นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมว่า สัปดาห์นี้วิปฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้ถามสดถึงกรณีที่รัฐบาลได้ปกปิดเรื่องการจัดซื้ออาวุธมูลค่า 46,000 ล้านบาท ซึ่งได้ลงนามข้อตกลงกับประเทศอังกฤษเมื่อเดือนสิงหาคม 2546 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกลับจากประเทศอังกฤษได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่สำคัญการซื้อครั้งนี้รัฐบาลทำไมต้องปกปิด อีกทั้งไม่แถลงเรื่องดังกล่าวให้ประชาชนทราบทั้งที่เป็นการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นภาระต่องบประมาณในอนาคตอีกจำนวนมหาศาล และทำไมการจัดซื้อในครั้งนี้ต้องใช้งบกลางที่อ้างว่า สำรองไว้เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนในปี 2547 ไปวางมัดจำ และทำไมถึงได้อยู่บริษัทเดียวกับที่เคยมีปัญหาในการเซ็นสัญญากับรัฐบาลไทยมาแล้ว ซึ่งสิ่งที่เกิดรัฐบาลต้องตอบข้อเท็จจริงในการดำเนินการครั้งนี้ต่อที่ประชุมสภา
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับข้อตกลงลับระหว่างทางการไทยกับอังกฤษ ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ไม่โปร่งใส และส่อมีผู้ได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากมีพฤติกรรมส่อพิรุธตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนประเทศอังกฤษในเดือนพฤษภาคม 2545 หลังจากนั้นปรากฏว่าโฆษกรัฐบาล หรือ ทำเนียบรัฐบาลไม่เคยแถลงถึงข้อตกลงลับในเรื่องของการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าสูงถึง 46,000 ล้านบาท และในการพิจารณางบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรใน3ปีงบประมาณก็ไม่มีการนำเสนอขอใช้งบประมาณในการจัดซื้อดังกล่าว แต่กับใช้งบซึ่งไม่แสดงรายการซึ่งเป็นงบที่ใช้เฉพาะความจำเป็นเร่งด่วน คืองบกลางปี 2547 ซึ่งได้วางเงินมัดจำไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เสมือนเป็นการงุบงิบในการซื้ออาวุธล็อตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพไทย โดยใช้รูปแบบใหม่หลอกล่อหลอกลวง โดยไม่ผ่านขั้นตอนของการจัดซื้อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย ซึ่งทำให้ประเทศชาติเสียเปรียบและเสียประโยชน์ เนื่องจากราคาอาวุธดังกล่าวมีราคาสูงเกินความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ขนาดเบากระบอกละ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งนายทหารคนหนึ่งบอกว่า เป็นปืนใหญ่ที่แพงที่สุดในโลก เป็นราคาของนายกฯทักษิณ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และพล.อ.อุทัย ชินวัตร ซึ่งเป็นเลขาธิการของกรรมการชุดดังกล่าวในการจัดซื้ออาวุธชุดนี้ ‘ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก แม้แต่ในประเทศอังกฤษขณะนี้นายกรัฐมนตรีของอังกฤษยังถูกซักฟอกจากส.ส.อังกฤษในการขายอาวุธแลกความช่วยเหลือ และยังมีการตั้งกระทู้ถามสดในสภาอังกฤษไปแล้วด้วยโดยมีประเด็นว่าข้อตกลงลับดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายอังกฤษเพราะมีกฎหมายห้ามไว้ว่า การขายอาวุธแลกความช่วยเหลือที่เรียกว่า ARMS FOR AID นั้นผิดกฎหมายอังกฤษ’ นายอลงกรณ์ กล่าว
ส.ส.เพชรบุรี กล่าวต่อว่า การดำเนินการจัดซื้อในครั้งนี้ ทำไมรัฐบาลจึงไม่ทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลตามที่กล่าวอ้าง แต่กับไปทำข้อตกลงการซื้ออาวุธระหว่างทางการไทยกับบริษัทและเป็นบริษัทเดียวที่ได้โครงการมูลค่า 46,000 ล้านบาท โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจากรัฐบาล เพื่อดูแลภาษีของประชาชน และ ประเทศชาติ ‘อยากจะเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีอย่าหลีกเหลี่ยงหนีหน้าเหมือนกับครั้งที่ท่านไม่กล้าไปประชุมเอเปค แต่อยากให้มาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่ถูกจับได้ แม้เป็นความลับที่พยายามปกปิดมา 3 ปี แต่ความจริงคือความจริงในที่สุดความจริงก็ปรากฏขึ้น ดังนั้นในฐานะที่ตนจะตั้งกระทู้ถามสดถึงท่านนายกฯในกรณีดังกล่าว หวังว่าท่านจะกล้ามาตอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ’ ส.ส.เพชรบุรี กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับข้อตกลงลับระหว่างทางการไทยกับอังกฤษ ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ไม่โปร่งใส และส่อมีผู้ได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากมีพฤติกรรมส่อพิรุธตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนประเทศอังกฤษในเดือนพฤษภาคม 2545 หลังจากนั้นปรากฏว่าโฆษกรัฐบาล หรือ ทำเนียบรัฐบาลไม่เคยแถลงถึงข้อตกลงลับในเรื่องของการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าสูงถึง 46,000 ล้านบาท และในการพิจารณางบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรใน3ปีงบประมาณก็ไม่มีการนำเสนอขอใช้งบประมาณในการจัดซื้อดังกล่าว แต่กับใช้งบซึ่งไม่แสดงรายการซึ่งเป็นงบที่ใช้เฉพาะความจำเป็นเร่งด่วน คืองบกลางปี 2547 ซึ่งได้วางเงินมัดจำไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เสมือนเป็นการงุบงิบในการซื้ออาวุธล็อตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพไทย โดยใช้รูปแบบใหม่หลอกล่อหลอกลวง โดยไม่ผ่านขั้นตอนของการจัดซื้อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย ซึ่งทำให้ประเทศชาติเสียเปรียบและเสียประโยชน์ เนื่องจากราคาอาวุธดังกล่าวมีราคาสูงเกินความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ขนาดเบากระบอกละ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งนายทหารคนหนึ่งบอกว่า เป็นปืนใหญ่ที่แพงที่สุดในโลก เป็นราคาของนายกฯทักษิณ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และพล.อ.อุทัย ชินวัตร ซึ่งเป็นเลขาธิการของกรรมการชุดดังกล่าวในการจัดซื้ออาวุธชุดนี้ ‘ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก แม้แต่ในประเทศอังกฤษขณะนี้นายกรัฐมนตรีของอังกฤษยังถูกซักฟอกจากส.ส.อังกฤษในการขายอาวุธแลกความช่วยเหลือ และยังมีการตั้งกระทู้ถามสดในสภาอังกฤษไปแล้วด้วยโดยมีประเด็นว่าข้อตกลงลับดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายอังกฤษเพราะมีกฎหมายห้ามไว้ว่า การขายอาวุธแลกความช่วยเหลือที่เรียกว่า ARMS FOR AID นั้นผิดกฎหมายอังกฤษ’ นายอลงกรณ์ กล่าว
ส.ส.เพชรบุรี กล่าวต่อว่า การดำเนินการจัดซื้อในครั้งนี้ ทำไมรัฐบาลจึงไม่ทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลตามที่กล่าวอ้าง แต่กับไปทำข้อตกลงการซื้ออาวุธระหว่างทางการไทยกับบริษัทและเป็นบริษัทเดียวที่ได้โครงการมูลค่า 46,000 ล้านบาท โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจากรัฐบาล เพื่อดูแลภาษีของประชาชน และ ประเทศชาติ ‘อยากจะเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีอย่าหลีกเหลี่ยงหนีหน้าเหมือนกับครั้งที่ท่านไม่กล้าไปประชุมเอเปค แต่อยากให้มาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่ถูกจับได้ แม้เป็นความลับที่พยายามปกปิดมา 3 ปี แต่ความจริงคือความจริงในที่สุดความจริงก็ปรากฏขึ้น ดังนั้นในฐานะที่ตนจะตั้งกระทู้ถามสดถึงท่านนายกฯในกรณีดังกล่าว หวังว่าท่านจะกล้ามาตอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ’ ส.ส.เพชรบุรี กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-