‘องอาจ คล้ามไพบูลย์’ ระบุ รบ. พยายามโฆษณาชวนเชื่อสร้างความหวังให้ประชาชน การประกาศอีก 4 ปี คนจนจะหมดประเทศ เป็นความหวังลมๆแล้งๆ พร้อมเปิดเผยมีเพียงกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดนายกฯเท่านั้นที่ร่ำรวย
(14 พ.ย. 47) เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่า สามารถพลิกฟื้นฐานะและโอกาสของคนไทยถึงขั้นประกาศว่า ภายใน 4 ปีข้างหน้าจะไม่มีคนจนในประเทศไทย ซึ่งพรรคเห็นว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่สวนทางกับความเป็นจริง เพราะในความเป็นจริงมีเพียงกลุ่มนักการเมืองหรือคนในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่สามารถพลิกฟื้นฐานะและโอกาส จนมีทรัพย์สินและผลกำไรทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 6 บริษัทของอาณาจักร “ชิน” มียอดขายและผลกำไรถึง 55,689,062,587 บาท
นอกจากนี้พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการหลายคน ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในหลายกรณีมีผลประโยชน์ทับซ้อนและอาจมีการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายเกิดขึ้น ขณะที่ประชาชนทั่วไปกลับมีหนี้สินเพิ่มขึ้น และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า เฉพาะไตรมาสแรกของปี 2547 ยอดหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 110,133 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ซึ่งมีเพียง 70,586 บาท แสดงให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงสวนทางกับการสร้างภาพของรัฐบาลที่พยายามพูดกรอกหูว่า จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น และถ้ามองในแง่ของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคล่าสุดจากการสำรวจในเดือนตุลาคม 2547 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ลดลง จนต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากความล้มเหลวของรัฐบาลในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาไข้หวัดนก ปัญหาราคาน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในอนาคต ซึ่งไม่ได้มีทิศทางที่แจ่มใสตามที่รัฐบาลพยายามโฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใด
‘จากข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาเสนอในวันนี้ ก็จะชี้ให้เห็นชัดเจนว่า 4 ปีภายใต้การบริหารของท่านนายกฯมีเพียงบริษัทและกลุ่มธุรกิจที่เชื่อมโยงใกล้ชิดกับท่าน มีผลกำไรและร่ำรวยเพิ่มขึ้นมหาศาล ขณะที่ประชาชนตั้งแต่ระดับรากหญ้าขึ้นมามีหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการโฆษณาชวนเชื่อว่าอีก 4 ปีจะไม่มีคนจนก็คงเป็นการโฆษณาสร้างความหวังต่อพี่น้องประชาชน แต่น่าจะเป็นความหวังลมๆแล้งๆมากกว่า’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
(14 พ.ย. 47) เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่า สามารถพลิกฟื้นฐานะและโอกาสของคนไทยถึงขั้นประกาศว่า ภายใน 4 ปีข้างหน้าจะไม่มีคนจนในประเทศไทย ซึ่งพรรคเห็นว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่สวนทางกับความเป็นจริง เพราะในความเป็นจริงมีเพียงกลุ่มนักการเมืองหรือคนในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่สามารถพลิกฟื้นฐานะและโอกาส จนมีทรัพย์สินและผลกำไรทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 6 บริษัทของอาณาจักร “ชิน” มียอดขายและผลกำไรถึง 55,689,062,587 บาท
นอกจากนี้พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการหลายคน ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในหลายกรณีมีผลประโยชน์ทับซ้อนและอาจมีการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายเกิดขึ้น ขณะที่ประชาชนทั่วไปกลับมีหนี้สินเพิ่มขึ้น และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า เฉพาะไตรมาสแรกของปี 2547 ยอดหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 110,133 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ซึ่งมีเพียง 70,586 บาท แสดงให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงสวนทางกับการสร้างภาพของรัฐบาลที่พยายามพูดกรอกหูว่า จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น และถ้ามองในแง่ของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคล่าสุดจากการสำรวจในเดือนตุลาคม 2547 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ลดลง จนต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากความล้มเหลวของรัฐบาลในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาไข้หวัดนก ปัญหาราคาน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในอนาคต ซึ่งไม่ได้มีทิศทางที่แจ่มใสตามที่รัฐบาลพยายามโฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใด
‘จากข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาเสนอในวันนี้ ก็จะชี้ให้เห็นชัดเจนว่า 4 ปีภายใต้การบริหารของท่านนายกฯมีเพียงบริษัทและกลุ่มธุรกิจที่เชื่อมโยงใกล้ชิดกับท่าน มีผลกำไรและร่ำรวยเพิ่มขึ้นมหาศาล ขณะที่ประชาชนตั้งแต่ระดับรากหญ้าขึ้นมามีหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการโฆษณาชวนเชื่อว่าอีก 4 ปีจะไม่มีคนจนก็คงเป็นการโฆษณาสร้างความหวังต่อพี่น้องประชาชน แต่น่าจะเป็นความหวังลมๆแล้งๆมากกว่า’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-