ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ติดตามค่าเงินบาทในขณะนี้อย่างใกล้ชิดแต่ยังไม่ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงินแต่อย่างใด
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้ยังคงรักษาความสามารถในการแข่ง
ขันทางการค้าของไทยไว้ได้ เนื่องจากค่าความสามารถในการแข่งขันที่วัดจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แท้
จริง (REER) ซึ่งยังอยู่ในระดับเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และตลาดยังสามารถปรับตัวได้เอง ดังนั้น ความสามารถใน
การแข่งขันทางการค้าของไทยจึงยังคงมีอยู่เท่าเดิม ส่วนทางด้านความผันผวนของค่าเงินนั้น ธปท.ได้ติดตามดูแล
ไม่ให้ค่าเงินมีความผันผวนมากจนกระทบกับการค้าของประเทศ และธปท.ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปแทรกแซง
ค่าเงินบาทแต่อย่างใด เนื่องจากค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของตลาดเงิน
นั้นอาจจะทำให้เกิดการไหลเข้าออกของเงินทุนระยะสั้น ซึ่ง ธปท.ก็เฝ้าติดตามไม่ให้นักลงทุน Non-Resident
เข้ามาหาประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยนได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
2. ดัชนีอุตสาหกรรมในไตรมาส 3 ปี 47 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 0.3 ผอ.สำนักงาน
เศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้จัดทำรายงานภาวะอุตสาหกรรมไตรมาส 3 ปี 47 โดย
สรุปจากภาวะเศรษฐกิจภาพรวมดัชนีชี้วัดต่าง ๆ ของภาคอุตสาหกรรม พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมครอบคลุม
ทั้ง 50 กลุ่มอุตสาหกรรม มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ 0.3 ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียว
กันของปี 46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนีปรับตัวเล็กน้อยหรือทรงตัวนั้นมาจากปัจจัยความเสี่ยง
ที่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังคงเผชิญอยู่โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ปัญหาชายแดนภาคใต้ และไข้หวัดนกนั้น ได้กระทบกับ
อุตสาหกรรมอาหาร ที่ภาวะการผลิตและส่งออกไม่ขยายตัวเท่าที่ควร โดยภาวะการผลิตลดลงเมื่อเทียบกับไตร
มาส 2 จำนวนร้อยละ 50.33 และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.34 นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจาก
การประกาศไต่สวนการทุ่มตลาดกุ้งขั้นสุดท้ายของ สรอ.ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกกุ้งไทยลดลงเช่นกัน (ผู้
จัดการรายวัน)
3. สศค.เตรียมศึกษารูปแบบการให้บริการทางการเงินในอนาคต ผอ.สำนักนโยบายระบบการ
เงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพตลาดการเงินว่า ขณะ
นี้สำนักนโยบายระบบการเงินอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับการให้
บริการทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการเงินของประเทศ โดยในเบื้องต้นจะศึกษาความ
สามารถในการรองรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ของธนาคารแต่ละแห่งว่ามีมากน้อยเพียงใด สำหรับรูปแบบการให้บริการ
ของธนาคารในอนาคตจะต้องมีลักษณะการให้บริการด้วยระบบเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ส่วนการตั้ง
สาขาอาจจะไม่จำเป็นต้องเปิดสาขาแบบเต็มรูปแบบหรือตั้งในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง แต่หันมาเปิด
บริการผ่านสถานที่ราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้เป็นอย่างดี เช่น ที่ทำการ
ไปรษณีย์ เป็นต้น (ผู้จัดการรายวัน, แนวหน้า)
4. กรมธนารักษ์มอบหมายให้ สวค.ศึกษาแนวทางการระดมทุนด้วยวิธีซิเคียวริไทเซชั่น ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้กรมธนารักษ์ได้มอบหมายให้ สวค.ทำหน้าที่เป็นที่
ปรึกษาทางการเงิน (FA) ชั่วคราวให้กับบริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด เพื่อทำการศึกษาถึงแนวทางการระดมทุน
โดยผ่านวิธีการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (ซิเคียวริไทด์เซชั่น) สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการแห่งใหม่
บน ถ.แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษารายละเอียดทั้งหมด
ประมาณ 1 เดือน (บ้านเมือง, ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ปธน. สรอ. ต้องการให้ค่าเงินดอลลาร์ สรอ.แข็งตัว และลดการขาดดุล งปม. รายงาน
จากกรุงซานดิอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 21 พ.ย.47 ปธน. George W. Bush แห่ง สรอ. กล่าวย้ำว่า
รัฐบาล สรอ. มีนโยบายให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ สรอ. แข็งตัวขึ้น รวมถึงความ
พยายามในการลดการขาดดุล งปม. ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัจจุบันค่าเงินดอลลาร์ สรอ. อยู่ที่ระดับ
เกือบต่ำสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.43 เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน (รอยเตอร์)
2. เนเธอร์แลนด์ยืนยัน งปม. ปี 47 ขาดดุลไม่เกินร้อยละ 3 ของจีดีพี รายงานจากกรุง
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.47 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า งปม.
ปี 47 จะขาดดุลไม่เกินร้อยละ 3 ของจีดีพีตามกฎของสหภาพยุโรป (European Union Stability and
Growth Pact) ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์ละเมิดกฎของสหภาพยุโรปในปี 46 โดยจัดทำ งปม. ขาดดุลเกินร้อยละ
3 ของจีดีพี แต่ได้เริ่มแก้ไขโดยการปรับลดค่าใช้จ่ายภาครัฐและเพิ่มการจัดเก็บรายได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถ
แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในปีนี้ (รอยเตอร์)
3. รมว.คลังสรอ.ต้องการให้เศรษฐกิจสหภาพยุโรปขยายตัวอย่างแข็งแกร่งพร้อมทั้งให้ความมั่นใจ
ว่าการขาดดุลงปม.ของสรอ.จะลดลง รายงานจากเบอร์ลินเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 47 นาย John Snow รมว.
คลังสรอ. กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยเขาให้ความมั่นใจกับกลุ่ม G20 ว่า สรอ.จะลดการขาดดุลงบประมาณ
ลง และย้ำถึงความเรียกร้องให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เขากล่าวว่าผลกระทบของ
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สรอ.ไม่ได้เป็นประเด็นในการอภิปรายกันในกลุ่ม G20 และไม่แสดงความเห็นแต่
ประการใดในเรื่องดังกล่าว แต่กล่าวว่ากลุ่ม G20 ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะอภิปรายเรื่องค่าเงินซึ่งไม่ได้มีอยู่ใน
วาระการประชุม ทั้งนี้กลุ่มสหภาพยุโรปกล่าวตำหนิการที่สรอ.ขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลเป็นสาเหตุให้ค่า
เงินดอลล่าร์สรอ.อ่อนตัวลงและส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหภาพยุโรป อนึ่งแถลงการณ์จากการ
ประชุมฉบับนี้เปิดเผยว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่เศรษฐกิจจะโน้มต่ำลงเนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันรวมทั้ง
ความไม่สมดุลต่างประเทศที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และความกังวลด้านการเมืองในระดับภูมิภาค (รอยเตอร์)
4. ราคาบ้านของอังกฤษลดลงในเดือน พ.ย.47 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 22 พ.ย.47 เว็บ
ไซต์ Rightmove ซึ่งรวบรวมและจัดทำดัชนีข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์จากสมาชิกจำนวน 6,300 แห่ง เปิดเผย
ว่า ราคาบ้านของอังกฤษในเดือน พ.ย.47 ลดลงร้อยละ 1.7 นับเป็นอัตราการลดลงมากที่สุดเป็นครั้งที่ 3 ใน
รอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่
เคยขยายตัวอย่างร้อนแรงของอังกฤษกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้อัตราการขยายตัว
ต่อปีของราคาบ้านในอังกฤษชะลอลงที่ระดับร้อยละ 11.6 จากร้อยละ 13.4 ในเดือนก่อน และคาดว่าจะขยาย
ตัวลดลงสู่ระดับตัวเลขหนึ่งหลักในเดือนหน้า อันเนื่องมาจากผลกระทบของการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทางการเป็น
ครั้งที่ 5 ในรอบปีนี้ สอดคล้องกับผลการสำรวจของ The Halifax และ Nationwide ซึ่งระบุว่าราคาบ้าน
ของอังกฤษในเดือน ต.ค.47 ลดลงเช่นกัน (รอยเตอร์)
5. ยอดการล้มละลายรายใหม่ในสิงคโปร์ในเดือน ต.ค.47 สูงสุดในรอบ 6 เดือน รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อ 19 พ.ย.47 บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ถูกประกาศให้ล้มละลายรายใหม่ในเดือน ต.ค.47 มี
จำนวน 426 รายสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.47 แต่ลดลงร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
ทำให้ยอดบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ถูกประกาศให้ล้มละลายเมื่อสิ้นสุดเดือน ต.ค.47 เพิ่มขึ้นเป็น 21,047
ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับยอด 20,739 รายเมื่อสิ้นสุดเดือน ก.ย.47 โดยจำนวนบุคคลธรรมดา
และนิติบุคคลที่ถูกประกาศให้ล้มละลายรายใหม่เมื่อปีที่แล้วมีจำนวน 4,484 รายสูงสุดในรอบ 18 ปีและยอดการ
ล้มละลายในปีนี้อาจสูงกว่าปีที่แล้วหากยังมีผู้ถูกประกาศให้ล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการล้มละลาย
รายใหม่ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง ต.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ภายใต้
กฎหมายของสิงคโปร์บุคคลธรรมดาอาจถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายได้ด้วยหนี้เพียง 10,000 ดอลลาร์
สิงคโปร์หรือประมาณ 5,924 เหรียญ สรอ. เศรษฐกิจของสิงคโปร์หดตัวร้อยละ 3.0 ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้หลัง
จากขยายตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาสติดต่อกันตั้งแต่สิ้นสุดการระบาดของโรคไข้หวัด SARS เมื่อเดือน ก.ค.46 เป็น
ต้นมา (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 22 พ.ย. 47 19 พ.ย. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.145 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.9752/40.2532 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.7500-1.8000 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 651.42/ 19.62 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,400/8,500 8,350/8,450 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.53 32.32 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 21.19*/14.59 21.59/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับลด ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 19 พ.ย.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.ติดตามค่าเงินบาทในขณะนี้อย่างใกล้ชิดแต่ยังไม่ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงินแต่อย่างใด
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้ยังคงรักษาความสามารถในการแข่ง
ขันทางการค้าของไทยไว้ได้ เนื่องจากค่าความสามารถในการแข่งขันที่วัดจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แท้
จริง (REER) ซึ่งยังอยู่ในระดับเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และตลาดยังสามารถปรับตัวได้เอง ดังนั้น ความสามารถใน
การแข่งขันทางการค้าของไทยจึงยังคงมีอยู่เท่าเดิม ส่วนทางด้านความผันผวนของค่าเงินนั้น ธปท.ได้ติดตามดูแล
ไม่ให้ค่าเงินมีความผันผวนมากจนกระทบกับการค้าของประเทศ และธปท.ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปแทรกแซง
ค่าเงินบาทแต่อย่างใด เนื่องจากค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของตลาดเงิน
นั้นอาจจะทำให้เกิดการไหลเข้าออกของเงินทุนระยะสั้น ซึ่ง ธปท.ก็เฝ้าติดตามไม่ให้นักลงทุน Non-Resident
เข้ามาหาประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยนได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
2. ดัชนีอุตสาหกรรมในไตรมาส 3 ปี 47 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 0.3 ผอ.สำนักงาน
เศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้จัดทำรายงานภาวะอุตสาหกรรมไตรมาส 3 ปี 47 โดย
สรุปจากภาวะเศรษฐกิจภาพรวมดัชนีชี้วัดต่าง ๆ ของภาคอุตสาหกรรม พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมครอบคลุม
ทั้ง 50 กลุ่มอุตสาหกรรม มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ 0.3 ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียว
กันของปี 46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนีปรับตัวเล็กน้อยหรือทรงตัวนั้นมาจากปัจจัยความเสี่ยง
ที่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังคงเผชิญอยู่โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ปัญหาชายแดนภาคใต้ และไข้หวัดนกนั้น ได้กระทบกับ
อุตสาหกรรมอาหาร ที่ภาวะการผลิตและส่งออกไม่ขยายตัวเท่าที่ควร โดยภาวะการผลิตลดลงเมื่อเทียบกับไตร
มาส 2 จำนวนร้อยละ 50.33 และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.34 นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจาก
การประกาศไต่สวนการทุ่มตลาดกุ้งขั้นสุดท้ายของ สรอ.ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกกุ้งไทยลดลงเช่นกัน (ผู้
จัดการรายวัน)
3. สศค.เตรียมศึกษารูปแบบการให้บริการทางการเงินในอนาคต ผอ.สำนักนโยบายระบบการ
เงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพตลาดการเงินว่า ขณะ
นี้สำนักนโยบายระบบการเงินอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับการให้
บริการทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการเงินของประเทศ โดยในเบื้องต้นจะศึกษาความ
สามารถในการรองรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ของธนาคารแต่ละแห่งว่ามีมากน้อยเพียงใด สำหรับรูปแบบการให้บริการ
ของธนาคารในอนาคตจะต้องมีลักษณะการให้บริการด้วยระบบเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ส่วนการตั้ง
สาขาอาจจะไม่จำเป็นต้องเปิดสาขาแบบเต็มรูปแบบหรือตั้งในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง แต่หันมาเปิด
บริการผ่านสถานที่ราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้เป็นอย่างดี เช่น ที่ทำการ
ไปรษณีย์ เป็นต้น (ผู้จัดการรายวัน, แนวหน้า)
4. กรมธนารักษ์มอบหมายให้ สวค.ศึกษาแนวทางการระดมทุนด้วยวิธีซิเคียวริไทเซชั่น ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้กรมธนารักษ์ได้มอบหมายให้ สวค.ทำหน้าที่เป็นที่
ปรึกษาทางการเงิน (FA) ชั่วคราวให้กับบริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด เพื่อทำการศึกษาถึงแนวทางการระดมทุน
โดยผ่านวิธีการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (ซิเคียวริไทด์เซชั่น) สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการแห่งใหม่
บน ถ.แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษารายละเอียดทั้งหมด
ประมาณ 1 เดือน (บ้านเมือง, ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ปธน. สรอ. ต้องการให้ค่าเงินดอลลาร์ สรอ.แข็งตัว และลดการขาดดุล งปม. รายงาน
จากกรุงซานดิอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 21 พ.ย.47 ปธน. George W. Bush แห่ง สรอ. กล่าวย้ำว่า
รัฐบาล สรอ. มีนโยบายให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ สรอ. แข็งตัวขึ้น รวมถึงความ
พยายามในการลดการขาดดุล งปม. ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัจจุบันค่าเงินดอลลาร์ สรอ. อยู่ที่ระดับ
เกือบต่ำสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.43 เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน (รอยเตอร์)
2. เนเธอร์แลนด์ยืนยัน งปม. ปี 47 ขาดดุลไม่เกินร้อยละ 3 ของจีดีพี รายงานจากกรุง
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.47 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า งปม.
ปี 47 จะขาดดุลไม่เกินร้อยละ 3 ของจีดีพีตามกฎของสหภาพยุโรป (European Union Stability and
Growth Pact) ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์ละเมิดกฎของสหภาพยุโรปในปี 46 โดยจัดทำ งปม. ขาดดุลเกินร้อยละ
3 ของจีดีพี แต่ได้เริ่มแก้ไขโดยการปรับลดค่าใช้จ่ายภาครัฐและเพิ่มการจัดเก็บรายได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถ
แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในปีนี้ (รอยเตอร์)
3. รมว.คลังสรอ.ต้องการให้เศรษฐกิจสหภาพยุโรปขยายตัวอย่างแข็งแกร่งพร้อมทั้งให้ความมั่นใจ
ว่าการขาดดุลงปม.ของสรอ.จะลดลง รายงานจากเบอร์ลินเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 47 นาย John Snow รมว.
คลังสรอ. กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยเขาให้ความมั่นใจกับกลุ่ม G20 ว่า สรอ.จะลดการขาดดุลงบประมาณ
ลง และย้ำถึงความเรียกร้องให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เขากล่าวว่าผลกระทบของ
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สรอ.ไม่ได้เป็นประเด็นในการอภิปรายกันในกลุ่ม G20 และไม่แสดงความเห็นแต่
ประการใดในเรื่องดังกล่าว แต่กล่าวว่ากลุ่ม G20 ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะอภิปรายเรื่องค่าเงินซึ่งไม่ได้มีอยู่ใน
วาระการประชุม ทั้งนี้กลุ่มสหภาพยุโรปกล่าวตำหนิการที่สรอ.ขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลเป็นสาเหตุให้ค่า
เงินดอลล่าร์สรอ.อ่อนตัวลงและส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหภาพยุโรป อนึ่งแถลงการณ์จากการ
ประชุมฉบับนี้เปิดเผยว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่เศรษฐกิจจะโน้มต่ำลงเนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันรวมทั้ง
ความไม่สมดุลต่างประเทศที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และความกังวลด้านการเมืองในระดับภูมิภาค (รอยเตอร์)
4. ราคาบ้านของอังกฤษลดลงในเดือน พ.ย.47 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 22 พ.ย.47 เว็บ
ไซต์ Rightmove ซึ่งรวบรวมและจัดทำดัชนีข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์จากสมาชิกจำนวน 6,300 แห่ง เปิดเผย
ว่า ราคาบ้านของอังกฤษในเดือน พ.ย.47 ลดลงร้อยละ 1.7 นับเป็นอัตราการลดลงมากที่สุดเป็นครั้งที่ 3 ใน
รอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่
เคยขยายตัวอย่างร้อนแรงของอังกฤษกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้อัตราการขยายตัว
ต่อปีของราคาบ้านในอังกฤษชะลอลงที่ระดับร้อยละ 11.6 จากร้อยละ 13.4 ในเดือนก่อน และคาดว่าจะขยาย
ตัวลดลงสู่ระดับตัวเลขหนึ่งหลักในเดือนหน้า อันเนื่องมาจากผลกระทบของการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทางการเป็น
ครั้งที่ 5 ในรอบปีนี้ สอดคล้องกับผลการสำรวจของ The Halifax และ Nationwide ซึ่งระบุว่าราคาบ้าน
ของอังกฤษในเดือน ต.ค.47 ลดลงเช่นกัน (รอยเตอร์)
5. ยอดการล้มละลายรายใหม่ในสิงคโปร์ในเดือน ต.ค.47 สูงสุดในรอบ 6 เดือน รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อ 19 พ.ย.47 บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ถูกประกาศให้ล้มละลายรายใหม่ในเดือน ต.ค.47 มี
จำนวน 426 รายสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.47 แต่ลดลงร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
ทำให้ยอดบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ถูกประกาศให้ล้มละลายเมื่อสิ้นสุดเดือน ต.ค.47 เพิ่มขึ้นเป็น 21,047
ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับยอด 20,739 รายเมื่อสิ้นสุดเดือน ก.ย.47 โดยจำนวนบุคคลธรรมดา
และนิติบุคคลที่ถูกประกาศให้ล้มละลายรายใหม่เมื่อปีที่แล้วมีจำนวน 4,484 รายสูงสุดในรอบ 18 ปีและยอดการ
ล้มละลายในปีนี้อาจสูงกว่าปีที่แล้วหากยังมีผู้ถูกประกาศให้ล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการล้มละลาย
รายใหม่ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง ต.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ภายใต้
กฎหมายของสิงคโปร์บุคคลธรรมดาอาจถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายได้ด้วยหนี้เพียง 10,000 ดอลลาร์
สิงคโปร์หรือประมาณ 5,924 เหรียญ สรอ. เศรษฐกิจของสิงคโปร์หดตัวร้อยละ 3.0 ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้หลัง
จากขยายตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาสติดต่อกันตั้งแต่สิ้นสุดการระบาดของโรคไข้หวัด SARS เมื่อเดือน ก.ค.46 เป็น
ต้นมา (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 22 พ.ย. 47 19 พ.ย. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.145 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.9752/40.2532 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.7500-1.8000 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 651.42/ 19.62 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,400/8,500 8,350/8,450 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.53 32.32 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 21.19*/14.59 21.59/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับลด ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 19 พ.ย.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-