นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ตั้งกระทู้ถามสดในสภากรณีการเดินทางไปแสวงบุญของชาวมุสลิมว่า หลักสำคัญของการนับถือศาสนาอิสลามคือการฮัส ปัญหาประการรกคือจำนวนของผู้มีสิทธิเดินทางไปแสวงบุญ ทุกปีที่ผ่านมาชาวมุสลิมเดินทางไปเมกกะไม่ต่ำ 2 หมื่นคน แต่ปีนี้มีชาวมุสลิมมีสิทธิ์ไปเพียง 9 หมื่นคน ถือเป็นการทำลายความฝันของชาวมุสลิม ปัญหาประการที่ 2 ที่พักในซาอุดิชาระเบีย ที่จัดไว้เพื่อชาวมุสลิมไทย ไปพักเพื่อทำพิธี อยู่ไกลจากสุเหร่าที่จะประกอบพิธีกรรมมา ไม่เหมาะสม ประการที่ 3 ค่าที่พักมีมูลค่าแพงมากขึ้นสูงกว่า 30-40 % ตนจึงขอตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ประการ คือ 1. จำนวนที่ลดลงของผู้ไปแสวงบุญ 2.ทำไมที่พักของชาวมุสลิมไทยที่เดินทางไปแสวงบุญจึงมีระยะห่างจากสถานประกอบพิธีมาก 3.มูลค่าที่พักที่แพงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่าน รัฐบาลจะแก้ไขได้อย่างไร
หลังจากนั้นนายอนอุรักษณ์ จุรีมาศ รมช.วัฒนธรรมฯ กล่าวตอบว่ากรณีการส่งชาวมุสลิมไปเมกะไปตามโคต้าคือ 9 พันคน ซึ่งได้ส่งไปตามโคต้าที่ได้รับมาเพราะเราไม่มีสิทธิไปกำหนดโคต้าเอง ส่วนกรณีการจัดที่พักกับสถานที่ประกอบพิธี ต้องห่างไกลขึ้นเพราะมีผู้เดินทางไปประกอบพิธีมากขึ้นจึงมีปัญหาในการจัดสรรที่พัก
นายวิรัตน์ ตั้งกระทู้ถามต่อว่าการทำฮัสของชาวมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งปัญหาของประเทศไทยกับต่างประเทศไม่เหมือนกัน กล่าวคือคนไทยที่จะเดินทางไปทำพิธีฮัสได้ต้องเป็นร่ำรวย แต่ชาวมุสลิมก็อยากไปเพราะอยากทำบุญ รัฐบาลมีแนวทางอย่างไรในการจัดหาที่พักที่ใกล้ๆ และราคาไม่สูง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
หลังจากนั้นนายอนอุรักษณ์ จุรีมาศ รมช.วัฒนธรรมฯ กล่าวตอบว่ากรณีการส่งชาวมุสลิมไปเมกะไปตามโคต้าคือ 9 พันคน ซึ่งได้ส่งไปตามโคต้าที่ได้รับมาเพราะเราไม่มีสิทธิไปกำหนดโคต้าเอง ส่วนกรณีการจัดที่พักกับสถานที่ประกอบพิธี ต้องห่างไกลขึ้นเพราะมีผู้เดินทางไปประกอบพิธีมากขึ้นจึงมีปัญหาในการจัดสรรที่พัก
นายวิรัตน์ ตั้งกระทู้ถามต่อว่าการทำฮัสของชาวมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งปัญหาของประเทศไทยกับต่างประเทศไม่เหมือนกัน กล่าวคือคนไทยที่จะเดินทางไปทำพิธีฮัสได้ต้องเป็นร่ำรวย แต่ชาวมุสลิมก็อยากไปเพราะอยากทำบุญ รัฐบาลมีแนวทางอย่างไรในการจัดหาที่พักที่ใกล้ๆ และราคาไม่สูง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-