กรุงเทพ--9 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “การทูตปิงปอง” ซึ่งสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว. คึกฤทธื ปราโมช เราเคยส่งทีมปิงปองไปเชื่อมความสัมพันธ์กับจีนเมื่อ 30 ปีก่อน มาในปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น“ครัวของโลก”สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยก็ได้ดำเนินงานโดยใช้อาหารเป็นเครื่องกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและประเทศต่างๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับประเทศในเอเชียที่มีความพิถีพิถันในเรื่องอาหารการกินคล้ายคลึงกับไทยเรา ดังนั้น “การทูตแบบครัวไทย” หรือ Kitchen Diplomacy จึงเป็นภารกิจที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่นได้ยึดมั่นและถือปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี
นอกจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้จัดงานเทศกาลอาหารไทยในกรุงโตเกียวติดต่อกันมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากายังได้จัดงานเทศกาลอาหารไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เช่นกัน แต่จัดขึ้นที่สวนสาธารณะเท็นโนจิ ในนครโอซากา ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน 2548 เพื่อเผยแพร่อาหารไทยให้เป็นที่แพร่หลายในญี่ปุ่น และช่วยขยายผลต่อเนื่องจากความสำเร็จของเทศกาลอาหารไทยที่กรุงโตเกียวอีกทางหนึ่งด้วย
เพียงเวลาแค่ 2 วัน งานเทศกาลอาหารไทยในนครโอซากาสามารถดึงดูดชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมงานได้เกือบ 70,000 คน เพราะในงานมีร้านอาหารไทยนานาชนิดถึง 33 คูหา ร้านขายสินค้าไทย 16 คูหา ร้านนวดแผนไทย 5 คูหา รวมทั้งหมด 54 คูหา และยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย การต่อสู้กระบี่กระบอง การแสดงศิลปมวยไทยโดยสมาคมมวยไทยในญี่ปุ่น การบรรเลงเพลงไทยด้วยซอ โดยรังสิต จงฌาณสิทโธ และกีตาร์ โดยชูเกียรติ เจริญภักดี การร้องเพลงไทยสากลโดยศิลปินจากแกรมมี่ ได้แก่ พิมรา เจริญภักดี (น้ำหวาน) และ นภัส จิวะกิดาการ (ฝน)
พูดได้ว่าชาวญี่ปุ่นที่เข้ามางานเทศกาลอาหารไทย อิ่มทั้งท้องและได้รับอาหารตาอาหารใจ เพราะงานนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ขนบรรดาศิลปินไปหลากหลาย มีทั้งลูกทุ่ง เช่น เบญจมาศ ศรีจงกล (เจี๊ยบ) และอำนาจ พุ่มนุ่ม (โด๊ส) นอกจากนี้ ยังมีการจับรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินสายการบินไทยไปกลับ กทม.-โอซากา การฉายภาพยนตร์ไทยเรือง “องค์บาก” และการแสดงรำกลองยาว โดยสมาคมร้านอาหารไทยในเขตคันไซ ซึ่งช่วยสร้างสีสันและทำให้บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครง
การที่นครโอซากามีชื่อเสียงเรื่องโภชนาการ และได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลอาหารไทยนับว่ามีความเหมาะสมอย่างยิ่ง และการจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 3 นอกจากจะช่วยให้อาหารไทยและวัฒนธรรมไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายอย่างต่อเนื่องในเขตคันไซแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสและลู่ทางการตลาดสำหรับอาหารและสินค้าไทย ตลอดจนสร้างความนิยมไทยผ่านทางอาหารไทย และช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “การทูตปิงปอง” ซึ่งสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว. คึกฤทธื ปราโมช เราเคยส่งทีมปิงปองไปเชื่อมความสัมพันธ์กับจีนเมื่อ 30 ปีก่อน มาในปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น“ครัวของโลก”สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยก็ได้ดำเนินงานโดยใช้อาหารเป็นเครื่องกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและประเทศต่างๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับประเทศในเอเชียที่มีความพิถีพิถันในเรื่องอาหารการกินคล้ายคลึงกับไทยเรา ดังนั้น “การทูตแบบครัวไทย” หรือ Kitchen Diplomacy จึงเป็นภารกิจที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่นได้ยึดมั่นและถือปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี
นอกจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้จัดงานเทศกาลอาหารไทยในกรุงโตเกียวติดต่อกันมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากายังได้จัดงานเทศกาลอาหารไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เช่นกัน แต่จัดขึ้นที่สวนสาธารณะเท็นโนจิ ในนครโอซากา ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน 2548 เพื่อเผยแพร่อาหารไทยให้เป็นที่แพร่หลายในญี่ปุ่น และช่วยขยายผลต่อเนื่องจากความสำเร็จของเทศกาลอาหารไทยที่กรุงโตเกียวอีกทางหนึ่งด้วย
เพียงเวลาแค่ 2 วัน งานเทศกาลอาหารไทยในนครโอซากาสามารถดึงดูดชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมงานได้เกือบ 70,000 คน เพราะในงานมีร้านอาหารไทยนานาชนิดถึง 33 คูหา ร้านขายสินค้าไทย 16 คูหา ร้านนวดแผนไทย 5 คูหา รวมทั้งหมด 54 คูหา และยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย การต่อสู้กระบี่กระบอง การแสดงศิลปมวยไทยโดยสมาคมมวยไทยในญี่ปุ่น การบรรเลงเพลงไทยด้วยซอ โดยรังสิต จงฌาณสิทโธ และกีตาร์ โดยชูเกียรติ เจริญภักดี การร้องเพลงไทยสากลโดยศิลปินจากแกรมมี่ ได้แก่ พิมรา เจริญภักดี (น้ำหวาน) และ นภัส จิวะกิดาการ (ฝน)
พูดได้ว่าชาวญี่ปุ่นที่เข้ามางานเทศกาลอาหารไทย อิ่มทั้งท้องและได้รับอาหารตาอาหารใจ เพราะงานนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ขนบรรดาศิลปินไปหลากหลาย มีทั้งลูกทุ่ง เช่น เบญจมาศ ศรีจงกล (เจี๊ยบ) และอำนาจ พุ่มนุ่ม (โด๊ส) นอกจากนี้ ยังมีการจับรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินสายการบินไทยไปกลับ กทม.-โอซากา การฉายภาพยนตร์ไทยเรือง “องค์บาก” และการแสดงรำกลองยาว โดยสมาคมร้านอาหารไทยในเขตคันไซ ซึ่งช่วยสร้างสีสันและทำให้บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครง
การที่นครโอซากามีชื่อเสียงเรื่องโภชนาการ และได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลอาหารไทยนับว่ามีความเหมาะสมอย่างยิ่ง และการจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 3 นอกจากจะช่วยให้อาหารไทยและวัฒนธรรมไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายอย่างต่อเนื่องในเขตคันไซแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสและลู่ทางการตลาดสำหรับอาหารและสินค้าไทย ตลอดจนสร้างความนิยมไทยผ่านทางอาหารไทย และช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-