นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง ดัชนีในเดือนสิงหาคมปี 2547 ว่า จากผลการสำรวจทั้งสิ้น 2,000 โรงงาน ครอบคลุม 50 กลุ่ม อุตสาหกรรม 203 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่และวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม พบว่า ดัชนีผลผลิต(มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 126.84 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 11.15 ดัชนีผลผลิต(มูลค่าผลผลิต) อยู่ที่ระดับ 132.28 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 4.26 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 10.05 ดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 128.63 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 5.50 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.48 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 151.00 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 9.90 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 19.39 ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 143.47 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 20.43 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 23.96 สำหรับดัชนีแรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 105.07 ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.11 ดัชนีผลิตภาพแรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 145.45 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 3.12 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 18.94 และอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ระดับ 59.46 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2.07 แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.60 โดยอุตสาหกรรมหลักที่ยังคงมีภาวะการผลิตและจำหน่ายปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์จากคอนกรีต ซีเมนต์ และปูนปลาสเตอร์ ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ การผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การเร่งก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้ทันปี 2548 ขณะที่ การผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นพื้นฐาน ยังคงทรงตัวตามปัจจัยทางด้านการตลาด ส่วนอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมผลผลิตลดลง ได้แก่ การผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม และการผลิตยานยนต์ นอกจากนี้ นางชุตาภรณ์ กล่าวเสริมถึงการคาดการณ์ภาวะอุตสาหกรรมเดือนกันยายนว่า จะได้รับแรงกระตุ้นจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะมีการออกรถรุ่นใหม่ รวมทั้ง อุตสาหกรรมอาหาร ประเภทอาหารทะเล ที่จะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมามากในช่วงปลายปี รวมถึง สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างขยายตัวเพิ่มขึ้นเพราะใกล้หมดฤดูฝน แต่อย่างไรก็ตามอาจจะได้รับแรงกดดันจากระดับราคาวัตถุดิบในกลุ่มปิโตรเคมีที่ปรับสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-