กรุงเทพ--29 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
สืบเนื่องจากรายงานข่าวของสื่อมวลชนท้องถิ่นของไทยหลายฉบับเมื่อวันที่ 23 และ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างไข้หวัดนกและการส่งออกไก่ ของไทยไปยังสหภาพยุโรป กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งว่า คณะผู้แทนไทยประจำประชาคม ยุโรป ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ปัญหาที่ไทยมีกับสหภาพยุโรปในเรื่องไข้หวัดนกเป็นปัญหาที่มาจากข้อเท็จจริง ซึ่งไม่มีฝ่ายใดประสงค์จะให้เกิดขึ้น ดังนั้น ทัศนคติของทุกฝ่ายที่มีต่อกัน จึงควรตั้งอยู่บนพื้นฐาน ดังกล่าว
2. รายงานข่าวต่างๆ ตามที่ปรากฏในสื่อมวลชนไทยเมื่อวันที่ 23 และ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีความสับสนอย่างมาก และก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อเอกสารรายงานของ คณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรปเกี่ยวกับข้อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งออกสินค้าไก่ไทยไปยังสหภาพยุโรป
3. ในปัจจุบัน สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้ารายใหญ่รายเดียวของไทยที่นำเข้าไก่ปรุงสุกจาก ไทยตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการณ์และเป็นแบบฉบับให้หลายประเทศคล้อยตามยอมรับไก่ปรุงสุกจากไทย
4. สหภาพยุโรปให้ความสำคัญยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและต้องการเห็น ปัญหานี้ยุติลงโดยเร็วมากพอๆ กับไทย เพราะถือว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
5. เอกสารรายงานในข้อ 2 มิได้ระบุว่า สหภาพยุโรปจะหรือกำลังจะมีมาตรการ ห้ามนำเข้าไก่ปรุงสุกของไทย โดยเป็นเอกสารที่ประกอบด้วยข้อมูล/การวิเคราะห์ และจำลอง สถานการณ์ หากปัญหาไข้หวัดนกในไทยยืดเยื้อต่อไป
6. คณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรปได้เสนอแนะมาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาวที่สามารถใช้ภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาการ ระบาดของไข้หวัดนกในประเทศให้ยุติเร็วที่สุดและเพื่อป้องกันการกลับมาของปัญหาในระยะยาว
7. เอกสารรายงานในข้อ 2 เป็นความพยายามของคณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรปที่จะสนับสนุนมาตรการทั้งหลายที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนกให้ได้ผลที่ยั่งยืน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
สืบเนื่องจากรายงานข่าวของสื่อมวลชนท้องถิ่นของไทยหลายฉบับเมื่อวันที่ 23 และ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างไข้หวัดนกและการส่งออกไก่ ของไทยไปยังสหภาพยุโรป กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งว่า คณะผู้แทนไทยประจำประชาคม ยุโรป ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ปัญหาที่ไทยมีกับสหภาพยุโรปในเรื่องไข้หวัดนกเป็นปัญหาที่มาจากข้อเท็จจริง ซึ่งไม่มีฝ่ายใดประสงค์จะให้เกิดขึ้น ดังนั้น ทัศนคติของทุกฝ่ายที่มีต่อกัน จึงควรตั้งอยู่บนพื้นฐาน ดังกล่าว
2. รายงานข่าวต่างๆ ตามที่ปรากฏในสื่อมวลชนไทยเมื่อวันที่ 23 และ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีความสับสนอย่างมาก และก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อเอกสารรายงานของ คณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรปเกี่ยวกับข้อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งออกสินค้าไก่ไทยไปยังสหภาพยุโรป
3. ในปัจจุบัน สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้ารายใหญ่รายเดียวของไทยที่นำเข้าไก่ปรุงสุกจาก ไทยตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการณ์และเป็นแบบฉบับให้หลายประเทศคล้อยตามยอมรับไก่ปรุงสุกจากไทย
4. สหภาพยุโรปให้ความสำคัญยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและต้องการเห็น ปัญหานี้ยุติลงโดยเร็วมากพอๆ กับไทย เพราะถือว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
5. เอกสารรายงานในข้อ 2 มิได้ระบุว่า สหภาพยุโรปจะหรือกำลังจะมีมาตรการ ห้ามนำเข้าไก่ปรุงสุกของไทย โดยเป็นเอกสารที่ประกอบด้วยข้อมูล/การวิเคราะห์ และจำลอง สถานการณ์ หากปัญหาไข้หวัดนกในไทยยืดเยื้อต่อไป
6. คณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรปได้เสนอแนะมาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาวที่สามารถใช้ภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาการ ระบาดของไข้หวัดนกในประเทศให้ยุติเร็วที่สุดและเพื่อป้องกันการกลับมาของปัญหาในระยะยาว
7. เอกสารรายงานในข้อ 2 เป็นความพยายามของคณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรปที่จะสนับสนุนมาตรการทั้งหลายที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนกให้ได้ผลที่ยั่งยืน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-