อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกสูงติดอันดับหนึ่งในสิบของสินค้าส่งออกของไทย ก่อให้เกิดการจ้างงานและอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ตั้งแต่การทำเหมือง การออกแบบ การทำและประกอบตัวเรือน การผลิตเครื่องมือเครื่องจักรในการเจียระไนพลอย และการทำวัสดุหีบห่อ เป็นต้น อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจึงเป็นหลักประเภทหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
การผลิต
ในไตรมาส 3 ของปี 2547 ดัชนีผลผลิตเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณและของที่เกี่ยวข้องกัน หดตัวร้อยละ 11.16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44
ดัชนีส่งสินค้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.77
ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง หดตัวร้อยละ 24.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 2.63
การตลาด
การส่งออก
ไตรมาส 3 ปี 2547 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า 692.30 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 14.28 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 605.80 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกันมีการขยายตัวร้อยละ 7.47 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 644.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2547 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,926.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.29 ซึ่งมีมูลค่า 1,829.80 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปที่ลดลงถึงร้อยละ 29.86 เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสวิตเซอร์แลนด์ลดลงกว่าร้อยละ 80 สินค้าที่สำคัญ ได้แก่ เพชร เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินและทอง
ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล เบลเยียม ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่ต้นปี ไทยส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้คิดเป็นมูลค่า 1,253.60 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 65 ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด
การนำเข้า
ช่วงไตรมาส 3 ปี 2547 ไทยนำเข้าเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เป็นมูลค่า 683.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.82 ซึ่งอยู่ที่ 611.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนปีเดียวกัน ลดลงร้อยละ 8.15 ซึ่งมีมูลค่า 744.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
นับจากเดือนมกราคม - กันยายน 2547 มีการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า ทั้งสิ้น 2,205.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40.80 ซึ่งอยู่ที่ 1,566.50 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดนำเข้าหลักของไทย ได้แก่ อิสราเอล ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์
สรุปและแนวโน้ม
ภาพรวมของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาส 3 ปี 2547 ยังคงอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าดัชนีผลผลิตจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ตาม แต่เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออก จะเห็นว่า มีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ มีเพียงทองคำยังไม่ขึ้นรูป และเครื่องประดับที่ทำด้วยโลหะอื่นๆ ที่ลดลง ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไม่มากนักเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น สำหรับมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบในประเทศขาดแคลน จึงจำเป็นต้องนำเข้ามาใช้ในการผลิต สำหรับไตรมาส 4 ปี 2547 นี้ คาดว่า จะมีการขยายตัวดีขึ้นทั้งการผลิตและการตลาดเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งอัญมณีและเครื่องประดับเป็นของขวัญอย่างหนึ่งที่คนนิยมมอบให้กัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
การผลิต
ในไตรมาส 3 ของปี 2547 ดัชนีผลผลิตเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณและของที่เกี่ยวข้องกัน หดตัวร้อยละ 11.16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44
ดัชนีส่งสินค้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.77
ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง หดตัวร้อยละ 24.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 2.63
การตลาด
การส่งออก
ไตรมาส 3 ปี 2547 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า 692.30 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 14.28 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 605.80 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกันมีการขยายตัวร้อยละ 7.47 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 644.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2547 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,926.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.29 ซึ่งมีมูลค่า 1,829.80 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปที่ลดลงถึงร้อยละ 29.86 เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสวิตเซอร์แลนด์ลดลงกว่าร้อยละ 80 สินค้าที่สำคัญ ได้แก่ เพชร เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินและทอง
ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล เบลเยียม ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่ต้นปี ไทยส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้คิดเป็นมูลค่า 1,253.60 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 65 ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด
การนำเข้า
ช่วงไตรมาส 3 ปี 2547 ไทยนำเข้าเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เป็นมูลค่า 683.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.82 ซึ่งอยู่ที่ 611.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนปีเดียวกัน ลดลงร้อยละ 8.15 ซึ่งมีมูลค่า 744.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
นับจากเดือนมกราคม - กันยายน 2547 มีการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า ทั้งสิ้น 2,205.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40.80 ซึ่งอยู่ที่ 1,566.50 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดนำเข้าหลักของไทย ได้แก่ อิสราเอล ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์
สรุปและแนวโน้ม
ภาพรวมของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาส 3 ปี 2547 ยังคงอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าดัชนีผลผลิตจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ตาม แต่เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออก จะเห็นว่า มีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ มีเพียงทองคำยังไม่ขึ้นรูป และเครื่องประดับที่ทำด้วยโลหะอื่นๆ ที่ลดลง ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไม่มากนักเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น สำหรับมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบในประเทศขาดแคลน จึงจำเป็นต้องนำเข้ามาใช้ในการผลิต สำหรับไตรมาส 4 ปี 2547 นี้ คาดว่า จะมีการขยายตัวดีขึ้นทั้งการผลิตและการตลาดเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งอัญมณีและเครื่องประดับเป็นของขวัญอย่างหนึ่งที่คนนิยมมอบให้กัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-