รองหน.พรรคปชป. ‘นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ ระบุ การออกมาเปิดเผยผลสำรวจความนิยมของ ทรท. เป็นการกระทำที่เสียมารยาททางการเมือง ย้ำความพร้อม ‘มินิคาราวานประชาธิปไตย’พบปะพี่น้องทั่วประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยประเมินว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 30 ที่นั่ง และมั่นใจที่จะได้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ 10 ที่นั่งว่า การออกมาแถลงเรื่องดังกล่าวถือว่า เป็นการดูถูกพรรคการเมืองอื่นๆ รวมถึงพรรครวมรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น และไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการกระทำครั้งนี้คืออะไร และในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ตนไม่แน่ใจว่ากระแสการตอบรับพรรคไทยรักไทยจะยังมีหลงเหลืออยู่ เพราะจากความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ได้ปรากฏอย่างชัดเจนแล้ว ประกอบกับพฤติกรรมของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาในการเข้าไปดำเนินการกับพี่น้องชาวมุสลิมเป็นไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การอุ้มฆ่า บุกค้นโรงเรียนปอเนาะ สิ่งเหล่านี้ยังฝังใจประชาชนในพื้นที่อยู่
ต่อข้อถามว่าในช่วงเลือกตั้งในพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องระมัดระวังเรื่องมารยาทการเมืองมากขึ้นหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยปฏิบัติต่อพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ ความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการหาเสียง จะต้องไม่มีการนำเงินภาษีของประชาชน และอำนาจรัฐ มาใช้เพื่อหาประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
ต่อข้อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการปรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียงโดยเพิ่มทีมจรยุทธ์ลงพื้นที่หาเสียงในส่วนที่คาราวานไม่ได้ลงพื้นที่ รองหน.พรรคปชป. กล่าวว่า คาราวานประชาธิปไตย คาราวานประชาธิปัตย์ ได้เดินทางพบปะกับพี่น้องประชาชนได้ค่อนประเทศแล้ว โดยพรรคจะเดินทางให้ครบ 76 จังหวัดตามที่ได้กำหนดไว้ และในส่วนของแต่ละพื้นแต่ละจังหวัดได้จัดให้มีมินิคาราวานสานต่องานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส่วนที่จะมีการเข้าไปเสริมในเรื่องของการปราศรัยในพื้นที่ต่างๆนั้นเป็นการเสริมให้เต็มพื้นที่ทั้งหมด ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องยอมรับความจริงว่าต้องสู้กับอำนาจเงิน อำนาจรัฐ รวมทั้งสู้กับการถูกเอารัดเอาเปรียบ ‘ตนมั่นใจว่าพรรคจะได้ ส.ส. เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่น้อยกว่าเดิม เพราะการออกไปในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ พรรคได้กระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และการที่ออกมาระบุว่าภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์จะได้ไม่ถึง 10 นั้น คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเป็นการประเมินที่ดูถูกพรรค เช่นเดียวกับที่ปรามาศพรรคอื่นว่าจะไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์’รองหน.พรรคปชป. กล่าว
ต่อข้อถามว่าการเข้ายึดทรัพย์นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ มีผลกระทบกับพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคการดำเนินการตามกฎหมายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตนมีเครื่องหมายคำถามอย่างน้อย 2 คำถาม คือ 1.เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ในกรณีของการฮั้ว ได้มีการดำเนินการโดยเสมอหน้าหรือไม่ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ และ 2 . ถ้ากำนันเซี๊ยะไม่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ไปอยู่พรรคการเมืองบางพรรค ท่านจะโดนอย่างนี้หรือไม่ สำหรับกรณีที่นายกฯจะเดินทางไปปราศรัยในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ตนคิดว่าเป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ แต่คิดว่าเดียวนี้คนที่รู้ทันทักษิณ และรัฐบาลชุดนี้มีมากขึ้นไม่เฉพาะที่เมืองกาญฯ แต่ได้กระจายไปทั่วประเทศแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 2 % ในขณะที่ดัชนีผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเพียง 8% แต่ต้องไม่ลืมว่าระยะเวลาในการหาเสียงในปีนี้ลดลงจากเดิม 25 % เพราะถ้าสภาอยู่ครบวาระก็จะมีระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งไม่เกิน 45 วัน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีเวลาถึง 60 วัน ดังนั้น ก็น่าที่จะหักลบกันได้ ทางพรรคจึงเห็นว่าน่าที่จะคงค่าใช้จ่ายไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ประกอบกับเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญในช่วงการปฏิรูปการเมืองก็ต้องการให้การหาเสียงใช้เงินให้น้อยที่สุด
สำหรับในเรื่องของการเลื่อนการเลือกตั้งนั้น แม้กกต.จะยังไม่มีมติ แต่ก็ได้กำหนดเบื้องต้นว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 13 ก.พ. เพราะฉะนั้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ตนคิดว่าไม่ได้เป็นผลดีกับภาพของกกต.ในสายตาประชาชน เพราะจะถูกมองว่าพอนายกฯบอกให้เลือกตั้งเร็วก็เปลี่ยนกำหนดการจากเดิม ซึ่งเรื่องนี้ทุกฝ่ายเฝ้าดูว่าที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร
ส่วนข้ออ้างที่บอกว่าเลือกตั้งเร็วจะทำให้ไม่มีสูญญากาศทางการเมืองการบริหาร รองหน.พรรคปชป. กล่าวว่า ฟังไม่ขึ้น เป็นเหตุผลที่ข้างๆคูๆ เพราะว่าสูญญากาศทางการเมืองไม่มีอยู่แล้วโดยรัฐธรรมนูญ แม้ว่าสภาจะครบวาระรัฐบาลก็ต้องเป็นรัฐบาลรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งรัฐบาลรักษาการก็สามารถบริหารราชการแผ่นดิน และแก้ไขปัญหาในบ้านเมืองต่อไปได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยประเมินว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 30 ที่นั่ง และมั่นใจที่จะได้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ 10 ที่นั่งว่า การออกมาแถลงเรื่องดังกล่าวถือว่า เป็นการดูถูกพรรคการเมืองอื่นๆ รวมถึงพรรครวมรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น และไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการกระทำครั้งนี้คืออะไร และในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ตนไม่แน่ใจว่ากระแสการตอบรับพรรคไทยรักไทยจะยังมีหลงเหลืออยู่ เพราะจากความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ได้ปรากฏอย่างชัดเจนแล้ว ประกอบกับพฤติกรรมของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาในการเข้าไปดำเนินการกับพี่น้องชาวมุสลิมเป็นไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การอุ้มฆ่า บุกค้นโรงเรียนปอเนาะ สิ่งเหล่านี้ยังฝังใจประชาชนในพื้นที่อยู่
ต่อข้อถามว่าในช่วงเลือกตั้งในพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องระมัดระวังเรื่องมารยาทการเมืองมากขึ้นหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยปฏิบัติต่อพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ ความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการหาเสียง จะต้องไม่มีการนำเงินภาษีของประชาชน และอำนาจรัฐ มาใช้เพื่อหาประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
ต่อข้อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการปรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียงโดยเพิ่มทีมจรยุทธ์ลงพื้นที่หาเสียงในส่วนที่คาราวานไม่ได้ลงพื้นที่ รองหน.พรรคปชป. กล่าวว่า คาราวานประชาธิปไตย คาราวานประชาธิปัตย์ ได้เดินทางพบปะกับพี่น้องประชาชนได้ค่อนประเทศแล้ว โดยพรรคจะเดินทางให้ครบ 76 จังหวัดตามที่ได้กำหนดไว้ และในส่วนของแต่ละพื้นแต่ละจังหวัดได้จัดให้มีมินิคาราวานสานต่องานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส่วนที่จะมีการเข้าไปเสริมในเรื่องของการปราศรัยในพื้นที่ต่างๆนั้นเป็นการเสริมให้เต็มพื้นที่ทั้งหมด ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องยอมรับความจริงว่าต้องสู้กับอำนาจเงิน อำนาจรัฐ รวมทั้งสู้กับการถูกเอารัดเอาเปรียบ ‘ตนมั่นใจว่าพรรคจะได้ ส.ส. เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่น้อยกว่าเดิม เพราะการออกไปในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ พรรคได้กระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และการที่ออกมาระบุว่าภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์จะได้ไม่ถึง 10 นั้น คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเป็นการประเมินที่ดูถูกพรรค เช่นเดียวกับที่ปรามาศพรรคอื่นว่าจะไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์’รองหน.พรรคปชป. กล่าว
ต่อข้อถามว่าการเข้ายึดทรัพย์นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ มีผลกระทบกับพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคการดำเนินการตามกฎหมายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตนมีเครื่องหมายคำถามอย่างน้อย 2 คำถาม คือ 1.เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ในกรณีของการฮั้ว ได้มีการดำเนินการโดยเสมอหน้าหรือไม่ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ และ 2 . ถ้ากำนันเซี๊ยะไม่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ไปอยู่พรรคการเมืองบางพรรค ท่านจะโดนอย่างนี้หรือไม่ สำหรับกรณีที่นายกฯจะเดินทางไปปราศรัยในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ตนคิดว่าเป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ แต่คิดว่าเดียวนี้คนที่รู้ทันทักษิณ และรัฐบาลชุดนี้มีมากขึ้นไม่เฉพาะที่เมืองกาญฯ แต่ได้กระจายไปทั่วประเทศแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 2 % ในขณะที่ดัชนีผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเพียง 8% แต่ต้องไม่ลืมว่าระยะเวลาในการหาเสียงในปีนี้ลดลงจากเดิม 25 % เพราะถ้าสภาอยู่ครบวาระก็จะมีระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งไม่เกิน 45 วัน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีเวลาถึง 60 วัน ดังนั้น ก็น่าที่จะหักลบกันได้ ทางพรรคจึงเห็นว่าน่าที่จะคงค่าใช้จ่ายไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ประกอบกับเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญในช่วงการปฏิรูปการเมืองก็ต้องการให้การหาเสียงใช้เงินให้น้อยที่สุด
สำหรับในเรื่องของการเลื่อนการเลือกตั้งนั้น แม้กกต.จะยังไม่มีมติ แต่ก็ได้กำหนดเบื้องต้นว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 13 ก.พ. เพราะฉะนั้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ตนคิดว่าไม่ได้เป็นผลดีกับภาพของกกต.ในสายตาประชาชน เพราะจะถูกมองว่าพอนายกฯบอกให้เลือกตั้งเร็วก็เปลี่ยนกำหนดการจากเดิม ซึ่งเรื่องนี้ทุกฝ่ายเฝ้าดูว่าที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร
ส่วนข้ออ้างที่บอกว่าเลือกตั้งเร็วจะทำให้ไม่มีสูญญากาศทางการเมืองการบริหาร รองหน.พรรคปชป. กล่าวว่า ฟังไม่ขึ้น เป็นเหตุผลที่ข้างๆคูๆ เพราะว่าสูญญากาศทางการเมืองไม่มีอยู่แล้วโดยรัฐธรรมนูญ แม้ว่าสภาจะครบวาระรัฐบาลก็ต้องเป็นรัฐบาลรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งรัฐบาลรักษาการก็สามารถบริหารราชการแผ่นดิน และแก้ไขปัญหาในบ้านเมืองต่อไปได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-