นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึง กรณีรัฐบาล จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตภาครัฐ (กตท.) ที่รัฐบาล จะมีอำนาจการสอบทุจริตของข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ระดับ 8 ลงมา ซึ่งปัจจุบัน เป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มาเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารว่า หากรัฐบาลคิดจะจัดตั้งกตท.ขึ้นจริง วิปฝ่ายค้านมีความเห็นว่า น่าจะขัดต่อเจตนารมย์ที่ต้องการให้องค์กรอิสระได้เข้ามาทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และตรวจสอบการทุจริตภาครัฐของเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งระบบ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง ไปจนถึงข้าราชการระดับสูงและนักการเมือง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นเจตนาเดิมที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายปปช.
ส่วนการตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตภาครัฐขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ในด้านมาตรการ และ นโยบายต่างๆ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นเลขาฯ และขึ้นตรงกับกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งให้เลขาธิการคณะกรรมการปปช. และ ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้ามาเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดนี้ด้วยนั้น เราก็มีข้อสังเกต คือ 1.จะเป็นการเอาอำนาจเบ็ดเสร็จชี้เป็นชี้ตาย ไปอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวหรือไม่ 2. กรณีที่มีการดึงเอาเลขาธิการปปช. และ ผู้ว่าฯ สตง.เข้ามาอยู่ภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีนั้น จะเป็นการดึงเอาฝ่ายบริหารไปครอบงำองค์กรอิสระหรือไม่ 3. ถ้ารัฐบาลจริงใจในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นจริงๆ รัฐบาลก็สามารถทำได้ ทั้งการสนับสนุนงบประมาณ กำลังคน และทรัพยากรอื่นๆให้กับองค์กรอิสระที่มีหน้าที่โดยตรงตามรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และปล่อยให้องค์กรเหล่านั้นมีอิสระจริงตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่เข้าไปแทรกแซงในการทำหน้าที่ หรือการทำงานขององค์กรอิสระ
‘ที่ผ่านมารัฐบาลเพิกเฉย กับการทุจริตมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นพวกเราเห็นว่ารัฐบาลควรจะทบทวนเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่จำเป็นและสมควรหรือไม่ เพราะการมาคิดนำเสนอเอาช่วงปลายรัฐบาล แล้วก็มานำเสนอเอาในช่วงที่รู้อยู่แล้วว่า สภาผู้แทนราษฎรจะหมดวาระ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลมุ่งประสงค์แค่เพียงการสร้างภาพในทางการเมือง และข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ มันก็เป็นการปล้นอำนาจขององค์กรอิสระคือ คณะกรรมการปปช.มาเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร หรือ มาอยู่ในมือของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่สมควร’ นายจุรินทร์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
ส่วนการตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตภาครัฐขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ในด้านมาตรการ และ นโยบายต่างๆ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นเลขาฯ และขึ้นตรงกับกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งให้เลขาธิการคณะกรรมการปปช. และ ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้ามาเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดนี้ด้วยนั้น เราก็มีข้อสังเกต คือ 1.จะเป็นการเอาอำนาจเบ็ดเสร็จชี้เป็นชี้ตาย ไปอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวหรือไม่ 2. กรณีที่มีการดึงเอาเลขาธิการปปช. และ ผู้ว่าฯ สตง.เข้ามาอยู่ภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีนั้น จะเป็นการดึงเอาฝ่ายบริหารไปครอบงำองค์กรอิสระหรือไม่ 3. ถ้ารัฐบาลจริงใจในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นจริงๆ รัฐบาลก็สามารถทำได้ ทั้งการสนับสนุนงบประมาณ กำลังคน และทรัพยากรอื่นๆให้กับองค์กรอิสระที่มีหน้าที่โดยตรงตามรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และปล่อยให้องค์กรเหล่านั้นมีอิสระจริงตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่เข้าไปแทรกแซงในการทำหน้าที่ หรือการทำงานขององค์กรอิสระ
‘ที่ผ่านมารัฐบาลเพิกเฉย กับการทุจริตมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นพวกเราเห็นว่ารัฐบาลควรจะทบทวนเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่จำเป็นและสมควรหรือไม่ เพราะการมาคิดนำเสนอเอาช่วงปลายรัฐบาล แล้วก็มานำเสนอเอาในช่วงที่รู้อยู่แล้วว่า สภาผู้แทนราษฎรจะหมดวาระ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลมุ่งประสงค์แค่เพียงการสร้างภาพในทางการเมือง และข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ มันก็เป็นการปล้นอำนาจขององค์กรอิสระคือ คณะกรรมการปปช.มาเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร หรือ มาอยู่ในมือของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่สมควร’ นายจุรินทร์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-