รองโฆษก ปชป. ระบุ จาตุรนต์ลดความน่าเชื่อถือของตนเอง เหตุโยนบาปปัญหาเศรษฐกิจให้รัฐบาลที่แล้ว พร้อมแนะให้อ่านนโยบายพรรคปชป. ที่ใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แล้วจะเข้าใจ
ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ได้กล่าวในงานเหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว ว่ารัฐบาลชุดที่แล้วไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยข้อความตอนหนึ่งได้กล่าวว่ารัฐบาลชุดก่อนแก้ปัญหาที่สถาบันการเงินเป็นหลัก แต่ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่งนั้น ดร.สรรเสริญ สมะลาภา รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวชี้แจงว่า ลำพังการที่รัฐบาลเอาเงินภาษีประชาชนมาจัดงานหาเสียงให้แก่ตัวเองก็แย่อยู่แล้ว แต่ยังถือโอกาสเอาเงินภาษีของประชาชนมาใช้ให้ร้ายคนอื่น ซึ่งแย่ยิ่งกว่า เรื่องนี้ในสังคมก็น่าจะรู้กันอยู่ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่อยากพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า รัฐบาลชุดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้ก่อวิกฤตหลังจากบริหารประเทศมา 1 ปี และรัฐบาลชุดนายชวนก็เป็นผู้เข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นการที่นายจาตุรนต์ออกมาพูดเช่นนี้เท่ากับว่าเป็นการลดความน่าเชื่อถือของตนเอง การที่นายจาตุรนต์กล่าวว่ารัฐบาลชุดก่อนแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินเป็นหลัก แต่ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่งนั้น ตนอยากถามนายจาตุรนต์กลับว่าปัญหาในขณะนั้นอยู่ที่สถาบันการเงิน ประชาชนแห่ถอนเงินฝาก เพราะหนี้ต่างประเทศ บวกกับสถาบันการเงินที่เป็นองค์กรจัดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา ถ้าไม่แก้ที่สถาบันการเงินก่อนแล้วจะแก้ที่อะไร ในทางกลับกันรัฐบาลชุดนี้พยายามผลักดันสถาบันการเงิน โดยเฉพาะสถาบันการเงินภาครัฐให้ปล่อยกู้ให้แก่รากหญ้าแทนกลไกการใช้เงินงบประมาณ เรื่องนี้ตนจะไม่พูดถึงความเหมาะสม แต่ถ้ากล่าวอย่างนั้นก็เท่ากับว่ารัฐบาลชุดนี้เอาเครื่องมือที่รัฐบาลชุดที่แล้วปั้นมาใช้ เหมือนกับให้ร้ายผู้ที่มีพระคุณกับตัวเอง
ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์กล่าวว่ารัฐบาลชุดที่แล้วละเลยประชาชนและเกษตรกรมานาน ดร.สรรเสริญ กล่าวว่าก่อนที่นายจาตุรนต์จะพูดอย่างนี้ ตนขอแนะนำให้นายจาตุรนต์อ่านนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ที่ใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วก่อน เพราะเมื่ออ่านแล้วจะเข้าใจและจะไม่พูดเช่นนี้ เนื่องจากเมื่อเราแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมแล้ว เราก็ต้องแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนตามมาตามลำดับ เพียงแต่แนวทางของเราไม่เหมือนแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งดูเผินๆเหมือนจะแก้ได้ แต่แท้ที่จริงจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนในระยะยาว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 8 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ได้กล่าวในงานเหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว ว่ารัฐบาลชุดที่แล้วไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยข้อความตอนหนึ่งได้กล่าวว่ารัฐบาลชุดก่อนแก้ปัญหาที่สถาบันการเงินเป็นหลัก แต่ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่งนั้น ดร.สรรเสริญ สมะลาภา รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวชี้แจงว่า ลำพังการที่รัฐบาลเอาเงินภาษีประชาชนมาจัดงานหาเสียงให้แก่ตัวเองก็แย่อยู่แล้ว แต่ยังถือโอกาสเอาเงินภาษีของประชาชนมาใช้ให้ร้ายคนอื่น ซึ่งแย่ยิ่งกว่า เรื่องนี้ในสังคมก็น่าจะรู้กันอยู่ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่อยากพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า รัฐบาลชุดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้ก่อวิกฤตหลังจากบริหารประเทศมา 1 ปี และรัฐบาลชุดนายชวนก็เป็นผู้เข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นการที่นายจาตุรนต์ออกมาพูดเช่นนี้เท่ากับว่าเป็นการลดความน่าเชื่อถือของตนเอง การที่นายจาตุรนต์กล่าวว่ารัฐบาลชุดก่อนแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินเป็นหลัก แต่ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่งนั้น ตนอยากถามนายจาตุรนต์กลับว่าปัญหาในขณะนั้นอยู่ที่สถาบันการเงิน ประชาชนแห่ถอนเงินฝาก เพราะหนี้ต่างประเทศ บวกกับสถาบันการเงินที่เป็นองค์กรจัดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา ถ้าไม่แก้ที่สถาบันการเงินก่อนแล้วจะแก้ที่อะไร ในทางกลับกันรัฐบาลชุดนี้พยายามผลักดันสถาบันการเงิน โดยเฉพาะสถาบันการเงินภาครัฐให้ปล่อยกู้ให้แก่รากหญ้าแทนกลไกการใช้เงินงบประมาณ เรื่องนี้ตนจะไม่พูดถึงความเหมาะสม แต่ถ้ากล่าวอย่างนั้นก็เท่ากับว่ารัฐบาลชุดนี้เอาเครื่องมือที่รัฐบาลชุดที่แล้วปั้นมาใช้ เหมือนกับให้ร้ายผู้ที่มีพระคุณกับตัวเอง
ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์กล่าวว่ารัฐบาลชุดที่แล้วละเลยประชาชนและเกษตรกรมานาน ดร.สรรเสริญ กล่าวว่าก่อนที่นายจาตุรนต์จะพูดอย่างนี้ ตนขอแนะนำให้นายจาตุรนต์อ่านนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ที่ใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วก่อน เพราะเมื่ออ่านแล้วจะเข้าใจและจะไม่พูดเช่นนี้ เนื่องจากเมื่อเราแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมแล้ว เราก็ต้องแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนตามมาตามลำดับ เพียงแต่แนวทางของเราไม่เหมือนแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งดูเผินๆเหมือนจะแก้ได้ แต่แท้ที่จริงจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนในระยะยาว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 8 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-