นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยว่า จากการดำเนินนโยบายเชิงรุกของกรมการค้าต่างประเทศที่ผ่านมา ตั้งแต่การส่งเสริมให้มีการพัฒนาการผลิตมันเส้นสะอาด การกำหนดให้แป้งมันสำปะหลังเป็นสินค้ามาตรฐานส่งออก การเจรจาขยายตลาดการค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น การเจรจาเปิดเสรีทางการค้า หรือการประชาสัมพันธ์ข้อดีของการใช้มันสำปะหลัง รวมทั้ง การจัดคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์เดินทางไปจัดอบรมสัมมนาด้านเทคนิควิธีการใช้มันสำปะหลังในอาหารสัตว์ ส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในฤดูกาลปี 2546/47 ขยายตัวมากเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ในปี 2547 ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีมูลค่ารวม 27,451.62 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากช่วงเดียวกันกับปี 2546 ถึงร้อยละ 34.70 แบ่งออกเป็นการส่งออกในรูปมันเส้นจำนวน 2.37 ล้านตัน มูลค่า 7,183.30 ล้านบาท และมันอัดเม็ดจำนวน 2.10 ล้านตัน มูลค่า 6,045.31 ล้านบาท ซึ่งตลาดหลักในการส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออก และแคนาดา
และตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2547 มีการส่งออกแป้งมันสำปะหลังเป็นมูลค่ารวม 13,601.98 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันกับปี 2546 ร้อยละ 10.12 แยกออกเป็นการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังดิบ 0.83 ล้านตัน มูลค่า 5,941.76 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออก อาทิ ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ และการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังแปรรูปจำนวน 0.48 ล้านตัน มูลค่า 7,660.22 ล้านบาท ตลาดหลัก คือ ญี่ปุ่น จีน เนเธอร์แลนด์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้การส่งออกมันสำปะหลังของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการเคร่งครัดต่อมาตรฐานคุณภาพสินค้าเป็นปัจจัยหลักและเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งอันจะส่งผลให้ภาวะการค้ามันสำปะหลังของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ ดังนั้น การเข้มงวดของภาครัฐในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าจึงยังคงต้องดำเนินการต่อไป อีกทั้งภาคเอกชนเองก็ต้องเล็งเห็นความสำคัญในประเด็นดังกล่าว และเข้มงวดต่อการควบคุมคุณภาพสินค้าของตนเองเช่นกัน
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษจิกายน 2547--
ทั้งนี้ ในปี 2547 ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีมูลค่ารวม 27,451.62 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากช่วงเดียวกันกับปี 2546 ถึงร้อยละ 34.70 แบ่งออกเป็นการส่งออกในรูปมันเส้นจำนวน 2.37 ล้านตัน มูลค่า 7,183.30 ล้านบาท และมันอัดเม็ดจำนวน 2.10 ล้านตัน มูลค่า 6,045.31 ล้านบาท ซึ่งตลาดหลักในการส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออก และแคนาดา
และตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2547 มีการส่งออกแป้งมันสำปะหลังเป็นมูลค่ารวม 13,601.98 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันกับปี 2546 ร้อยละ 10.12 แยกออกเป็นการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังดิบ 0.83 ล้านตัน มูลค่า 5,941.76 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออก อาทิ ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ และการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังแปรรูปจำนวน 0.48 ล้านตัน มูลค่า 7,660.22 ล้านบาท ตลาดหลัก คือ ญี่ปุ่น จีน เนเธอร์แลนด์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้การส่งออกมันสำปะหลังของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการเคร่งครัดต่อมาตรฐานคุณภาพสินค้าเป็นปัจจัยหลักและเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งอันจะส่งผลให้ภาวะการค้ามันสำปะหลังของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ ดังนั้น การเข้มงวดของภาครัฐในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าจึงยังคงต้องดำเนินการต่อไป อีกทั้งภาคเอกชนเองก็ต้องเล็งเห็นความสำคัญในประเด็นดังกล่าว และเข้มงวดต่อการควบคุมคุณภาพสินค้าของตนเองเช่นกัน
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษจิกายน 2547--