ในเดือนตุลาคม เศรษฐกิจภาคใต้อยู่ในภาวะชะลอตัว ตามการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน ผลจากรายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลที่สำคัญชะลอลงมาก ในขณะเดียวกันภาคการลงทุนโดยเฉพาะการก่อสร้างยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และการเบิกจ่ายภาครัฐลดลง
ในภาคการผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอลงตามวัตถุดิบทั้งอุตสาหกรรมยางพารา และอาหารทะเลกระป๋อง แม้ว่าอุปสงค์ของตลาดต่างประเทศยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นัก ท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน ภาคใต้ที่รุนแรงขึ้น
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเร่งตัวจากเดือนก่อนเล็กน้อย ตามการปรับเพิ่มขึ้นของราคา เนื้อสัตว์ น้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้า
ภาคเกษตร
ผลผลิตพืชผลทางการเกษตรของภาคใต้ขยายตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.3 ขณะที่ราคามีแนวโน้มชะลอตัว โดยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.6 จากร้อยละ 16.8 ในเดือนก่อน ตามราคายางและปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรจากการขายพืชผลที่สำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ชะลอลงจากเดือนที่ผ่านมา และลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 13.2
ทางด้านประมงทะเลประสบปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งจากความผันผวนของราคาน้ำมันและการปรับราคาเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์การทำประมง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายหยุดออกเรือ ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำนำขึ้น ณ ท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ลดลงต่อเนื่อง โดยปริมาณ และมูลค่าลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.8 และ 25.6 ตามลำดับ สำหรับกุ้งกุลาดำ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการเลี้ยงกุ้งขาวเพิ่มขึ้น ทำให้กุ้งมีราคาเฉลี่ยลดลง
ภาคอุตสาหกรรม
การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ตามการชะลอตัวของผลผลิตพืชเกษตรที่สำคัญ ขณะที่อุปสงค์ของตลาดต่างประเทศยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งอุตสาหกรรมยางพาราและปาล์มน้ำมัน ส่วนอาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารทะเลกระป๋องแม้ว่าการผลิตจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อน แต่มี แนวโน้มดีขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมา
ภาคบริการท่องเที่ยว
ภาวะการท่องเที่ยวของภาคใต้ในเดือนนี้อยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.0 ตามการลดลงของนักท่องเที่ยวภาคใต้ตอนล่างที่ลดลงถึงร้อยละ 30.1 ขณะที่การท่องเที่ยวทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24.9
การใช้จ่ายภาคเอกชน
การใช้จ่ายภาคเอกชนชะลอตัวจากเดือนก่อน แม้ว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.7 แต่เป็นอัตราที่ลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มยานพาหนะ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีอัตราเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 13.9 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเกิดปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างทำให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์มากขึ้น ขณะที่การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 9.2
การลงทุนภาคเอกชน
การลงทุนภาคเอกชนยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในภาคการก่อสร้างมีพื้นที่ได้รับอนุญาตลดลงร้อยละ 3.5 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนของภาคใต้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากทั้งทางด้านการส่งเสริมการลงทุนและการจดทะเบียนธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง รวมทั้งการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9
การจ้างงาน
การจ้างงานในภาคใต้ขยายตัว เนื่องจากมีความต้องการจ้างงานในกิจการสรรพสินค้าและอุตสาหกรรม นอกจากนี้มีการรับนักศึกษางานฝึกในช่วงปิดเทอม อย่างไรก็ตาม ภาคใต้ยังคงมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากแรงงานหันไปกรีดยางเพิ่มขึ้น สำหรับอัตราการว่างงานของภาคใต้ในเดือนกันยายนนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.8
ระดับราคา
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เร่งตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เป็นผลจากราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 5.3 ตามราคาเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ สำหรับราคาในหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.0 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้าเป็นสำคัญ
การค้าต่างประเทศ
การค้าระหว่างประเทศของภาคใต้ในเดือนนี้ขยายตัวในอัตราร้อยละ 18.1 ตามมูลค่านำเข้าซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.9 เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าประเภททุนเป็นสำคัญ ขณะที่มูลค่าการส่งออกชะลอลง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลลดลงร้อยละ 12.0 นับเป็นการลดลงเป็นเดือน ที่ 3 ในรอบปี ส่วนการค้าผ่านด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย มีมูลค่าส่งออก 375.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 16.1 และมูลค่าการนำเข้า 171.36 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7
การคลัง
ในเดือนตุลาคมนี้การเบิกจ่ายของส่วนราชการลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.9 ขณะที่รายได้จากภาษี เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 19.6 ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากฐานการบริโภคเป็นสำคัญ
ภาคการเงิน
สภาพคล่องยังคงลดลงต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าเงินฝาก ณ สิ้นเดือนตุลาคม เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 11.0 ชะลอจากเดือนก่อน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 11.5 เนื่องจากมีการนำเงินไปลงทุนในตราสารและหลักทรัพย์อื่น ส่วนสินเชื่อขยายตัวร้อยละ 14.0 ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่วนสถาบันการเงินอื่นมีทิศทางการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเช่นกัน
(ยังมีต่อ)
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ในภาคการผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอลงตามวัตถุดิบทั้งอุตสาหกรรมยางพารา และอาหารทะเลกระป๋อง แม้ว่าอุปสงค์ของตลาดต่างประเทศยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นัก ท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน ภาคใต้ที่รุนแรงขึ้น
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเร่งตัวจากเดือนก่อนเล็กน้อย ตามการปรับเพิ่มขึ้นของราคา เนื้อสัตว์ น้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้า
ภาคเกษตร
ผลผลิตพืชผลทางการเกษตรของภาคใต้ขยายตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.3 ขณะที่ราคามีแนวโน้มชะลอตัว โดยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.6 จากร้อยละ 16.8 ในเดือนก่อน ตามราคายางและปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรจากการขายพืชผลที่สำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ชะลอลงจากเดือนที่ผ่านมา และลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 13.2
ทางด้านประมงทะเลประสบปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งจากความผันผวนของราคาน้ำมันและการปรับราคาเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์การทำประมง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายหยุดออกเรือ ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำนำขึ้น ณ ท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ลดลงต่อเนื่อง โดยปริมาณ และมูลค่าลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.8 และ 25.6 ตามลำดับ สำหรับกุ้งกุลาดำ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการเลี้ยงกุ้งขาวเพิ่มขึ้น ทำให้กุ้งมีราคาเฉลี่ยลดลง
ภาคอุตสาหกรรม
การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ตามการชะลอตัวของผลผลิตพืชเกษตรที่สำคัญ ขณะที่อุปสงค์ของตลาดต่างประเทศยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งอุตสาหกรรมยางพาราและปาล์มน้ำมัน ส่วนอาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารทะเลกระป๋องแม้ว่าการผลิตจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อน แต่มี แนวโน้มดีขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมา
ภาคบริการท่องเที่ยว
ภาวะการท่องเที่ยวของภาคใต้ในเดือนนี้อยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.0 ตามการลดลงของนักท่องเที่ยวภาคใต้ตอนล่างที่ลดลงถึงร้อยละ 30.1 ขณะที่การท่องเที่ยวทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24.9
การใช้จ่ายภาคเอกชน
การใช้จ่ายภาคเอกชนชะลอตัวจากเดือนก่อน แม้ว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.7 แต่เป็นอัตราที่ลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มยานพาหนะ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีอัตราเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 13.9 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเกิดปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างทำให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์มากขึ้น ขณะที่การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 9.2
การลงทุนภาคเอกชน
การลงทุนภาคเอกชนยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในภาคการก่อสร้างมีพื้นที่ได้รับอนุญาตลดลงร้อยละ 3.5 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนของภาคใต้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากทั้งทางด้านการส่งเสริมการลงทุนและการจดทะเบียนธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง รวมทั้งการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9
การจ้างงาน
การจ้างงานในภาคใต้ขยายตัว เนื่องจากมีความต้องการจ้างงานในกิจการสรรพสินค้าและอุตสาหกรรม นอกจากนี้มีการรับนักศึกษางานฝึกในช่วงปิดเทอม อย่างไรก็ตาม ภาคใต้ยังคงมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากแรงงานหันไปกรีดยางเพิ่มขึ้น สำหรับอัตราการว่างงานของภาคใต้ในเดือนกันยายนนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.8
ระดับราคา
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เร่งตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เป็นผลจากราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 5.3 ตามราคาเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ สำหรับราคาในหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.0 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้าเป็นสำคัญ
การค้าต่างประเทศ
การค้าระหว่างประเทศของภาคใต้ในเดือนนี้ขยายตัวในอัตราร้อยละ 18.1 ตามมูลค่านำเข้าซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.9 เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าประเภททุนเป็นสำคัญ ขณะที่มูลค่าการส่งออกชะลอลง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลลดลงร้อยละ 12.0 นับเป็นการลดลงเป็นเดือน ที่ 3 ในรอบปี ส่วนการค้าผ่านด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย มีมูลค่าส่งออก 375.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 16.1 และมูลค่าการนำเข้า 171.36 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7
การคลัง
ในเดือนตุลาคมนี้การเบิกจ่ายของส่วนราชการลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.9 ขณะที่รายได้จากภาษี เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 19.6 ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากฐานการบริโภคเป็นสำคัญ
ภาคการเงิน
สภาพคล่องยังคงลดลงต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าเงินฝาก ณ สิ้นเดือนตุลาคม เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 11.0 ชะลอจากเดือนก่อน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 11.5 เนื่องจากมีการนำเงินไปลงทุนในตราสารและหลักทรัพย์อื่น ส่วนสินเชื่อขยายตัวร้อยละ 14.0 ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่วนสถาบันการเงินอื่นมีทิศทางการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเช่นกัน
(ยังมีต่อ)
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--