการเมือง และสร้างความเสียหายต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ หรือสร้างประเพณีที่ไม่ดี เพราะหัวใจของการปฏิรูปการเมืองคือ ทำอย่างไรให้การเลือกตั้งมีความสุจริตและยุติธรรม วันนี้อาจจะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ามาดูแลพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐอยู่ก็สามารถจะใช้อำนาจรัฐ ในนามของรัฐบาล ซึ่งนั่นจะเป็นปัญหา ‘ขอให้นายกฯแยกแยะ เวลาสวมหมวกนายกฯก็สวมหมวกนายกฯ เวลาสวมหมวกหัวหน้าพรรคไทยรักไทยก็เป็นหัวหน้าพรรค แต่อย่าปะปน ตอนนี้หลายโครงการเป็นงบประมาณของแผ่นดิน แต่เมื่อออกไปแล้วก็เหมือนเป็นงบประมาณที่มาใช้เพื่อหาเสียงอย่างเดียว’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำงานเพื่อประชาชน เพื่อให้ได้รับคะแนนนิยมไม่ใช่สิ่งผิด แต่ขอให้อยู่บนความพอดี ไม่ใช่เพียงแต่มุ่งหวังเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้าในทางการเมือง และสร้างความเสียหายต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ หรือสร้างประเพณีที่ไม่ดี เพราะหัวใจของการปฏิรูปการเมืองคือ ทำอย่างไรให้การเลือกตั้งมีความสุจริตและยุติธรรม วันนี้อาจจะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ามาดูแลพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐอยู่ก็สามารถจะใช้อำนาจรัฐ ในนามของรัฐบาล ซึ่งนั่นจะเป็นปัญหา ‘ขอให้นายกฯแยกแยะ เวลาสวมหมวกนายกฯก็สวมหมวกนายกฯ เวลาสวมหมวกหัวหน้าพรรคไทยรักไทยก็เป็นหัวหน้าพรรค แต่อย่าปะปน ตอนนี้หลายโครงการเป็นงบประมาณของแผ่นดิน แต่เมื่อออกไปแล้วก็เหมือนเป็นงบประมาณที่มาใช้เพื่อหาเสียงอย่างเดียว’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-