ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.อนุมัติวงเงิน Soft Loan 2 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1.5 ช่วยเหลือผู้
ประสบภัยคลื่นยักษ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ให้ความช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ย
ต่ำ (Soft Loan) แก่ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ประกอบ
การมาปรับโครงสร้างหนี้โดยให้สินเชื่อดังกล่าวนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.48 ทั้งนี้ ธปท.จะคิดดอกเบี้ยจาก ธพ.
ร้อยละ 0.01 และให้ ธพ.คิดดอกเบี้ยกับลูกค้าร้อยละ 1.5 ซึ่งต่ำกว่าสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่จัดให้ 6 จังหวัดภาคใต้ที่
ประสบภัยคลื่นสึนามิ เนื่องจากวงเงินสินเชื่อนี้ใช้เงินของ ธปท.ทั้งร้อยละ 100 (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, เดลินิวส์,
แนวหน้า, มติชน)
2. สศช.ประเมินภัยพิบัติคลื่นยักษ์ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 48 ของไทย
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ
ใน 6 จังหวัดภาคใต้ว่า จากการประเมินผลกระทบของ สศช.พบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่ออัตรา
การขยายตัวของเศรษฐกิจปี 48 เพราะหากนำความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 3-3.5 หมื่นล้านบาท มาหักลบกับ
กิจกรรมของภาครัฐและเอกชนที่จะเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ที่คาดว่าจะใช้เงิน 3.5-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลจาก
กิจกรรมชดเชยความเสียหาย มีมากกว่ารายได้ที่สูญเสียไป และทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากกว่าภาวะปกติอีกร้อยละ 0.15
โดย สศช.ยืนยันว่าจะยังคงประมาณการเศรษฐกิจปี 48 ไว้ที่ร้อยละ 5.5-6.5 และคาดว่าอัตราการขยายตัวของ
ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกนี้เทียบกับไตรมาสแรกของปี 47 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5-6.0
แน่นอน นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา
ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, เดลินิวส์, แนวหน้า, ข่าวสด, มติชน)
3. กรมสรรพากรคาดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ส่งผลให้จัดเก็บรายได้ลดลงประมาณ 2-3 พันล้านบาท อธิบดี
กรมสรรพากร เปิดเผยว่า เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีนี้ลดลง
ประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นจากการรวมค่าสูญเสียรายได้ภาษีนิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจที่
ได้รับผลกระทบ และการหักค่าใช้จ่ายสำหรับการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ทั้งนี้ ใน 7 จังหวัดภาคใต้
ตอนบนมีสัดส่วนการจัดเก็บรายได้ไม่ถึงร้อยละ 1.0 หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท ของรายได้ในการจัดเก็บภาษี
รวมทั้งหมดในปีนี้ ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 8.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บภาษีสรรพกรในไตรมาสแรกของปี
งบประมาณ 48 (ต.ค.47-ธ.ค.47) มีจำนวนกว่า 1.69 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 19.67 เนื่อง
จากภาวะเศรษฐกิจยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การจ้างงานยังอยู่ในเกณฑ์ดีและมีการปรับฐานเงินเดือนทั้งภาครัฐและ
เอกชน รวมทั้งภาคเอกชนมีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงสุด คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม รองลงมา คือภาษี
เงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้, เดลินิวส์, สยามรัฐ, แนวหน้า, ข่าวสด, มติชน)
4. ไทยสามารถส่งออกข้าวในปี 47 สูงเป็นประวัติการณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผย
ภาวะส่งออกข้าวในเดือน ธ.ค.47 ว่า สามารถส่งออกข้าวได้ถึง 800,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 248 ล้านดอลลาร์
สรอ. (9,916 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงจากเดือน พ.ย.47 เล็กน้อย เนื่องจากเป็นเดือนที่มี
ช่วงเทศกาลและวันหยุดติดต่อกันหลายวัน แต่ยังคงสูงกว่าเดือนเดียวกันของปี 46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 และ 9.0
ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญยังคงเป็นตลาดแอฟริกาและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ การส่งออกข้าวโดยรวมในปี
47 ได้ประมาณ 10.13 ล้านตัน มูลค่า 2,726 ล้านดอลลาร์ สรอ. (109,572 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่า
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35 และ 49 ตามลำดับ โดยปี 47 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงเป็นประวัติการณ์และราคาข้าว
ส่งออกก็อยู่ในเกณฑ์สูงโดยเฉลี่ยตันละ 269 ดอลลาร์ สรอ.เพิ่มขึ้นจากปี 46 ร้อยละ 11 (บ้านเมือง, มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราคนว่างงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.47 รายงานจากกรุง
วอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.48 ก.แรงงานของ สรอ. เปิดเผยว่า จำนวนคนอเมริกันที่ลงทะเบียนครั้งแรกเพื่อขอ
รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันการว่างงานของรัฐ ณ 1 ม.ค.48 เพิ่มขึ้น 43,000 คน อยู่ที่ระดับ 364,000
คน จากตัวเลขที่ปรับแล้ว 321,000 คน ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นสูงสุดภายในสัปดาห์เดียวในรอบ
เกือบ 3 ปี และสูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 331,000 คน ในขณะที่ Thomas Hoenig ประธาน
ธ.กลาง สรอ. (เมืองแคนซัส) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ สรอ.ในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 3.5 — 4.0 พร้อมกับการ
จ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านตำแหน่ง (รอยเตอร์)
2. เดือน ธ.ค.47 ภาคบริการของอังกฤษเติบโตชะลอลงที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน รายงาน
จากลอนดอนเมื่อ 6 ม.ค.48 The Chartered Institute of Purchasing and Supply/NTC เปิดเผย
ว่า Index of service sector business ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการดำเนินธุรกิจภาคบริการของอังกฤษ ที่ครอบ
คลุมตั้งแต่ธุรกิจบริการด้านอาหารจนถึงธุรกิจที่ปรึกษาด้านไอที ในเดือน ธ.ค.47 ลดลงที่ระดับ 54.9 จากระดับ
56.7 ในเดือนก่อน เป็นการลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงที่ระดับ 56.5 อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ
ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นระดับที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว นอกจากนี้ ดัชนีฯ ยังสูงกว่าตัวเลขเดียวกันของเขตเศรษฐกิจยุโรปซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.6 ทั้งนี้ การที่ดัชนีฯ ในเดือน ธ.ค. ลดลง เป็นผลจากการ
ลดลงของส่วนประกอบในดัชนีรวม โดย The New Orders Index ลดลงที่ระดับ 55.4 จากระดับ 56.8 ใน
เดือนก่อน และ The Business Expectations Index ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือน
มิ.ย.46 ที่ระดับ 73.7 จากระดับ 74.1 ในเดือนก่อน (รอยเตอร์)
3. ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือน พ.ย.47 ลดลงร้อยละ 2.5 จากเดือนก่อนแต่ผลสำรวจคาด
ว่ายอดขายเดือน ธ.ค.47 จะเพิ่มขึ้น รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 6 ม.ค.48 สนง.สถิติกลางของเยอรมนีรายงาน
ยอดค้าปลีกในเดือน พ.ย.47 ลดลงร้อยละ 2.5 จากเดือนก่อน ลดลงในอัตราสูงสุดในรอบ 6 เดือนและสูงกว่าที่
คาดไว้จากผลสำรวจโดยรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลงเพียงร้อยละ 0.2 ต่อเดือน อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความ
เห็นของทั้งธุรกิจค้าปลีกและผู้บริโภคโดยสำนักวิจัยต่าง ๆ คาดว่ายอดค้าปลีกในเดือน ธ.ค.47 จะเพิ่มขึ้น เช่น
เดียวกับ HDE retail association ซึ่งเป็นสมาคมค้าปลีกของเยอรมนีรายงานยอดขายในช่วงเทศกาล
คริสต์มาสของปี 47 เพิ่มขึ้นจำนวน 1.0 พันล้านยูโรเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 46 ภาคธุรกิจค้าปลีกของ
เยอรมนีได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่อยู่ในภาวะซบเซาซึ่งทำให้ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับราย
ได้ในอนาคตและลดการใช้จ่ายลง โดยทั้ง 2 สมาคมค้าปลีกชั้นนำของเยอรมนีคาดว่ายอดค้าปลีกในปี 47 จะลดลง
ประมาณร้อยละ 1.0 จากปีก่อน ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกันหลังจากตัวเลขยอดขายในช่วง 11
เดือนแรกของปี 47 ลดลงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน และไม่ได้คาดว่ายอดขายในปี 48 จะดีขึ้นจากปีก่อน
เพียงแต่หวังว่าจะไม่ลดลงจากปี 47 (รอยเตอร์)
4. รัฐบาลจีนจะเริ่มเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองในปีหน้า รายงานจากนิวเดลฮี เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 48
ผู้บริหารเศรษฐกิจอาวุโสของจีนเปิดเผยว่า จีนซี่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกจะ
เริ่มเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองในปีหน้าเนื่องจากอุปสงค์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Zhang
Xiaoqiang, Vice chairman of China’s National Development and Reform Commission
(NDRC) คาดว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวที่ระดับร้อยละ 8.0 หรือสูงกว่านั้น ที่
ผ่านมาจีนนำเข้าน้ำมันมากกว่าร้อยละ 40 ของความต้องการใช้น้ำมันดิบ ส่วนหนึ่งเนื่องจากผลผลิตน้ำมันในประเทศ
ลดลง และการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อนึ่งคลังน้ำมันสำรองจำนวน 10 ล้าน
บาร์เรลที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของเมือง Ningbo จะพร้อมใช้งานได้ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 1 ของแผน
สำรองน้ำมันเชิงกลยุทธปริมาณ 150 ล้านบาร์เรลที่จะเสร็จสมบูรณ์ในระยะ 3 — 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้โดยปกติบริษัท
น้ำมันจะสำรองน้ำมันเพื่อการค้าในระยะเวลา 10 - 30 วัน แต่รัฐบาลเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการที่จีนไม่
มีคลังน้ำมันในภาวะฉุกเฉินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเมื่อปีที่แล้วอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 15 ในจีนส่งผลให้
ราคาน้ำมันดิบโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 7/1/2548 6/1/2548 30/1/2548 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.175 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.9564/39.2355 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.1875-2.2000 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 693.62/31.06 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,950/8,050 7,950/8,050 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 36.84 34.5 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 19.29*/14.59 19.29*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับลด ลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 17 ธ.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.อนุมัติวงเงิน Soft Loan 2 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1.5 ช่วยเหลือผู้
ประสบภัยคลื่นยักษ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ให้ความช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ย
ต่ำ (Soft Loan) แก่ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ประกอบ
การมาปรับโครงสร้างหนี้โดยให้สินเชื่อดังกล่าวนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.48 ทั้งนี้ ธปท.จะคิดดอกเบี้ยจาก ธพ.
ร้อยละ 0.01 และให้ ธพ.คิดดอกเบี้ยกับลูกค้าร้อยละ 1.5 ซึ่งต่ำกว่าสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่จัดให้ 6 จังหวัดภาคใต้ที่
ประสบภัยคลื่นสึนามิ เนื่องจากวงเงินสินเชื่อนี้ใช้เงินของ ธปท.ทั้งร้อยละ 100 (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, เดลินิวส์,
แนวหน้า, มติชน)
2. สศช.ประเมินภัยพิบัติคลื่นยักษ์ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 48 ของไทย
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ
ใน 6 จังหวัดภาคใต้ว่า จากการประเมินผลกระทบของ สศช.พบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่ออัตรา
การขยายตัวของเศรษฐกิจปี 48 เพราะหากนำความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 3-3.5 หมื่นล้านบาท มาหักลบกับ
กิจกรรมของภาครัฐและเอกชนที่จะเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ที่คาดว่าจะใช้เงิน 3.5-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลจาก
กิจกรรมชดเชยความเสียหาย มีมากกว่ารายได้ที่สูญเสียไป และทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากกว่าภาวะปกติอีกร้อยละ 0.15
โดย สศช.ยืนยันว่าจะยังคงประมาณการเศรษฐกิจปี 48 ไว้ที่ร้อยละ 5.5-6.5 และคาดว่าอัตราการขยายตัวของ
ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกนี้เทียบกับไตรมาสแรกของปี 47 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5-6.0
แน่นอน นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา
ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, เดลินิวส์, แนวหน้า, ข่าวสด, มติชน)
3. กรมสรรพากรคาดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ส่งผลให้จัดเก็บรายได้ลดลงประมาณ 2-3 พันล้านบาท อธิบดี
กรมสรรพากร เปิดเผยว่า เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีนี้ลดลง
ประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นจากการรวมค่าสูญเสียรายได้ภาษีนิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจที่
ได้รับผลกระทบ และการหักค่าใช้จ่ายสำหรับการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ทั้งนี้ ใน 7 จังหวัดภาคใต้
ตอนบนมีสัดส่วนการจัดเก็บรายได้ไม่ถึงร้อยละ 1.0 หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท ของรายได้ในการจัดเก็บภาษี
รวมทั้งหมดในปีนี้ ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 8.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บภาษีสรรพกรในไตรมาสแรกของปี
งบประมาณ 48 (ต.ค.47-ธ.ค.47) มีจำนวนกว่า 1.69 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 19.67 เนื่อง
จากภาวะเศรษฐกิจยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การจ้างงานยังอยู่ในเกณฑ์ดีและมีการปรับฐานเงินเดือนทั้งภาครัฐและ
เอกชน รวมทั้งภาคเอกชนมีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงสุด คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม รองลงมา คือภาษี
เงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้, เดลินิวส์, สยามรัฐ, แนวหน้า, ข่าวสด, มติชน)
4. ไทยสามารถส่งออกข้าวในปี 47 สูงเป็นประวัติการณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผย
ภาวะส่งออกข้าวในเดือน ธ.ค.47 ว่า สามารถส่งออกข้าวได้ถึง 800,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 248 ล้านดอลลาร์
สรอ. (9,916 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงจากเดือน พ.ย.47 เล็กน้อย เนื่องจากเป็นเดือนที่มี
ช่วงเทศกาลและวันหยุดติดต่อกันหลายวัน แต่ยังคงสูงกว่าเดือนเดียวกันของปี 46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 และ 9.0
ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญยังคงเป็นตลาดแอฟริกาและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ การส่งออกข้าวโดยรวมในปี
47 ได้ประมาณ 10.13 ล้านตัน มูลค่า 2,726 ล้านดอลลาร์ สรอ. (109,572 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่า
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35 และ 49 ตามลำดับ โดยปี 47 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงเป็นประวัติการณ์และราคาข้าว
ส่งออกก็อยู่ในเกณฑ์สูงโดยเฉลี่ยตันละ 269 ดอลลาร์ สรอ.เพิ่มขึ้นจากปี 46 ร้อยละ 11 (บ้านเมือง, มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราคนว่างงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.47 รายงานจากกรุง
วอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.48 ก.แรงงานของ สรอ. เปิดเผยว่า จำนวนคนอเมริกันที่ลงทะเบียนครั้งแรกเพื่อขอ
รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันการว่างงานของรัฐ ณ 1 ม.ค.48 เพิ่มขึ้น 43,000 คน อยู่ที่ระดับ 364,000
คน จากตัวเลขที่ปรับแล้ว 321,000 คน ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นสูงสุดภายในสัปดาห์เดียวในรอบ
เกือบ 3 ปี และสูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 331,000 คน ในขณะที่ Thomas Hoenig ประธาน
ธ.กลาง สรอ. (เมืองแคนซัส) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ สรอ.ในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 3.5 — 4.0 พร้อมกับการ
จ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านตำแหน่ง (รอยเตอร์)
2. เดือน ธ.ค.47 ภาคบริการของอังกฤษเติบโตชะลอลงที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน รายงาน
จากลอนดอนเมื่อ 6 ม.ค.48 The Chartered Institute of Purchasing and Supply/NTC เปิดเผย
ว่า Index of service sector business ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการดำเนินธุรกิจภาคบริการของอังกฤษ ที่ครอบ
คลุมตั้งแต่ธุรกิจบริการด้านอาหารจนถึงธุรกิจที่ปรึกษาด้านไอที ในเดือน ธ.ค.47 ลดลงที่ระดับ 54.9 จากระดับ
56.7 ในเดือนก่อน เป็นการลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงที่ระดับ 56.5 อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ
ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นระดับที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว นอกจากนี้ ดัชนีฯ ยังสูงกว่าตัวเลขเดียวกันของเขตเศรษฐกิจยุโรปซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.6 ทั้งนี้ การที่ดัชนีฯ ในเดือน ธ.ค. ลดลง เป็นผลจากการ
ลดลงของส่วนประกอบในดัชนีรวม โดย The New Orders Index ลดลงที่ระดับ 55.4 จากระดับ 56.8 ใน
เดือนก่อน และ The Business Expectations Index ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือน
มิ.ย.46 ที่ระดับ 73.7 จากระดับ 74.1 ในเดือนก่อน (รอยเตอร์)
3. ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือน พ.ย.47 ลดลงร้อยละ 2.5 จากเดือนก่อนแต่ผลสำรวจคาด
ว่ายอดขายเดือน ธ.ค.47 จะเพิ่มขึ้น รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 6 ม.ค.48 สนง.สถิติกลางของเยอรมนีรายงาน
ยอดค้าปลีกในเดือน พ.ย.47 ลดลงร้อยละ 2.5 จากเดือนก่อน ลดลงในอัตราสูงสุดในรอบ 6 เดือนและสูงกว่าที่
คาดไว้จากผลสำรวจโดยรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลงเพียงร้อยละ 0.2 ต่อเดือน อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความ
เห็นของทั้งธุรกิจค้าปลีกและผู้บริโภคโดยสำนักวิจัยต่าง ๆ คาดว่ายอดค้าปลีกในเดือน ธ.ค.47 จะเพิ่มขึ้น เช่น
เดียวกับ HDE retail association ซึ่งเป็นสมาคมค้าปลีกของเยอรมนีรายงานยอดขายในช่วงเทศกาล
คริสต์มาสของปี 47 เพิ่มขึ้นจำนวน 1.0 พันล้านยูโรเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 46 ภาคธุรกิจค้าปลีกของ
เยอรมนีได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่อยู่ในภาวะซบเซาซึ่งทำให้ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับราย
ได้ในอนาคตและลดการใช้จ่ายลง โดยทั้ง 2 สมาคมค้าปลีกชั้นนำของเยอรมนีคาดว่ายอดค้าปลีกในปี 47 จะลดลง
ประมาณร้อยละ 1.0 จากปีก่อน ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกันหลังจากตัวเลขยอดขายในช่วง 11
เดือนแรกของปี 47 ลดลงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน และไม่ได้คาดว่ายอดขายในปี 48 จะดีขึ้นจากปีก่อน
เพียงแต่หวังว่าจะไม่ลดลงจากปี 47 (รอยเตอร์)
4. รัฐบาลจีนจะเริ่มเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองในปีหน้า รายงานจากนิวเดลฮี เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 48
ผู้บริหารเศรษฐกิจอาวุโสของจีนเปิดเผยว่า จีนซี่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกจะ
เริ่มเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองในปีหน้าเนื่องจากอุปสงค์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Zhang
Xiaoqiang, Vice chairman of China’s National Development and Reform Commission
(NDRC) คาดว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวที่ระดับร้อยละ 8.0 หรือสูงกว่านั้น ที่
ผ่านมาจีนนำเข้าน้ำมันมากกว่าร้อยละ 40 ของความต้องการใช้น้ำมันดิบ ส่วนหนึ่งเนื่องจากผลผลิตน้ำมันในประเทศ
ลดลง และการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อนึ่งคลังน้ำมันสำรองจำนวน 10 ล้าน
บาร์เรลที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของเมือง Ningbo จะพร้อมใช้งานได้ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 1 ของแผน
สำรองน้ำมันเชิงกลยุทธปริมาณ 150 ล้านบาร์เรลที่จะเสร็จสมบูรณ์ในระยะ 3 — 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้โดยปกติบริษัท
น้ำมันจะสำรองน้ำมันเพื่อการค้าในระยะเวลา 10 - 30 วัน แต่รัฐบาลเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการที่จีนไม่
มีคลังน้ำมันในภาวะฉุกเฉินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเมื่อปีที่แล้วอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 15 ในจีนส่งผลให้
ราคาน้ำมันดิบโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 7/1/2548 6/1/2548 30/1/2548 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.175 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.9564/39.2355 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.1875-2.2000 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 693.62/31.06 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,950/8,050 7,950/8,050 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 36.84 34.5 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 19.29*/14.59 19.29*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับลด ลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 17 ธ.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--