ในระหว่างการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 20 — 21 พฤศจิกายน 2547 ดร.ทักษิน ชินวัตร นายก รัฐมนตรีของไทยและประธานธิบดีวลาดิเมีย ปูตินของรัสเซียได้ตกลงสรุปผล การเจรจาเปิดตลาดสินค้าและบริการภายใต้การเจรจา เพื่อขอเข้าเป็นสมาชิก WTO
รัสเซียได้ตอบสนองข้อเรียกร้องของไทย โดยลดภาษีให้กับสินค้านำเข้าจากไทย ประมาณ 772 รายการ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของรายการสินค้าที่ไทยเรียกร้องจากรัสเซีย 1,103 รายการ สินค้าสำคัญ ที่มีศักยภาพการส่งออกสูง ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มันสำปะหลังอัดเม็ด น้ำผลไม้กระป๋อง อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ กุ้งกระป๋อง ข้าว เครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ปลา ผลไม้ น้ำผลไม้ และยางธรรมชาติ
สำหรับการค้าบริการด้านการลงทุนรัสเซียได้เปิดตลาดอนุญาตให้คนไทยเข้าไปลงทุนเป็นเจ้าของได้ 100% ได้แก่ ร้านอาหารไทย การออกแบบ ธุรกิจสปา การจัดงานแสดงสินค้า และการ บริหารจัดการ บริษัทท่องเที่ยว ธุรกิจซ่อมรถ และด้านสุขภาพ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับนักธุรกิจไทยที่สนใจ จะเข้าไป ลงทุนในรัสเซียได้
จะเห็นว่าไทยได้รับประโยชน์อย่างมาก จากการเจรจาสองฝ่ายกับรัสเซีย เพราะสามารถให้รัสเซียเปิดตลาดให้กับสินค้า และ บริการแก่ไทยได้ หากพิจารณาการค้าระหว่างกัน ในปี 2546 ซึ่งมีมูลค่า 8,453 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือร้อยละ 0.54 ของมูลค่า การค้ารวมของไทย นับว่าไม่มากนัก ดังนั้น จึงเป็นโอกาส่ดีจะส่งออกสินค้า และขยายตลาดรัสเซีย ซึ่งมีจำนวนประชากรประมาณ 145 ล้านคน ได้อีกมาก
รัสเซียสมัครเป็นสมาชิก WTO ตั้งแต่ปี 2536 ขณะนี้อยู่ในกระบวนการเจรจาสองฝ่ายกับสมาชิกเดิมหลายประเทศไทย เป็นประเทศหนึ่งที่สามารถสรุปผลการเจรจาได้ในการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ทั้งนี้ รัสเซียมีเป้าหมายที่จะเข้าเป็นสมาชิก WTO ในเดือนธันวาคม 2548
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-