อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความความสำคัญต่อประเทศทั้งในแง่ของการจ้างงานและการส่งออก เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพสูงในด้านวัตถุดิบที่เป็นข้อได้เปรียบกับประเทศคู่แข่ง โดยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 ไทยมีมูลค่าการส่งออกของยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางรวมทั้งสิ้น 1,263 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแบ่งเป็นมูลค่ายางพาราร้อยละ 59.97 และผลิตภัณฑ์ยางร้อยละ 40.02
1. การผลิต
ประเทศไทยผลิตยางแปรรูปขั้นต้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 2.8 ล้านตัน/ปี ยางแปรรูปขั้นต้นส่วนใหญ่มีการส่งออกร้อยละ 90 และส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายในประเทศ
ในส่วนของผลิตยางขั้นต้น ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 มีการผลิตยางแผ่นจำนวน 88,015.28 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 62.77 ส่วนยางแท่งมีการผลิตจำนวน 109,973.62 ตัน ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 49.50
สำหรับผลิตภัณฑ์ยาง ในไตรมาส 3 ของปี 2547 จำแนกเป็นการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง จำนวน 3,576,957 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 15.67 ยางนอกรถกะบะจำนวน 1,298,821 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 2.79 และถุงมือยางจำนวน 2,271.70 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 3.26
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น ประกอบด้วย ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครพ น้ำยางข้น โดยมีมูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 จำนวน 758.00 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลงจาก ไตรมาสที่แล้วร้อยละ 1.28 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และ สหรัฐอเมริกา
2) ผลิตภัณฑ์ยาง ประกอบด้วย ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ หลอดและท่อ สายพานลำเลียงและส่งกำลัง โดยมีมูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 จำนวน 505.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 9.00 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และฮ่องกง
2.2 ตลาดนำเข้า ประเภทผลิตภัณฑ์ยางที่นำเข้า ได้แก่ ท่อหรือข้อต่อ และสายพานลำเลียง และผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ
3. สรุปและแนวโน้ม
ในไตรมาสที่ 3 มีการผลิตยางแผ่นเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากวัตถุดิบคือ น้ำยางสดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งเป็นฤดูแล้ง ส่วนการผลิตผลิตภัณฑ์ยางประเภทยางล้อมีการผลิตเพิ่มมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในผลิตภัณฑ์ยางล้อรถจักรยานยนต์มีการผลิตลดน้อยลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ลดลงทั้งรถจักรยานยนต์ครอบครัวและสปอร์ต
สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 คาดว่าปริมาณการผลิตยางขั้นต้นจะลดน้อยลง เนื่องจากในช่วง เดือนตุลาคม - ธันวาคม ภาคใต้มีฝนตกชุก และการกรีดยางลดน้อยลง ส่งผลให้มีน้ำยางสดเข้าสู่ตลาดน้อย ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อการผลิตยางขั้นต้นแล้ว อาจมีผลให้การผลิตถุงมือยาง ซึ่งต้องอาศัยวัตถุดิบน้ำยางข้น ลดน้อยลง ตามไปด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
1. การผลิต
ประเทศไทยผลิตยางแปรรูปขั้นต้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 2.8 ล้านตัน/ปี ยางแปรรูปขั้นต้นส่วนใหญ่มีการส่งออกร้อยละ 90 และส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายในประเทศ
ในส่วนของผลิตยางขั้นต้น ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 มีการผลิตยางแผ่นจำนวน 88,015.28 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 62.77 ส่วนยางแท่งมีการผลิตจำนวน 109,973.62 ตัน ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 49.50
สำหรับผลิตภัณฑ์ยาง ในไตรมาส 3 ของปี 2547 จำแนกเป็นการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง จำนวน 3,576,957 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 15.67 ยางนอกรถกะบะจำนวน 1,298,821 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 2.79 และถุงมือยางจำนวน 2,271.70 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 3.26
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น ประกอบด้วย ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครพ น้ำยางข้น โดยมีมูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 จำนวน 758.00 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลงจาก ไตรมาสที่แล้วร้อยละ 1.28 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และ สหรัฐอเมริกา
2) ผลิตภัณฑ์ยาง ประกอบด้วย ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ หลอดและท่อ สายพานลำเลียงและส่งกำลัง โดยมีมูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 จำนวน 505.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 9.00 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และฮ่องกง
2.2 ตลาดนำเข้า ประเภทผลิตภัณฑ์ยางที่นำเข้า ได้แก่ ท่อหรือข้อต่อ และสายพานลำเลียง และผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ
3. สรุปและแนวโน้ม
ในไตรมาสที่ 3 มีการผลิตยางแผ่นเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากวัตถุดิบคือ น้ำยางสดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งเป็นฤดูแล้ง ส่วนการผลิตผลิตภัณฑ์ยางประเภทยางล้อมีการผลิตเพิ่มมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในผลิตภัณฑ์ยางล้อรถจักรยานยนต์มีการผลิตลดน้อยลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ลดลงทั้งรถจักรยานยนต์ครอบครัวและสปอร์ต
สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 คาดว่าปริมาณการผลิตยางขั้นต้นจะลดน้อยลง เนื่องจากในช่วง เดือนตุลาคม - ธันวาคม ภาคใต้มีฝนตกชุก และการกรีดยางลดน้อยลง ส่งผลให้มีน้ำยางสดเข้าสู่ตลาดน้อย ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อการผลิตยางขั้นต้นแล้ว อาจมีผลให้การผลิตถุงมือยาง ซึ่งต้องอาศัยวัตถุดิบน้ำยางข้น ลดน้อยลง ตามไปด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-