นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยภาวะส่งออกข้าวในเดือนตุลาคม 2547 ว่า สามารถส่งออกข้าวได้สูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยส่งออกได้ถึง 1.09 ล้านตันมูลค่า 282 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(11,583 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 24 และยังคงสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 52 และ 60 โดยตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ แคเมอรูน เบนิ อิรัก ไอเวอรี่โคสต์ ไนจีเรีย โมซัมบิก จีน เซเนกัล แอฟริกาใต้ โตโก ตามลำดับ
สำหรับการส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2547 (ม.ค.- ต.ค.) ได้ส่งออกข้าวแล้วประมาณ 8.31 ล้านตัน มูลค่า 2,214 ล้านเหรียญสหรัฐฯ( 88,763 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 39 และ 57 ตามลำดับ โดยข้าวที่ส่งออกดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิไทย 1.73 ล้านตัน มูลค่า 698 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(27,774 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21 และ 32 ของปริมาณและมูลค่าการส่งออกทั้งหมดตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกข้าวเดือนตุลาคม 2547 นี้ มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาก ได้แก่มาตรการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ประกาศราคารับจำนำข้าวเปลือกสูงกว่าราคาปัจจุบันค่อนข้างมาก และจะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ทำให้ผู้ซื้อต่างประเทศเกรงว่าราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นไปมาก จึงได้มีคำสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวขาวและข้าวนึ่ง ขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยคุณภาพดีเริ่มมีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่วนปลายข้าวหอมมะลิตลาดยังมีความต้องการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นลำดับ โดยข้าวหอมมะลิไทย 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 395 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนข้าวขาว 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 250 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาเฉลี่ยตันละ 7,450 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้านาปรังความชื้นไม่เกิน 15 % มีราคาเฉลี่ยตันละ 6,050 บาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนพฤศจิกายน 2547 ว่า จากปริมาณความต้องการบริโภคข้าวในตลาดโลกที่ยังคงมีสูง ในขณะที่ปริมาณข้าวมีจำกัด ทำให้ประเทศผู้ซื้อต่างประเทศมีความมั่นใจในตลาดข้าวไทยจึงหันมาสั่งซื้อข้าวจากไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ผู้ส่งออกมีสัญญาที่จะต้องส่งมอบข้าวให้ผู้ซื้อเป็นจำนวนมาก คาดว่าการส่งออกข้าวในเดือนพฤศจิกายน 2547 จะอยู่ในระดับ 9 แสนตัน
สำหรับในส่วนของการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในต่างประเทศยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคม ศกนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์... ณ เมือง. สาธารณรัฐประชาชนจีน และจะดำเนินการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำภาพลักษณะของข้าวไทยให้อยู่ในความทรงจำของผู้บริโภคตลอดไป
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษจิกายน 2547--
สำหรับการส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2547 (ม.ค.- ต.ค.) ได้ส่งออกข้าวแล้วประมาณ 8.31 ล้านตัน มูลค่า 2,214 ล้านเหรียญสหรัฐฯ( 88,763 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 39 และ 57 ตามลำดับ โดยข้าวที่ส่งออกดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิไทย 1.73 ล้านตัน มูลค่า 698 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(27,774 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21 และ 32 ของปริมาณและมูลค่าการส่งออกทั้งหมดตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกข้าวเดือนตุลาคม 2547 นี้ มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาก ได้แก่มาตรการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ประกาศราคารับจำนำข้าวเปลือกสูงกว่าราคาปัจจุบันค่อนข้างมาก และจะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ทำให้ผู้ซื้อต่างประเทศเกรงว่าราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นไปมาก จึงได้มีคำสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวขาวและข้าวนึ่ง ขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยคุณภาพดีเริ่มมีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่วนปลายข้าวหอมมะลิตลาดยังมีความต้องการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นลำดับ โดยข้าวหอมมะลิไทย 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 395 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนข้าวขาว 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 250 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาเฉลี่ยตันละ 7,450 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้านาปรังความชื้นไม่เกิน 15 % มีราคาเฉลี่ยตันละ 6,050 บาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนพฤศจิกายน 2547 ว่า จากปริมาณความต้องการบริโภคข้าวในตลาดโลกที่ยังคงมีสูง ในขณะที่ปริมาณข้าวมีจำกัด ทำให้ประเทศผู้ซื้อต่างประเทศมีความมั่นใจในตลาดข้าวไทยจึงหันมาสั่งซื้อข้าวจากไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ผู้ส่งออกมีสัญญาที่จะต้องส่งมอบข้าวให้ผู้ซื้อเป็นจำนวนมาก คาดว่าการส่งออกข้าวในเดือนพฤศจิกายน 2547 จะอยู่ในระดับ 9 แสนตัน
สำหรับในส่วนของการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในต่างประเทศยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคม ศกนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์... ณ เมือง. สาธารณรัฐประชาชนจีน และจะดำเนินการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำภาพลักษณะของข้าวไทยให้อยู่ในความทรงจำของผู้บริโภคตลอดไป
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษจิกายน 2547--