กรุงเทพ--8 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ท่านผู้หญิง ดร. สุธาวัลย์ เสถียรไทย ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนางระวีวรรณ กาญจนกุญชร ภริยาปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ ได้ร่วมกันการแถลงข่าว ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในงานเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ณ สวนสาธารณะเบญจกิติ (ในบริเวณใกล้เคียงกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2547 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นความริเริ่มและตั้งใจของคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังเป็นการแสดงถึงความซาบซึ้งของชาวต่างประเทศในพระราชกรณียกิจด้านสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมสวัสดิการของสตรีและเด็กที่ไม่เพียงแต่จะยังประโยชน์เฉพาะแก่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลอันประมาณค่ามิได้แก่ประชาคมโลกโดยรวมด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จะจัดขึ้นประกอบด้วย
1. การพระราชทานรางวัลแก่ชาวต่างชาติที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยจำนวน 2 ราย ซึ่งได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ประกอบด้วย 1) สาขาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้แก่ ดร. Warren Y. Brockelman ชาวอเมริกัน ซึ่งเดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2516 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในภาควิชาชีววิทยาของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีผลงานดีเด่นทางวิชาการและบทบาทด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และ 2) สาขาการส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์สตรีและเด็ก ได้แก่ บาทหลวง Joseph H. Maier, CSs.R. ชาวอเมริกัน ซึ่งเดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2510 และเป็นผู้ก่อตั้งและ ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล (Human Development Foundation: HDF) ที่ชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กที่ถูกทารุณกรรม และผู้ป่วยโรคเอดส์จำนวนกว่า 200 คน ทั้งนี้ การพระราชทานรางวัลแก่ชาวต่างชาติมีผลงานดีเด่นดังกล่าวจะเป็นแรงจูงใจให้มีผู้กระทำประโยชน์แก่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
2. การจัดสร้างสวนรุกขชาติและสนามเด็กเล่น ซึ่งกลุ่มภริยาคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยเป็นผู้เสนอ และได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตและรัฐบาลของแต่ละประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูต 66 ประเทศ ได้จัดหาต้นไม้จำนวน 400 ต้น ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นผู้จัดหา โดยจะมีการปลูกต้นไม้ดังกล่าวในบริเวณสวนสาธารณะเบญจกิติ และมีป้ายระบุชื่อพันธุ์ และประเทศผู้บริจาค เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบรายละเอียดด้วย นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูต 5 ประเทศได้แก่จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย และอิยิปต์ ได้ให้ความอนุเคราะห์จัดประติมากรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตนขึ้นในบริเวณสวน และสถานเอกอัครราชทูต 14 ประเทศ ให้ความอนุเคราะห์เครื่องเล่นเด็กจำนวน 30 ชิ้น เพื่อให้เยาวชนได้ใช้ประโยชน์และทำให้สวนดังกล่าวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3. การทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ “Queen Sirikit: The Jewel of the Kingdom” ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้จัดพิมพ์จำนวน 1,200 เล่ม โดยมีรายละเอียดแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลและพระบรมฉายาลักษณ์เกี่ยวกับการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งในส่วนการโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการเสด็จฯ ของพระองค์เอง พระราชกรณียกิจในการส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานและผลิตภัณฑ์ของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์ การพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนต่างประเทศในโอกาสต่างๆ และในส่วนสุดท้ายจะเกี่ยวข้องกับรางวัลและเกียรติคุณต่างๆ ที่เคยได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายการจัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านการต่างประเทศ ที่ได้ทรงมีบทบาทในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ รวมทั้งพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงนำศิลปวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ในต่างประเทศต่อไป
4. การจัดการแสดงทางวัฒนธรรมหน้าพระที่นั่งของสถานเอกอัครราชทูต 5 ประเทศคือ ชิลี (การเต้นรำพื้นเมือง) จีน (การรำมวยจีน และระบำพื้นเมือง) อินเดีย (ระบำพื้นเมือง) สิงคโปร์ (การขับร้องเพลงประสานเสียง) และการขับร้องเพลง Queen of Our Hearts โดยภริยาคณะทูตานุทูตและภริยาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะบรรเลงเพลงประกอบโดยวงดนตรีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ร่วมกับวงหัสดนตรีของกองดุริยางค์ทหารเรือ ทั้งนี้ เนื้อร้องและทำนองของเพลงดังกล่าวประพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยนายจักรกฤษณ์ ศรีวลี ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ท่านผู้หญิง ดร. สุธาวัลย์ เสถียรไทย ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนางระวีวรรณ กาญจนกุญชร ภริยาปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ ได้ร่วมกันการแถลงข่าว ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในงานเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ณ สวนสาธารณะเบญจกิติ (ในบริเวณใกล้เคียงกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2547 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นความริเริ่มและตั้งใจของคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังเป็นการแสดงถึงความซาบซึ้งของชาวต่างประเทศในพระราชกรณียกิจด้านสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมสวัสดิการของสตรีและเด็กที่ไม่เพียงแต่จะยังประโยชน์เฉพาะแก่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลอันประมาณค่ามิได้แก่ประชาคมโลกโดยรวมด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จะจัดขึ้นประกอบด้วย
1. การพระราชทานรางวัลแก่ชาวต่างชาติที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยจำนวน 2 ราย ซึ่งได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ประกอบด้วย 1) สาขาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้แก่ ดร. Warren Y. Brockelman ชาวอเมริกัน ซึ่งเดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2516 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในภาควิชาชีววิทยาของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีผลงานดีเด่นทางวิชาการและบทบาทด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และ 2) สาขาการส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์สตรีและเด็ก ได้แก่ บาทหลวง Joseph H. Maier, CSs.R. ชาวอเมริกัน ซึ่งเดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2510 และเป็นผู้ก่อตั้งและ ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล (Human Development Foundation: HDF) ที่ชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กที่ถูกทารุณกรรม และผู้ป่วยโรคเอดส์จำนวนกว่า 200 คน ทั้งนี้ การพระราชทานรางวัลแก่ชาวต่างชาติมีผลงานดีเด่นดังกล่าวจะเป็นแรงจูงใจให้มีผู้กระทำประโยชน์แก่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
2. การจัดสร้างสวนรุกขชาติและสนามเด็กเล่น ซึ่งกลุ่มภริยาคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยเป็นผู้เสนอ และได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตและรัฐบาลของแต่ละประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูต 66 ประเทศ ได้จัดหาต้นไม้จำนวน 400 ต้น ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นผู้จัดหา โดยจะมีการปลูกต้นไม้ดังกล่าวในบริเวณสวนสาธารณะเบญจกิติ และมีป้ายระบุชื่อพันธุ์ และประเทศผู้บริจาค เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบรายละเอียดด้วย นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูต 5 ประเทศได้แก่จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย และอิยิปต์ ได้ให้ความอนุเคราะห์จัดประติมากรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตนขึ้นในบริเวณสวน และสถานเอกอัครราชทูต 14 ประเทศ ให้ความอนุเคราะห์เครื่องเล่นเด็กจำนวน 30 ชิ้น เพื่อให้เยาวชนได้ใช้ประโยชน์และทำให้สวนดังกล่าวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3. การทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ “Queen Sirikit: The Jewel of the Kingdom” ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้จัดพิมพ์จำนวน 1,200 เล่ม โดยมีรายละเอียดแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลและพระบรมฉายาลักษณ์เกี่ยวกับการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งในส่วนการโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการเสด็จฯ ของพระองค์เอง พระราชกรณียกิจในการส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานและผลิตภัณฑ์ของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์ การพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนต่างประเทศในโอกาสต่างๆ และในส่วนสุดท้ายจะเกี่ยวข้องกับรางวัลและเกียรติคุณต่างๆ ที่เคยได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายการจัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านการต่างประเทศ ที่ได้ทรงมีบทบาทในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ รวมทั้งพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงนำศิลปวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ในต่างประเทศต่อไป
4. การจัดการแสดงทางวัฒนธรรมหน้าพระที่นั่งของสถานเอกอัครราชทูต 5 ประเทศคือ ชิลี (การเต้นรำพื้นเมือง) จีน (การรำมวยจีน และระบำพื้นเมือง) อินเดีย (ระบำพื้นเมือง) สิงคโปร์ (การขับร้องเพลงประสานเสียง) และการขับร้องเพลง Queen of Our Hearts โดยภริยาคณะทูตานุทูตและภริยาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะบรรเลงเพลงประกอบโดยวงดนตรีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ร่วมกับวงหัสดนตรีของกองดุริยางค์ทหารเรือ ทั้งนี้ เนื้อร้องและทำนองของเพลงดังกล่าวประพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยนายจักรกฤษณ์ ศรีวลี ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-