ที่พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ (28 พ.ย.47) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่มีการเลื่อนวันเลือกตั้งเข้ามาให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นการดำริของนายกฯ ซึ่งมีความประสงค์จะให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น โดยบอกเหตุผล 2 ประการว่าเพื่อจะทำให้การประสานงานราชการแผ่นดินของรัฐบาลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และบอกว่าขณะนี้ได้มีเอกสาร และวีซีดีใต้ดินเผยแพร่อย่างมากซึ่งถือว่าเป็นการทำลายประเทศชาติตนเห็นว่าเมื่อดูจากเหตุผลดังกล่าวในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่าไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใดก็ตาม พรรคมีคว่ทมพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นเหตุที่เลื่อนกำหนดการเลือกตั้งขึ้นมาเร็วกว่าที่ได้คาดการกันไว้นั้น คงไม่ใช่เรื่องความพร้อมของพรรคการเมืองใดแต่อย่างใด แต่เหตุผลอยู่ที่นายกฯที่ได้ประกาศต่อสาธารณชน เหตุผลที่บอกว่าการเลือกตั้งเร็วขึ้นจะทำใหการบริหารราชการแผ่นดินไม่มีปัญหา สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเหตุผลที่กล่าวอ้าง เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการที่กฎหมายกำหนดให้เมื่อสภา และรัฐบาลได้อยู่ครบวาระจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และในส่วนข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนั้นได้มีการกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องดำเนินการอย่างไร และเหตุผลอีกประการคือ การบริหารราชการแผ่นดินนั้น จะไม่ส่งผลกระทบใดๆเลยไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไรภายใน 45 วัน เพราะรัฐบาลยังอยู่ในช่วงรักษาการต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเรียบร้อย เพราะฉะนั้นการบริหารราชการแผ่นดินจะไม่กระทบใดๆอย่างที่นายกฯกล่าวอ้าง
ส่วนการออกนโยบายใหม่ หรือการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆซึ่งเป็นข้อดำริของรัฐบาลนั้นแน่นอนที่สุด ย่อมเป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามากำหนดการบริหารที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพราะโดยมารยาทแล้ว รัฐบาลรักษาการก็จะไม่ทำอะไรที่เป็นเรื่องนโยบายใหม่ๆขึ้นมา และคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีรัฐบาลรักษาการในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ประการที่นายกฯบอกว่ามีเอกสารและวีซีดีใต้ดินเผยแพร่กันมาก (ซึ่งนายกฯใช้คำว่าจนเละไปหมดแล้ว) ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ขอเรียนว่าหากรัฐบาลพบว่ามีเอกสารหรือวีซีดี ใต้ดินใดๆ ที่แจกจ่ายอยู่ในปัจจุบันแล้วขัดต่อความสงบ และความมั่นคงของประเทศ หรือขัดต่อกำหมาย ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของรับบาลที่จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย เพราะวีซีดีผิดกฎหมายอย่างอื่นยังสามารถนำสืบและดำเนินการได้ แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ เท่ากับว่าเอกสารและวีซีดีดังกล่าว เป็นเพียงข้ออ้างของรัฐบาล ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเร็วที่สุด เพราะหากมีการเลือกตั้งเร็วขึ้น พรรคการเมืองที่จะได้เปรียบที่สุดคือพรรที่เป็นรัฐบาล เพราะรัฐบาลสามารถใช้อำนาจ และกลไกของรัฐในการแทรกแซงก่อให้เกิดผลในการเลือกตั้ง ซึ่งรับบาลชุดนี้ก็แสดงให้เห็นว่ามีพฤติกรรมเช่นนี้มาให้เห็นโดยต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือท่าทีของนายกฯในการดูเหมือนว่าเป็นผู้สั่งการ กำหนดวันเลือกตั้งขึ้นมาเอง โดยไม่แยแสถึงอำนาจกกต.พรคถือว่าเป็นท่าทีที่ถือว่าทำลายรัฐธรรมนูญ เป็นท่าทีลดความเชื่อถือของกกต. ซึ่งนายกฯ เป็นผู้นำประเทศไม่ควรมีท่าทีเช่นนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่าผลการเลือกตั้ง เพราะเมื่อประชาชนไม่มั่นใจว่ากกต.ไม่มีความอิสระอย่างแท้จริง ผลการบริหารดำเนินการเลือกตั้งอาจไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงอยากฝากถึงนายกฯว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ควรส่งสัญญารที่กระทบการทำงานขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะ กกต.ซึ่งมีหน้าที่จัดการการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีขึ้นเร็วๆนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
เพราะฉะนั้นเหตุที่เลื่อนกำหนดการเลือกตั้งขึ้นมาเร็วกว่าที่ได้คาดการกันไว้นั้น คงไม่ใช่เรื่องความพร้อมของพรรคการเมืองใดแต่อย่างใด แต่เหตุผลอยู่ที่นายกฯที่ได้ประกาศต่อสาธารณชน เหตุผลที่บอกว่าการเลือกตั้งเร็วขึ้นจะทำใหการบริหารราชการแผ่นดินไม่มีปัญหา สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเหตุผลที่กล่าวอ้าง เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการที่กฎหมายกำหนดให้เมื่อสภา และรัฐบาลได้อยู่ครบวาระจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และในส่วนข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนั้นได้มีการกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องดำเนินการอย่างไร และเหตุผลอีกประการคือ การบริหารราชการแผ่นดินนั้น จะไม่ส่งผลกระทบใดๆเลยไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไรภายใน 45 วัน เพราะรัฐบาลยังอยู่ในช่วงรักษาการต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเรียบร้อย เพราะฉะนั้นการบริหารราชการแผ่นดินจะไม่กระทบใดๆอย่างที่นายกฯกล่าวอ้าง
ส่วนการออกนโยบายใหม่ หรือการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆซึ่งเป็นข้อดำริของรัฐบาลนั้นแน่นอนที่สุด ย่อมเป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามากำหนดการบริหารที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพราะโดยมารยาทแล้ว รัฐบาลรักษาการก็จะไม่ทำอะไรที่เป็นเรื่องนโยบายใหม่ๆขึ้นมา และคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีรัฐบาลรักษาการในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ประการที่นายกฯบอกว่ามีเอกสารและวีซีดีใต้ดินเผยแพร่กันมาก (ซึ่งนายกฯใช้คำว่าจนเละไปหมดแล้ว) ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ขอเรียนว่าหากรัฐบาลพบว่ามีเอกสารหรือวีซีดี ใต้ดินใดๆ ที่แจกจ่ายอยู่ในปัจจุบันแล้วขัดต่อความสงบ และความมั่นคงของประเทศ หรือขัดต่อกำหมาย ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของรับบาลที่จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย เพราะวีซีดีผิดกฎหมายอย่างอื่นยังสามารถนำสืบและดำเนินการได้ แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ เท่ากับว่าเอกสารและวีซีดีดังกล่าว เป็นเพียงข้ออ้างของรัฐบาล ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเร็วที่สุด เพราะหากมีการเลือกตั้งเร็วขึ้น พรรคการเมืองที่จะได้เปรียบที่สุดคือพรรที่เป็นรัฐบาล เพราะรัฐบาลสามารถใช้อำนาจ และกลไกของรัฐในการแทรกแซงก่อให้เกิดผลในการเลือกตั้ง ซึ่งรับบาลชุดนี้ก็แสดงให้เห็นว่ามีพฤติกรรมเช่นนี้มาให้เห็นโดยต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือท่าทีของนายกฯในการดูเหมือนว่าเป็นผู้สั่งการ กำหนดวันเลือกตั้งขึ้นมาเอง โดยไม่แยแสถึงอำนาจกกต.พรคถือว่าเป็นท่าทีที่ถือว่าทำลายรัฐธรรมนูญ เป็นท่าทีลดความเชื่อถือของกกต. ซึ่งนายกฯ เป็นผู้นำประเทศไม่ควรมีท่าทีเช่นนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่าผลการเลือกตั้ง เพราะเมื่อประชาชนไม่มั่นใจว่ากกต.ไม่มีความอิสระอย่างแท้จริง ผลการบริหารดำเนินการเลือกตั้งอาจไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงอยากฝากถึงนายกฯว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ควรส่งสัญญารที่กระทบการทำงานขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะ กกต.ซึ่งมีหน้าที่จัดการการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีขึ้นเร็วๆนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28 พ.ย. 2547--จบ--
-ดท-