1.ภาคเกษตรกรรม
ในเดือนกันยายน 2547 รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญขยายตัวร้อยละ11.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งด้านผลผลิตและราคา
ผลผลิตพืชผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก
ราคาพืชผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคายางพารา ข้าวเปลือกและปาล์มน้ำมันที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี
แนวโน้มรายได้เกษตรกรในปี 2547 คาดว่าจะขยายตัวในเกณฑ์สูง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2547 รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 15.9 เป็นผลจากปัจจัยด้านราคา สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2547 คาดว่าผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เป็นปกติส่วนราคาพืชผลคาดว่าจะชะลอลง
ราคาสินค้าเกษตรอื่นๆ ของไทยเพิ่มขึ้นทั้งราคาประมงและปศุสัตว์ โดยราคาปศุสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 เร่งตัวจากเดียวก่อน ตามราคาสุกรและไข่ไก่ เป็นผลจากการระบาดของโรคไข้หวัดนก ส่วนราคาประมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ตามราคากุ้งและปลาหมึกเป็นสำคัญ
แนวโน้มราคาสินค้าเกษตร คาดว่าในไตรมาสที่ 4 ราคาสินค้าเกษตรจะชะลอตัวลงอีกเล็กน้อยตามราคาส่งออกพืชผลสำคัญ เช่น ข้าวหอมมะลิและยางพารา
ราคาสินค้าเกษตร (ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย 12 ชนิด)ในตลาดโลก ขยายตัวร้อยละ 11.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามการชะลอของราคายางพาราที่ความต้องการลดลง และจากราคาถั่วเหลือง ข้าวโพดและปาล์มน้ำมันที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าความต้องการในฤดูการเก็บเกี่ยวใหม่ๆ
2.ภาคอุตสาหกรรม
ในเดือนกันยายน 2547 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 7.7 เร่งขึ้นจากเดือนก่อน โดยอุตสาหกรรมที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในเกณฑ์สูง ได้แก่ หมวดยาสูบ ซึ่งมีการผลิตมากเพื่อชดเชยสต็อกที่ลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา หมวดเครื่องดื่มที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากการผลิตเบียร์ชนิดใหม่ และหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนกลับมาผลิตได้หลังจากปิดซ่อมบำรุงโรงงานบางส่วนต่อเนื่องมาหลายเดือน ประกอบกับผลผลิตในหมวดอาหารเริ่มดีขึ้นเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย
สำหรับหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อน ส่วนหมวดปิโตรเลียมขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว
อย่างไรก็ดี หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการผลิตลดลงตามความต้องการแผงวงจรรวมของตลาดต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการส่งออกแผงวงจรรวมที่ชะลอตัวลง
อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 70.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน
สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.8 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยหมวดที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ยานยนต์ เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ร้อยละ 69.3
3.การท่องเที่ยวและโรงแรม
ในเดือนกันยายน 2547 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีจำนวน 882,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน
อัตราเข้าพักโรงแรมในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 61.0 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 56.9
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 จากระยะเดียวกันปีก่อนแม้จะมีการระบาดของโรคไข้หวัดนกรอบ 2 แต่ทางการสามารถควบคุมการระบาดได้ดีกว่าในรอบแรกและนักท่องเที่ยวได้รับการชี้แจงว่าการแพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่จำกัดและไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ประกอบกับการทำตลาดเชิงรุกของทางการและการขยายเส้นทางการบินของสายการบินต้นทุนต่ำ
อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปภาวะการท่องเที่ยวยังคงมีความไม่แน่นอนหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกและเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้รุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว 4.ภาคอสังหาริมทรัพย์
ในเดือนสิงหาคม 2547 อุปทานในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าการซื้อขายที่ดินทั้งประเทศขยายตัวร้อยละ 43.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน และปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลทั่วประเทศทรงตัวในระดับที่ใกล้เคียงกับระยะเดียวกันปีก่อน
สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนเพิ่มในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2547 มีจำนวน 36,615 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน
ทางด้านราคา ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว (ระดับกลางและต่ำ) พร้อมที่ดินในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เพราะมีภาวะการแข่งขันสูงในตลาดที่อยู่อาศัยจากอุปทานของที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่นถนนหรือระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบกับอุปสงค์ชะลอลงจากการที่ผู้บริโภคใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนานขึ้นหรือชะลอการซื้อเพื่อรอโครงการใหม่ๆ
5.ภาคการค้า
ในเดือนกันยายน 2547 ภาวะการค้าโดยรวมคาดว่าจะขยายตัวในอ้ตราที่ชะลอลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากมาตรการประหยัดพลังงานของทางการที่กำหนดเวลาเปิดปิดร้านค้าธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ขายตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2547 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการค้ายังคงได้รับประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางการที่มีต่อเนื่อง และผลผลิตการเกษตรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
6.โทรคมนาคม
ในเดือนสิงหาคม 2547 จำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานมีทั้งสิ้น 6.7 ล้านเลขหมายหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่มีจำนวน 25.8 ล้านหมายเลข หรือขยายตัวร้อยละ 22.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน
ในเดือนสิงหาคมกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการแข่งขันกันออกมาตรการส่งเสริมการขาย โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระค่าบริการของผู้บริโภค
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ในเดือนกันยายน 2547 รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญขยายตัวร้อยละ11.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งด้านผลผลิตและราคา
ผลผลิตพืชผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก
ราคาพืชผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคายางพารา ข้าวเปลือกและปาล์มน้ำมันที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี
แนวโน้มรายได้เกษตรกรในปี 2547 คาดว่าจะขยายตัวในเกณฑ์สูง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2547 รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 15.9 เป็นผลจากปัจจัยด้านราคา สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2547 คาดว่าผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เป็นปกติส่วนราคาพืชผลคาดว่าจะชะลอลง
ราคาสินค้าเกษตรอื่นๆ ของไทยเพิ่มขึ้นทั้งราคาประมงและปศุสัตว์ โดยราคาปศุสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 เร่งตัวจากเดียวก่อน ตามราคาสุกรและไข่ไก่ เป็นผลจากการระบาดของโรคไข้หวัดนก ส่วนราคาประมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ตามราคากุ้งและปลาหมึกเป็นสำคัญ
แนวโน้มราคาสินค้าเกษตร คาดว่าในไตรมาสที่ 4 ราคาสินค้าเกษตรจะชะลอตัวลงอีกเล็กน้อยตามราคาส่งออกพืชผลสำคัญ เช่น ข้าวหอมมะลิและยางพารา
ราคาสินค้าเกษตร (ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย 12 ชนิด)ในตลาดโลก ขยายตัวร้อยละ 11.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามการชะลอของราคายางพาราที่ความต้องการลดลง และจากราคาถั่วเหลือง ข้าวโพดและปาล์มน้ำมันที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าความต้องการในฤดูการเก็บเกี่ยวใหม่ๆ
2.ภาคอุตสาหกรรม
ในเดือนกันยายน 2547 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 7.7 เร่งขึ้นจากเดือนก่อน โดยอุตสาหกรรมที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในเกณฑ์สูง ได้แก่ หมวดยาสูบ ซึ่งมีการผลิตมากเพื่อชดเชยสต็อกที่ลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา หมวดเครื่องดื่มที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากการผลิตเบียร์ชนิดใหม่ และหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนกลับมาผลิตได้หลังจากปิดซ่อมบำรุงโรงงานบางส่วนต่อเนื่องมาหลายเดือน ประกอบกับผลผลิตในหมวดอาหารเริ่มดีขึ้นเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย
สำหรับหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อน ส่วนหมวดปิโตรเลียมขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว
อย่างไรก็ดี หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการผลิตลดลงตามความต้องการแผงวงจรรวมของตลาดต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการส่งออกแผงวงจรรวมที่ชะลอตัวลง
อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 70.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน
สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.8 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยหมวดที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ยานยนต์ เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ร้อยละ 69.3
3.การท่องเที่ยวและโรงแรม
ในเดือนกันยายน 2547 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีจำนวน 882,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน
อัตราเข้าพักโรงแรมในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 61.0 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 56.9
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 จากระยะเดียวกันปีก่อนแม้จะมีการระบาดของโรคไข้หวัดนกรอบ 2 แต่ทางการสามารถควบคุมการระบาดได้ดีกว่าในรอบแรกและนักท่องเที่ยวได้รับการชี้แจงว่าการแพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่จำกัดและไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ประกอบกับการทำตลาดเชิงรุกของทางการและการขยายเส้นทางการบินของสายการบินต้นทุนต่ำ
อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปภาวะการท่องเที่ยวยังคงมีความไม่แน่นอนหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกและเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้รุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว 4.ภาคอสังหาริมทรัพย์
ในเดือนสิงหาคม 2547 อุปทานในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าการซื้อขายที่ดินทั้งประเทศขยายตัวร้อยละ 43.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน และปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลทั่วประเทศทรงตัวในระดับที่ใกล้เคียงกับระยะเดียวกันปีก่อน
สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนเพิ่มในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2547 มีจำนวน 36,615 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน
ทางด้านราคา ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว (ระดับกลางและต่ำ) พร้อมที่ดินในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เพราะมีภาวะการแข่งขันสูงในตลาดที่อยู่อาศัยจากอุปทานของที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่นถนนหรือระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบกับอุปสงค์ชะลอลงจากการที่ผู้บริโภคใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนานขึ้นหรือชะลอการซื้อเพื่อรอโครงการใหม่ๆ
5.ภาคการค้า
ในเดือนกันยายน 2547 ภาวะการค้าโดยรวมคาดว่าจะขยายตัวในอ้ตราที่ชะลอลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากมาตรการประหยัดพลังงานของทางการที่กำหนดเวลาเปิดปิดร้านค้าธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ขายตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2547 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการค้ายังคงได้รับประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางการที่มีต่อเนื่อง และผลผลิตการเกษตรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
6.โทรคมนาคม
ในเดือนสิงหาคม 2547 จำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานมีทั้งสิ้น 6.7 ล้านเลขหมายหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่มีจำนวน 25.8 ล้านหมายเลข หรือขยายตัวร้อยละ 22.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน
ในเดือนสิงหาคมกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการแข่งขันกันออกมาตรการส่งเสริมการขาย โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระค่าบริการของผู้บริโภค
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--